­งานนี้รู้สึกว่าตัวเองพลาดมาก ที่ไปลองเล่น Google Pixel 3 XL เรื่องหน้าตาก็อย่างที่รู้กัน ด้วยรอยบากใหญ่ที่สุดในสามโลกมันทำให้มือถือต้นแบบอย่าง iPhone X ต้องร้องไห้ ชนิดที่ทีมออกแบบใน Apple ต้องรู้สึกผิดว่าไม่น่าทำ notch screen ออกมาบนโลกใบนี้ (เยอะไปละ) จากที่ตอนแรกเฉยๆ พอหยิบเครื่องพลิกไปพลิกมา ลองกล้องนิดๆ หน่อยๆ ก็วางเครื่องเลย แล้วก็หันไปถามพนักงานว่า “มีของมั้ยครับ”

อาจจะด้วยความเคยชิน ถึงแม้ส่วนตัวจะไม่ได้ใช้ iPhone X แต่มือถือที่ผ่านมือในช่วง 3-4 เดือนนั้นเป็นมือถือจีนที่นำ notch screen มาใช้กันเยอะแยะมากมาย จากที่เคยรู้สึกไม่ชอบ ตอนนี้เลยกลายเป็นรู้สึกเฉยๆ ไปแล้ว ส่วนนึงคือพื้นที่ข้างติ่งซ้ายและขวานั้นก็เป็นการเอาพวกเสาสัญญาณ เวลา ข้อมูลแบตไปวางเอาไว้ ก็เลยรู้สึกว่ามันไม่ได้ทำให้พื้นที่หน้าจอหายไป

ขนาดตัวเครื่องก็ถือว่าใหญ่นิดๆ เต็มมือหน่อยๆ ในรุ่น XL และ UI ตอนนี้ก็กลายเป็น Gesture ไปหมดแล้ว ซึ่งเราก็ต้องใช้แท่งข้างล่างในการควบคุมหน้าจอ ไถไปไถมา เหมือนเล่นเกม Arkanoid ตลอดเวลา อันนี้ผมเองก็ยังไม่ค่อยชินเท่าไหร่ แต่ช่วงที่ลองกับ Pixel รุ่นแรกก็ใช้เวลาไม่นานก็คุ้น (แต่ตอนนี้ก็แอบลืมๆ ไปบ้างแล้ว)

ส่วนใครที่บ่นว่าติ่งข้างบนหนะไม่เท่าไหร่ แต่ทำไมขอบจอล่างต้องหนาด้วย นั่นก็เพราะว่า Pixel 3 / 3 XL เลือกที่จะเอาลำโพงวางไว้ตรงนั้น เพื่อจะให้เสียงของลำโพงคู่นั้นยิงจากฝั่งของหน้าจอออกมาหาเราโดยตรง ไม่ได้เอาไปไว้ท้ายเครื่องเหมือนที่นิยมกัน

ถึงแม้ว่าเครื่องจะใหญ่ แต่ขนาดตัวเครื่องนั้นถือว่าบางพอสมควร แล้วน้ำหนักก็ค่อนข้างเบา ดูในภาพอาจจะเหมือนหนานิดๆ แต่นั่นเพราะไม่ได้มีการใช้จอโค้งที่ทำให้ขอบข้างดูเล็กลงเหมือนหลายๆ รุ่น

ดีไซน์รอบตัวเครื่องของ Pixel 3 XL ก็ยังเน้นความเรียบง่าย ด้านบนและด้านข้างฝั่งซ้ายนั้นโล่งไปหมด

ส่วนปุ่มพาวเวอร์นั้นก็มีการใช้สีที่แตกต่างกับตัวเครื่องเป็นลูกเล่นเบาๆ สีขาวจะมีปุ่มสีเขียว สีชมพูจะมีปุ่มสีส้มๆ ส่วนสีดำจะมีปุ่มสีดำ ซึ่งตำแหน่งของปุ่มจะถูกวางไว้บริเวณกลางเครื่องขึ้นไป เหลือพื้นที่ด้านล่างเอาไว้ให้สำหรับใช้บีบเพื่อสั่งการ

ส่วนด้านหลังที่มีการใช้กระจกทำออกมาเป็น 2 รูปแบบบนชิ้นเดียวกันคือมีทั้งความเงาในแถบของกล้อง และด้านล่างเป็นผิวด้านนั้น จับแล้วไม่รู้สึกถึงรอยต่อ ผิวสัมผัสดี แถมส่วนที่ด้านก็ช่วยให้เครื่องไม่เป็นรอยนิ้วมือเลอะเทอะด้วย

มีเวลาพอลองเล่นโหมดกล้องอีกนิดหน่อย เริ่มจาก Hige Res Zoom กันก่อน ซึ่งจากที่ลองเลื่อนๆ ดู ก็รู้สึกว่ามันก็ยังดูมีความคล้ายดิจิตอลซูมอยู่ มีเรื่องของพิกเซลให้เห็นบ้างเมื่อซููมไปสักระยะที่ 3 แต่อาจจะเป็นเพราะในซ็อปของ vodafone นั้นก็ถือว่าแสงไม่ได้สว่างมาก

บวกกับข้อจำกัดของเซนเซอร์กล้องมือถือด้วย คาดว่าถ้าได้ไปลองข้างนอกแบบ Outdoor อาจจะได้ผลที่แตกต่างกัน

ส่วนกล้องหน้าพอมีกล้อง Ultra Wide เพิ่มเข้ามาก็เลยสามารถปรับระยะการเซลฟี่ได้มากขึ้น ซึ่งกล้องหลักมันก็ Wide ในระดับนึงอยู่แล้ว พอมีอีกตัวมาช่วยก็ยิ่งกว้างเข้าไปอีก เก็บพื้นที่ต่างๆ รอบตัวได้มากขึ้น และยัดเพื่อนๆ เข้ามาได้เยอะขึ้นด้วย

ส่วนโหมด Portriat ก็ยังเทพเหมือนเดิม ละลายหลังเนียนกริบ ตัดขอบได้ธรรมชาติ และที่สำคัญคือใครที่เคยบ่นว่ากล้องหน้าของ Pixel และ Pixel 2 นั้นมันจริงเกินไป เน้นคมชัดจนริ้วรอยมันมาเต็ม ตอนนี้มีโหมดบิวตี้ให้เปิดใช้งานแล้ว และมันก็เกลี่ยหน้าได้เนียนกำลังพอดี ไม่หลอกตัวเองจนเกินไป ฮ่าๆ

สุดท้ายก็เลยโดน Pixel ตกจนได้ คงต้องไปหามาไว้ใช้สักเครื่องแล้วแน่เลย T T แต่จะเป็น Pixel 3 หรือ Pixel 3 XL อันนี้ยังไม่รู้เหมือนกัน เพราะพนักงานก็บอกว่ากว่าของจะเข้าก็วันที่ 1 พฤศจิกายนโน่นเลย ซึ่งผมเองก็ต้องบินกลับเมืองไทยวันนี้แล้ว ก็อดไปตามระเบียบ