เป็นที่ฮือฮาฮาฮือเมื่อมีสมาชิกเว็บ Pantip ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องอยู่ดีๆจอมือถือราคาแพงลิบอย่าง Galaxy Note II ก็สามารถแตกได้เองทั้งจออย่างสวยงามราวกับศิลปะ แถมยังไม่ได้รับการซ่อมตามประกันจากศูนย์ซัมซุงเพราะศูนย์วิเคราะห์ว่าเกิดจากการทำตกเอง เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นยังไงนั้น ขอมาแชร์เรื่องราวให้ฟังกันจ๊ะ

Galaxy Note II with Gorilla Glass 2 experience thermal shock

ย้อนหลังไปเมื่อห้าปีที่แล้ว สมัยไอโฟนเพิ่งเกิดมาใหม่ๆ … อ่อ ย้อนนานไป เอาใหม่ เรื่องมันเกิดเมื่อประมาณ 2 อาทิตย์ที่แล้ว หลังจากเจ้าของเครื่องซื้อ Galaxy Note II นี้มาใช้มา 23 วัน ทางเจ้าของเครื่องก็ชาร์จแบตเครื่องตามปกติ แต่แล้วระหว่างชาร์จอยู่ก็มีเสียงเปรี้ย เปรี้ย แปะ โป๊ะ พอหยิบเครื่องขึ้นมาดูก็พบว่าจอแตกทั้งจอ ในขณะเดียวกันเครื่องก็มีความร้อนสูงมาก

จากนั้นเจ้าของเครื่องจึงเอาเครื่องเข้าศูนย์ แต่แล้วทางศูนย์ก็ลงความเห็นว่าเหตุการณ์นี้เกิดจากทำตกเองจนจอแตกละเอียด ซึ่งเอาจริงๆแล้วจะให้แตกแบบนี้คงต้องตกจากชั้น 20 และจะไม่ได้แตกแค่จอ หรืออีกวิธีนึงคือต้องให้รถทับ และเช่นเดียวกัน ส่วนอื่นๆของเครื่องก็คงจะบุบสลายไปด้วย แต่ในกรณีนี้บอร์ดี้ของเครื่องยังสวยงามอยู่เลย แต่ยังไงก็ตาม สิทธิ์ของผู้บริโภคถูกปฏิเสธโดยช่างผู้คุมศูนย์อยู่ดี สุดท้ายทางศูนย์ยื่นข้อเสนอว่าจะเปลี่ยนจอให้ในราคาทุน ไม่คิดค่าแรง ซึ่งไม่แฟร์สุดๆ

more photo from different angle

definitely not cause from dropping as no crack or dent corner

แยกประเด็น

เรื่องนี้มีอยู่สองประเด็นที่ต้องพูดถึงแยกกัน

1) มันแตกได้ยังไง?

จอของ Samsung Galaxy Note 2 เป็น Gorilla Glass 2 ที่คุยนักคุยหนาว่ากันรอยและอดทนมากมาย เพราะมันถูกละลายด้วยความร้อน 400 องศาเซลเซียสก่อนจะมาเป็นกระจกสุดทนต่อทุกแรง ถึงจะแตกได้แต่ก็แตกยากมาก แล้วเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? น่าจะเกิดจากสองปัจจัยมาบรรจบกันพอดีคือเจ้าของเครื่องได้เล่นมือถือมาซักระยะหนึ่งแล้วก็มาเสียบชาร์จแบต แต่เครื่องเหมือนจะมีอุณหภูมิสูงมากขึ้นด้วยเหตุใดไม่ทราบได้ (ต้องหาสาเหตุกันต่อไป) และอุณหภูมิห้องขณะนั้นคือ 25 องศาเซลเซียสจากการเปิดแอร์ ส่งผลให้ความร้อนภายในทำให้ผิวกระจกด้านในขยายตัว ในขณะเดียวกันแอร์ทำให้ผิวกระจกภายนอกหดตัว (ภาษาทางการเขาเรียกว่า Thermal Shock) และประกอบกับการที่ Gorilla Glass 2 มีความบางลงกว่า Gorilla Glass มาก เลยเกิดอาการลั่นเปรี๊ย เปรี๊ย แล้วก็แตกกกกกสิครับ กลับกลายเป็นว่าความบางของ Gorilla Glass 2 กลายเป็นข้อเสียซะงั้น !

2) ศูนย์ซัมซุงไม่รับผิดชอบ

อันนี้เป็นอีกประเด็นที่แยกขาดจากข้อ 1 เพราะเครื่องขายได้ 10 ล้านเครื่อง จะมีเครื่องที่ไม่มีปัญหาเชียวหรือ? เป็นไปไม่ได้หรอก แต่ “บริการหลังการขาย” เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากมีปัญหาก็ต้องรับผิดชอบอย่างจริงใจ สำหรับกรณีนี้หากเป็นไปตามที่เจ้าของเครื่องว่าไว้จริง ต้องบอกว่าศูนย์บริการของซัมซุงได้ทำร้ายลูกค้าอย่างร้ายแรงทั้งใจและเงิน เพราะของราคาไม่ใช่ถูกๆ และปัญหาก็เกิดจากผู้ผลิตเองไม่ใช่ลูกค้า แต่กลับถูกศูนย์บอกว่าเป็นความผิดลูกค้าและต้องจ่ายเงินค่าซ่อมอีก เป็นเรื่องที่เลวร้ายซ้อนเลวร้ายอีกทีหนึ่งและไม่น่าให้อภัยเป็นอย่างยิ่ง น่าเศร้าที่สคบ.ช่วยอะไรไม่ได้ ต้องอาศัยสังคมออนไลน์ช่วยกันตีแผ่เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม … ยิ่งถ้าได้ออกสรยุทธ์จะเร็วขึ้นอีกหลายเท่า

*update ตอนนี้ samsung ได้ออกมารับผิดชอบแล้วนะครับ ทางเจ้าของเครื่องสามารถเปลี่ยนจอได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

สำหรับปัญหาดังกล่าวค่อนข้างเป็นไปได้ว่าเกิดจาก Gorilla Glass 2 เพราะกรณีนี้ไม่ได้เกิดกับเจ้าของเครื่องรายนี้เพียงผู้เดียว หากแต่ยังเกิดกับเครื่องจำนวนหนึ่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ และยังไม่ได้จำกัดแต่ Note 2 อีกด้วย เพราะล่าสุดมีรายงานจากผู้ใช้ Nexus 4 และ Optimus G ว่าฝาหลัง Gorilla Glass 2 ก็เกิดรอยแตกโดยไม่ต้องทำตกเช่นกัน

สรุปเรื่องทั้งหมด จากนี้หากจะซื้อมือถือจอ Gorilla Glass 2 คงต้องคิดดูให้ดีหน่อยแล้วครับ และหากเรื่องราวยังไม่ได้รับการแก้ไข คนที่คิดจะซื้อ Galaxy Note 2 หรือเครื่องอื่นๆ ที่ใช้ Gorilla Glass 2 คงต้องคิดหนักขึ้นแล้วครับ

Source: Pantip, DroidLife