มีปัญหาการไม่มีบัตรเครดิต ซื้อ app ยังไง? หรือว่าถ้าใช้ iPhone iPad ไม่มีบัตรเครดิตอยากสมัคร Apple ID จะทำอย่างไร? ไหนๆเว็บเราก็รณรงค์เรื่องการใช้แอพถูกลิขสิทธิ์มาก็ตั้งนาน เคยเขียนเรื่องนี้เอาไว้ตั้งแต่สมัยที่ยังเป็น Android Market และประเทศไทยถูกจำกัดให้ซื้อแอพไม่ได้ด้วยซ้ำไป (ยืดอก ซื้อ App กระเป๋าไม่แฟบ เพราะ App เค้าถูก (ซื้อ app บน android market) ซึ่งมันก็นานนนนน จนใช้ไม่ได้ละ แต่เมื่อ Meeting ครั้งที่ผ่านมาเราได้มีแจกเอกสารนี้ให้เพื่อนๆที่ไปร่วมงานกันเอาไว้ จึงขอเอามาปัดฝุ่นเขียนใหม่ให้ได้อ่านกันอีกที โดยวิธีก็คือการใช้บัตรเดบิตแทนบัตรเครดิตในการซื้อแอพนั่นเอง ซึ่งตอนนี้มีเพียง 2 ธนาคารที่เปิดให้บริการนี้อยู่คือ ธนาคารกรุงเทพ และ ธนาคารกสิกรไทย ส่วนธนาคารอื่นๆ “หมดสิทธิ์” สำหรับวิธีการก็ไม่ยากอะไร มีขั้นตอนการสมัครของแต่ละแบงค์ดังนี้

 

วิธีการสมัครบัตรเดบิต Be1st ของธนาคารกรุงเทพ (ง่ายกว่าของกสิกร)

ถ้าใครยังไม่มีก็สามารถไปทำบัตรใหม่ได้ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขาใกล้บ้าน โดยต้องเตรียม

  • เตรียมบัตรประชาชน

  • ค่าธรรมเนียมบัตร ( 300 บาท )

  • เงินฝาก 500 บาท

เดินเข้าไปหาพนักงานยิ้มหวานๆ หน้าน่ารักๆ (อาจจะหายากหน่อยจากแบงค์นี้ :P) ขอเปิดบัญชีออมความรัก เอ้ย ออมทรัพย์ และแจ้งว่าต้องการบัตรเดบิต Be1st เท่านี้ ก็เรียบร้อย สังเกตความถูกต้องว่าต้องมีสัญลักษณ์ VISA อยู่หน้าบัตร แค่นี้เราก็พร้อมที่จะนำบัตรไปใช้แทนบัตรเครดิตได้ทันที

[updated] สำหรับคนใช้ กสิกรจะเลือกใช้ได้สองแบบคือสมัครบัตร debit เหมือน ธนาคารกรุงเทพฯ ใช้งานได้เหมือนบัตรเครดิตเลย แต่จะเสียค่าบริการรายปี 300บาท สมัครได้ที่ตู้ ATM หรือว่าจะใช้ K-Web Shopping Card ตามวิธีด้านล่างนี่ก็ได้ ไม่มีค่าบริการรายปีครับ2

วิธีการสมัคร K-Web Shopping Card จากธนาคารกสิกร

สำหรับของธนาคารกสิกรจะมีความต่างอยู่เล็กน้อย โดยเราไม่จำเป็นต้องทำบัตรก็ได้ แต่เป็นการผูกกับบัญชีออนไลน์ของเรา ซึ่งถ้าใครยังไม่มีบัญชีก็สามารถเดินไปสมัครได้ที่แบงค์สาขาใกล้บ้านอีกเช่นเดิม โดยครั้งนี้เตรียมเพียง

  • เตรียมบัตรประชาชน

  • เงินฝาก 500 บาท

แบงค์นี้จะหาพนักงานหน้าตาดีง่ายกว่าแบงค์ข้างต้นมาก ฉะนั้นระหว่างเปิดบัญชีก็สามารถขอเบอร์ และออมใจกันตามสะดวกครับ…แต่พอเจรจาพาทีเสร็จแล้วก็อย่าลืมบอกน้องนางให้ช่วยสมัครบริการ K-web Shopping Card และ K-Cyber Banking เอาไว้ให้ด้วยในกรณีที่ยังไม่มีอะไรเลย เพื่อเราจะได้ดำเนินการต่อบนเว็บได้ทันที

 

วิธีการสมัคร/เปิดใช้บริการที่ K-Cyber Banking

  • Login เพื่อเข้าสู่บริการ K-Cyber Banking ของธนาคารกสิกรไทย (ถ้ายังไม่เคยมี Username และ Password มาก่อน ต้องรอเอกสารส่งมาให้นะ)
  • เลือกเมนู “K-Web Shopping Card” ทางด้านซ้าย และเลือก “สมัครใช้บริการ”
  • เลือกบัญชีที่ต้องการใช้ผูกกับบัตร พร้อมระบุวงเงินซื้อสินค้าต่อวันที่ต้องการ (ระหว่าง 0 –100,000 บาท)

  • กรอกรหัส OTP (One Time Password) แล้วกดยืนยัน (สมัครได้ใช้บริการ OTP ได้ที่ K-Contact Center)
  • ระบบจะแจ้งการทำรายการสำเร็จ และส่ง e-mail แจ้งให้ทราบว่า ธนาคารได้รับคำร้องขอสมัครใช้บริการ K-Web Shopping Card แล้ว
  • เมื่อธนาคารออกหมายเลขบัตรแล้วก็จะส่ง e-mail แจ้งให้เข้าไปตรวจสอบรายละเอียดของบัตรได้ที่ K-Cyber Banking
  • สามารถเพิ่มความปลอดภัยในการจับจ่ายมากขึ้น ด้วยบริการ Verified by VISA ซึ่งทำไว้ก็ดีเพราะจะทำให้สามารถเอาไปใช้บริการเพิ่มเติมให้อีกบางเว็บได้

 

แต่ถ้าใครมีบัญชีและบัตรเดบิตของ KBANK อยู่แล้วสามารถขอเปิดใช้บริการที่เครื่องเอทีเอ็มกสิกรไทยได้ทันที

  • เลือกเมนู “สมัคร /เปลี่ยนแปลงการบริการ / บริจาคการกุศล / อื่นๆ”
  • เลือก “สมัครบริการ K-Cyber Banking
  • เลือก “สมัคร K-Cyber Banking และ K-Web Shopping Card
  • ใส่หมายเลขโทรศัพท์มือถือ 10 หลัก
  • กด “ตกลง” เพื่อยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขการสมัครบริการ K-Cyber banking และ K-Web Shopping Card
  • รอรับข้อความยืนยันแจ้งการใช้งาน K-Cyber Banking ทางโทรศัพท์มือถือในวันรุ่งขึ้น
  • Log-in เข้าสู่บรืการ K-Cyber Banking เพื่อดูรายละเอียด K-Web Shopping Card พร้อมใช้งานได้ทันที

 

การกรอกข้อมูลซื้อ App ใน Google Play

เมื่อเรากดซื้อ App ใน Google Play แล้วเรายังไม่เคยผูกการซื้อไว้กับบัตรใดๆ ให้กด Continue ไปได้เลยครับ 

 

กรอกรายระเอียดตามหัวข้อได้เลยครับ โดยช่องที่สำคัญต้องใส่ให้เหมือนรายละเอียดบัตรคือ

  • Card Number (หมายเลขบัตร16หลักหน้าบัตร)

  • MM/YY (วันหมดอายุหรือEXP ของบัตรที่อยู่หน้าบัตรครับ)

  • CVC (เลขสามหลักที่อยู่หลังบัตร )

ในส่วนของ Cardholder name ให้ใส่ชื่อของเราเป็นภาษาอังกฤษครับ สะกดผิดหรือถูกไม่มีผลครับ Street address และ City ให้ใส่ที่อยู่ของเราครับเขียนเท่าที่จำเป็นไม่ต้องเขียนยาวครับ พร้อมกับกรอกเบอร์โทรศัพท์ในช่อง Phone number ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอีกครั้งและให้ทำการ Save ได้เลยครับ เพียงเท่านี้เราก็สามารถซื้อ App ใน Google Play ได้แล้วครับ

ปล. ในการซื้อแอพครั้งแรกโดยผ่านบัตร K-Web Shopping Card ทาง Google Checkout จะทำการหักเงิน 1 USD หรือราวๆ 30 กว่าบาทหรือ 40 บาท (คิดอัตราแลกเปลี่ยนโหดนะ -__-)1 เพื่อเป็นการทดสอบการหักเงิน โดยจะได้เงินส่วนนี้คืนในอีก 30 วันต่อมาครับ แต่ถ้าซื้อผ่านบัตร Be1St ในครั้งแรก จะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆเพิ่มเติม

สำหรับคนที่ใช้บัตรเครดิตอยู่แล้วก็อาจจะพิจารณาใช้วิธีนี้ในการชำระเงินได้นะครับ เพรามีข้อดีของการใช้บัตรเดบิตที่สามารถจำกัดวงเงินได้ชัวร์กว่า ใส่บัญชีไปเท่าไหร่ก็มีเท่านั้น ไม่รั่วเหมือนบัตรเครดิต 

และวิธีการซื้อแอพโดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิตนี้ทั้ง iOS และ Windows Phone สามารถใช้ได้เช่นกันนะ หรือถ้าใครมีปัญหาสมัคร Apple ID, PayPal, Amazon, Ebay หรือ Account อื่นๆตามเว็บที่ต้องการใช้จ่าย ไม่ได้เพราะไม่มีบัตรเครดิต  ก็ใช้วิธีบัตรเดบิตตามข้างบนนี้แก้ปัญหาได้เหมือนกันครับ 

หรือหากเป็นโรคกลัวความน่ารักของสาวแบงค์ กลัวเข้าไปแล้วตกหลุมรัก ก็ยังมีอีกบริการนึงคือ ซื้อ Gift Card หรือบัตรเงินสดเอามาใช้จ่ายแทนก็ได้ แต่กิฟท์การ์ดนี้ยังไม่มีขายในไทย ต้องซื้อผ่านบางคนที่เอามาประกาศขายตามเว็บอยู่ ซึ่งก็มีความเสี่ยงอยู่ในระดับนึง และมีเรทที่แพงกว่าอัตราแลกเปลี่ยนปกติอยู่ราว 30% เลยทีเดียว

ภาพจาก talkandroid.com

จบสมบูรณ์เท่านี้ครับสำหรับวิธีการซื้อแอพเสียเงินผ่าน Google Play Store ไม่ยากเลยใช่มั้ยครับ? 😀
ถ้าใครเพิ่งไปสมัครมา และมีส่วนไหนที่ได้เขียนพลาดไป ขอเชิญชี้แนะได้ทันทีนะ
แล้วยังไงอย่าลืมไปตั้งพาสเวิร์ดป้องกันคนมากดซื้อแอพเล่นกันด้วย ไม่งั้นมีเท่าไหร่ก็อาจจะหมดได้ ^^”

คราวนี้หลังจากซื้อแอพได้แล้ว เดี๋ยวเรามาดูกันว่ามีแอพเสียเงินอะไรบ้างที่น่าสนใจในตอนต่อไปครับ 

บทความนี้เขียนขึ้นโดยอิงจากที่คุณ Note ได้เขียนไว้ตอนงาน Meeting ครั้งที่ผ่านมานะครับ ขอขอบคุณสำหรับข้อมูลมา ณ ที่นี้ด้วย 😉

1อัพเดทจากทางคุณ Mamaew ครับ
2ข้อมูลจาก Sivakorn Sungvornyothin สมาชิกแฟนเพจ droidsans จ้า