ช่วงนี้หลายๆคนน่าจะได้เห็นโฆษณาของ Samsung Galaxy S6 Edge Plus ที่พูดถึงการถ่ายภาพน้ำกระเซ็น ของตกแตกกระจาย ด้วยเทคนิค High Speed Shutter พร้อมให้สโลแกนว่า “เราถ่ายได้ คุณก็ถ่ายได้” ซึ่งหากใครใช้กล้อง DSLR หรือเคยเรียนถ่ายภาพมาก่อนก็น่าจะพอรู้จักหรือเคยลองกันมาแล้ว แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้และสงสัยว่ามันง่ายจริงเหรอ และมันต้องถ่ายยังไง วันนี้เดี๋ยวเราลองมาดูกันค่ะ
ทำความรู้จักกับ High Speed Shutter
อันนี้ต้องบอกก่อนนะคะว่าไม่จำเป็นต้องเป็น Samsung Galaxy S6 edge Plus รุ่นเดียวเท่านั้น แต่ Samsung Galaxy Note 5, LG G4 หรือสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่มี Manual Mode และมีความสามารถในการปรับความเร็วชัตเตอร์ (Speed Shutter) สูงๆ, ISO และ Manual Focus ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ โดยปัจจัยหลักๆ ที่เราต้องดูคือ
- วัตถุที่เราจะถ่าย
- สภาพแสง
- ระยะโฟกัส
ถ้าเลือกพร๊อบไม่ดี ภาพจะออกมาไม่ค่อยสวย วัตถุความเร็วสูงจะเห็นไม่ชัด
ก่อนอื่นเราต้องหาพร๊อบอุปกรณ์ที่เราจะใช้ถ่ายและคิดภาพก่อนว่าเราจะถ่ายออกมาประมาณไหน ซึ่งงานนี้เราเลือกถ่ายน้ำค่ะ เพราะสามารถนำไปเล่นกับพร๊อบอื่นๆ ได้เยอะ รวมถึงยังหาง่ายและใกล้ตัวที่สุด แต่ก็เลอะเทอะและมีความเสี่ยงต่ออุปกรณ์เช่นกัน ดังนั้นตอนถ่ายก็ระมัดระวังกันนิดนึงนะคะ
แสงที่เหมาะสมคือช่วง 8-9 โมงหรือบ่าย 3-5
ต่อมาก็เป็นเรื่องของสภาพแสง ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการถ่ายภาพที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะยิ่งเราปรับความเร็วชัตเตอร์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องใช้แสงในการถ่ายมากขึ้นด้วย มิฉะนั้นภาพก็จะมืดๆถ่ายมองอะไรไม่เห็น ชัตเตอร์เร็วขึ้นเท่าไหร่ แสงก็เข้าถึงเซนเซอร์ได้น้อยลงเท่านั้น หากใครไม่มีอุปกรณ์เสริมอย่างอื่นช่วย เช่น แฟลช หรือ ไฟสตูฯ ก็สามารถนำวัตถุที่เราจะถ่ายออกไปกลางแจ้ง ช่วงเวลาที่กำลังเหมาะก็ตอนเช้า ช่วง 8-9 โมง หรือ ช่วงบ่าย 3 – 5 โมงเย็นก็กำลังดีค่ะ แดดไม่ร้อนเกินไปด้วย
เมื่อเราดัน Speed Shutter ซัก 1/1000s ขึ้นไปเนี่ยภาพก็จะเริ่มมืด เราก็สามารถดัน ISO หรือปรับชดเชยแสงขึ้นไปช่วยด้วยก็ได้ค่ะ แต่สมาร์ทโฟนเดี๋ยวนี้ก็ให้ความกว้างของรูรับแสงมาเยอะอยู่พอสมควร ซึ่งก็ช่วยให้เราสามารถใช้ความเร็วสปีดชัตเตอร์สูงๆ ได้อยู่พอสมควรเลยค่ะ แต่ทั้งนี้ก็อาจจะมีผลกับระยะโฟกัสด้วย ดังนั้นก็ต้องกะให้พอดีนะคะ
ลองถ่ายจริง ชีวิตไม่ได้ง่ายดั่งในโฆษณา
จากที่ได้ยินมาว่า “เราถ่ายได้ คุณก็ถ่ายได้” ซึ่งดูเหมือนว่าจะง่ายนะคะ แค่ตั้ง Speed Shutter ให้สูงๆ ก็ถ่ายได้แล้ว แต่กว่าจะได้ภาพแบบนี้มานั้นบอกเลยว่าไม่ง่ายเหมือนในโฆษณาเอาซะเลย (; w ; )โอ้โห พอลองถ่ายจริงๆ ต้องวิ่งวุ่นหาพร๊อบ จัดแสง และหามุมให้วุ่น กว่าจะถ่ายได้แต่ละภาพ กดได้จังหวะที่เหมาะๆ น้ำกระเด็นขึ้นมาสวยๆ นี่ก็ไม่ต่ำกว่า 30 ช็อต ยังไม่นับรวมภาพที่เสียอีกไม่รู้กี่ภาพ กว่าจะได้แบบสวยๆ ชัดเป๊ะ
รวมๆแล้วใช้เวลาทดลองถ่ายไปไม่ต่ำกว่า 5ชม. (ในหาของมาลอง+หาสถานที่+จัดแสงไฟ+ทำความเข้าใจการทำงานของกล้องบน Galaxy S6 Edge Plus) ถ่ายไปร่วม 700 รูป หมดเมมไปกว่า 2.5GB
กดชัตเตอร์ไม่พอดี ไม่เห็นภาพวัตถุที่ตรงผิวน้ำ ไม่ผ่าน!
แสงไม่สัมพันธ์กับสปีดชัตเตอร์ ภาพมืดเกิน ไม่ผ่าน!
โฟกัสหลุด ภาพเบลอไม่ชัด ไม่ผ่าน!
ถ่ายอะไรมาไม่รู้ดูไม่รู้เรื่อง ไม่ผ่าน!
แต่สุดท้ายเราก็ถ่ายได้ภาพสวยๆออกมา และผลลัพธ์ที่ได้มาก็คุ้มค่าดีแท้ 😀
มาดูภาพตัวอย่างที่ถ่ายออกมากันเล้ยย ~~~ (ส่วนภาพแบบสดๆ ไม่ผ่านการตกแต่งดูได้ข้างล่างสุดเลยค่ะ ^^”)
Speed Shutter 1/3000s, ISO 800, f/1.9
Speed Shutter 1/4000s, ISO 800, f/1.9
Speed Shutter 1/4000s, ISO 800, f/1.9
Speed Shutter 1/2000s, ISO 400, f/1.9
Speed Shutter 1/4000s, ISO 800, f/1.9
Speed Shutter 1/4000s, ISO 800, f/1.9
Speed Shutter 1/4000s, ISO 800, f/1.9
Speed Shutter 1/4000s, ISO 800, f/1.9
Speed Shutter 1/4000s, ISO 800, f/1.9
Tips & Tricks ในการถ่ายภาพ High Speed Shutter
จากความลำบากยากเข็ญข้างต้น วันนี้เราเลยจะนำประสบการณ์มาบอกเล่า รวมถึงเทคนิคเล็กๆน้อยๆจากการลองถ่ายด้วยเทคนิค High Speed Shutter มาฝากกันค่ะ ^^
ทริคเล็กๆสองอย่างคือ
1. วัดแสงให้พอดี ดันความไวชัตเตอร์ไปให้เกิน 1/2000 เพราะเท่าที่ลอง ถ้าต่ำกว่านี้ ภาพมักจะไม่คมชัดดูหยุดสนิทขนาดนั้น
ภาพนี้ทั้งน้ำสาดไม่สวยและความเร็วชัตเตอร์ไม่พอ
2. โฟกัสให้ตรง กะจุดที่วัตถุจะตกลงมาให้พอดี เช่น ตอนถ่ายภาพเมนทอสตกลงไปในแก้วน้ำนี่ก็ใช้นิ้วกะระยะก่อน แล้วตอนโยนเมนทอสลงไปก็กะให้พอดีกับตำแหน่งที่วัดไว้ก็ถือว่าช่วยได้เยอะเลยค่ะ
เอาวัตถุอื่นเช่น “นิ้ว” ไปใช้ในการวัดบริเวณที่วัตถุจะตกลงมา
รวมถึงหากใช้น้ำหวาน หรือน้ำอัดลมที่มีความหวานที่มีความหนืดหรือมวลหนาแน่นนิดนึงก็จะช่วยให้ถ่ายน้ำตอนกำลังหยดได้ง่ายขึ้น ส่วนใครที่คิดว่าถ่ายแบบ Burst Shot ก็ได้เหมือนกัน อันนี้ก็ลองแล้วแต่ว่าปัญหาอยู่ที่มันจะไม่ได้ดันให้ speed shutter ขึ้นไปสูงๆทำให้ภาพออกมาไม่หลุดเคลื่อนไหว
นั่งลองถ่ายตั้งแต่บ่ายยันหัวค่ำจนต้องใช้ไฟอื่นช่วย
สรุปแล้วกว่าจะได้มาแต่ละภาพนี่ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงในการลองผิดลองถูก พยายามงัดทฤษฎีถ่ายภาพตอนเรียนมาประยุกต์ใช้แบบสุดๆ เล่นเอาเหนื่อยเลย เพราะเป็นครั้งแรกที่ลองถ่ายภาพ High Speed Shutter ด้วยกล้องสมาร์ทโฟน แต่ยังไงก็หวังว่าประสบการณ์และทริคเล็กๆ น้อยๆ ที่นำมาแบ่งปันนี้จะช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่อยากลองถ่ายได้ไม่มากก็น้อยนะคะ หากใครที่ลองถ่ายแล้วไม่สำเร็จก็อยากให้ลองพยายามหลายๆ ครั้งนะคะ ไม่มีใครทำสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกหรอกเนาะ หากเพื่อนๆ มีข้อสงสัย อยากจะแนะนำเทคนิคในการถ่ายภาพแบบ High Speed Shutter เพิ่มเติม หรืออยากจะแชร์ภาพที่เคยถ่ายไว้ ก็สามารถคอมเมนท์พูดคุยกันได้เลยนะคะ (^^)
ขอบคุณพี่กิม (@Gimme) ผู้ชักภาพข้างต้นทั้งหมด และพี่แป้ง (@Peanutto) กับคุณลุง (@octopatr) ที่ช่วยเหลือตลอดการถ่ายทำครั้งนี้ด้วยค่ะ . / .
ไม่เห็นต้องใช้ SAMSUNG เลย
จริงๆรุ่นอื่นๆ ยี่ห้ออื่นๆ ที่ปรับสปีดชัตเตอร์สูงๆได้
ก็น่าจะได้นะคะ ยังไม่เคยลอง
พอดีมีตัวนี้เลยหยิบมาลองก่อนนน ^ ^"
อันนี้ต้องบอกก่อนนะคะว่าไม่จำเป็นต้องเป็น Samsung Galaxy S6 edge Plus รุ่นเดียวเท่านั้น แต่ Samsung Galaxy Note 5, LG G4 หรือสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่มี Manual Mode และมีความสามารถในการปรับความเร็วชัตเตอร์ (Speed Shutter) สูงๆ, ISO และ Manual Focus ก็สามารถทำได้เช่นกันค่ะ
น้องเค้าเขียนเอาไว้แล้วนะ 🙂
Samsung จ่ายค่าโฆษณาเยอะกว่าเจ้าอื่น เรื่องนี้ถึงเบื่อก็ต้องทนครับ เพราะคนเขียนข่าวก็ต้องการเงินใช้เช่นกันครับ
เออ..คนเราก็ต้องกินต้องใช้นะครับ ถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้างก็ปล่อยผ่านเถอะครับแค่เล็กๆน้อย
ใช้กล้องจริง ๆ ง่ายกว่าเยอะเลย
สนุกดีนะครับสำหรับรุ่นที่ทำได้
อ่านจบปุ๊บ ลองกะ nexus 5 ที่ว่ากันว่ากล้องกากปั๊ป…
แสงไม่พอ noise กระจายยย
ถ่ายกับแอพอะไรครับ
ใช้ AZ Camera + snapseed
ถ่ายในห้องน้ำแสงน้อยครับ
O o O ว้าวววววววว
จริงๆๆ เรื่อง Speed shutter มันคุมผ่านการวัดแสง และ ค่า iso ก็ได้นะครับ ไม่จะเป็นต้องตั้งค่าตัว Speed เลย
ส่วนตัวแล้วอยากให้ โทรศัพท์ ปรับค่า F ได้ด้วยมากกว่า
หลายๆเครื่องมันตั้งค่า shutter speed ได้ไม่ถึงพันเลยครับ
แล้วปกติค่า default ของโหมด auto มันจะปรับมาให้พอดีถ่ายภาพ highspeed ได้ยากมากครับ ถ้าจะถ่ายจริงๆยังไงถ้าปรับแบบ manual ได้ก็กินครับ
การตั้งค่า speed shutter สูง ๆ ก็เพื่อที่จะหยุดวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ ดังนั้นถ้าต้องการที่จะถ่ายวัตถุที่เคลื่อนไหวให้หยุดนิ่งได้ต้องกำหนดค่า speed shutter เป็นหลักแล้วปรับค่า F และ ISO ตาม เพื่อให้ได้ค่าการวัดแสงที่สมดุลครับ
แต่ ณ ที่นี้ การตั้งชัตเตอร์สปีตเป็นปัจจัยโดยตรงครับ
เพราะเราต้องการให้ชัตเตอร์เร็ว เพื่อหยุดการเคลื่อนไว
การที่ทำอยากได้แบบนั้น แล้วไปปรับที่ ISO หรือ F มันจะเป็นการแก้ปัญหาทางอ้อมรึเปล่า
(แต่สำหรับมือถือที่ตั้งค่าสปีตไม่ได้ ก็จำเป็นที่ต้องทำแบบนั้น)
ส่วนเรื่องมือถือที่ปรับ F ได้ เป็นเรื่องที่ยากครับ
เพราะ F คือรูรับแสง ถ้าเป็นกล้องดิจิตอล มันต้องมีใบเบลดเพื่อควบคุมตรงนี้
ซึ่งถ้ากล้องมือถือยัดไอ้นี่เข้ามา มันต้องใหญ่เบิ้มแน่นอน
5 ชั่วโมง
ผมดูในทีวีโฆษณาเอาเด็กอนุบาลมาถ่ายนะครับ
#แซวเล่นจ้าา