เราอยู่ในยุคที่สามารถเข้าถึงเครื่องมือสื่อสารได้อย่างหลากหลาย ทุกเพศ ทุกวัย ไม่จะว่าค้นหาอะไรก็ทำได้ทุกอย่างแค่เพียงปลายนิ้ว จนเราลืมคำนึงถึงเนื้อหาที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ว่ามีทั้งเรื่องดีและไม่ดี และการปิดกั้นโอกาสไม่ให้เยาวชนเข้าถึงข้อมูลในเน็ตก็ดูจะเป็นการปิดกั้นการเรียนรู้ของเด็ก ๆ เกินไป วันนี้เราเลยอยากมาแนะนำวิธีลดการมองเห็นเนื้อหาที่เป็นอันตรายให้น้อยลงในแอปพลิเคชันต่าง ๆ เพื่อให้ตัวเราเองและเยาวชนใช้โซเชียลมิเดียได้ปลอดภัยมากขึ้น
1.Twitter
การกรองเนื้อหาละเอียดอ่อนสำหรับทวิตเตอร์ที่เป็นบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์ล้วนมีความเห็นมากมายที่สามารถพิมพ์ลงไปได้ทุกตัวอักษรจนเราไม่สามารถกรองได้หมดว่าอันไหนถูกหรือผิดถ้าผ่านมือเด็ก ๆ คงจะเป็นการยากที่จะจัดเนื้อหาอันตรายในความคิดเห็นล้าน ๆ ทวิตนี่เป็นอีกวิธีหนึ่งในการควบคุมเนื้อหาค่ะ
วิธีนี้จะซ่อนโพสต์ที่เราคิดว่ามีเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนบนหน้าฟีด
- ในการกรองเนื้อหาไปที่แอค Twitter > เลือกปุ่มเมนูมาที่หน้าบัญชีของเรา > การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย > เนื้อหาที่คุณเห็น > เลื่อนลงไปที่ส่วนยกเลิกการเลือก “แสดงสื่อที่อาจมีเนื้อหาล่อแหลม”
ต่อมาเป็นการป้องกันไม่ให้โพสที่มีเนื้อหาละเอียดอ่อนปรากฎในผลการค้นหาของเราค่ะ ซึ่งเชื่อมโยงกับด้านบน
- ในการกรองเนื้อหาไปที่แอค Twitter > เลือกปุ่มเมนูมาที่หน้าบัญชีของเรา > การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย > เนื้อหาที่คุณเห็น > เลื่อนลงไปที่ > การตั้งค่าการค้นหา > กดเลือกซ่อนเนื้อหาล่อแหลม
ส่วนการกรองเนื้อหา Triggers ที่มากระทบกระเทือนจิตใจเราสามารถหลีกเลี่ยงด้วยการป้อนคีย์เวิร์ด ยกตัวอย่าง ”Sexual Assault” เพื่อหลีกเลี่ยงเนื้อหาที่มีการล่วงละเมิดทางเพศได้ทันทีค่ะ
- ในการกรองเนื้อหาไปที่แอค Twitter > เลือกปุ่มเมนูมาที่หน้าบัญชีของเรา > การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย > ซ่อนและบล็อค > เลื่อนลงไปที่ > คำที่ถูกซ่อนไว้ > กดเลือก + เพิ่มคำที่ซ่อนไว้ > ให้ป้อนคำหรือวลี Sexual Assault > สามารถเลือก ไทม์ไลน์สำหรับระยะเวลาที่คุณต้องการปิดเนื้อหานี้ได้ตามที่เรากำหนด มีตั้งแต่ ตลอดไป , 24 ชม. , 7 วัน , 30 วันเป็นต้น
ทาง Twitter กำลังทดสอบ Birdwatch โปรแกรม Fact-Checking ว่าสิ่งที่พิมพ์ลงไปข่าวจริงหรือข่าวปลอม เป็นอีกระบบที่ทวิตเตอร์กำลังเตรียมเปิดให้คนทั่วโลกได้ใช้กันค่ะ ถ้าสนใจสามารถกดอ่านได้ตามด้านล่างนี้เลย
Twitter กำลังทดสอบ Birdwatch โปรแกรม Fact-Checking ว่าสิ่งที่พิมพ์ลงไปข่าวจริงหรือข่าวปลอม
2.TikTok
แอปพลิเคชัน TikTok ได้เปิดตัว Family Pairing โหมดแนะนำโดยผู้ปกครองค่ะ เพื่อให้พ่อแม่ควบคุมเนื้อหาของเด็ก ๆ ที่อยู่ในวัยเรียนรู้ได้ปลอดภัยมากขึ้น อย่างที่เรารู้กันดีแอปติ๊กต็อกมีวิดีโอนับไม่ถ้วนไม่ว่าจะคอนเทนต์สื่อบันเทิงทั้งดีหรือสื่อที่ไม่ดีไม่น่าทำตาม เพราะส่วนใหญ่คนใช้ติ๊กต็อกมีตั้งแต่เด็กอายุ 13 ปีขึ้นไป รวมไปถึงวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ นั่นเอง
Family Pairing จะเชื่อมต่อการใช้แพลตฟอร์มระหว่างแอคเคาน์ผู้ปกครอง กับแอคเคาน์ลูก เพื่อให้เข้าไปตั้งค่าความปลอดภัยได้สะดวกมากขึ้นในการควบคุมเนื้อหา
วิธีนี้จะซ่อนโพสต์ที่เราคิดว่ามีเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนบนหน้าฟีด
- ในการกรองเนื้อหาไปที่แอค TikTok > เลือกปุ่มเมนูมาที่หน้าบัญชีของเรา> การตั้งค่าและความเป็นส่วนตัว > เลื่อนลงไปที่ แนะนำโดยผู้ปกครอง > เลือกดำเนินการต่อ > กดผู้ปกรอง > จะมี QR คิวอาร์โค้ด ให้เรานำมือถือไปแสกนเพื่อทำการเชื่อมโยงกับแอคเคาน์บุตรหลาน
- ถัดมา เมื่อเชื่อมโยงด้วยการลิงก์เสร็จสิ้น > เราจะสามารถเลือกจำกัดเวลาหน้าจอของเด็ก ๆ และเนื้อหาได้นั่นเองค่ะ ส่วนการตั้งค่าขีดจำกัดเวลามีตั้งแต่ 40 ถึง 120 นาที เป็นต้น
ส่วนนี่เป็นอีกวิธีง่าย ๆ นะคะคือการกดรายงานวิดีโอที่เราไม่อยากให้แสดงขึ้นมาทาง TikTok จำทำการลดเนื้อหาที่เราเห็นว่าไม่สมควรให้น้อยลง แต่ว่าการทำแบบนี้จะมีข้อจำกัดหนึ่งอย่างถ้าเรากลับไปเจอเนื้อหาคอนเทนต์แบบเดิมแล้วกดดูมันจะขึ้นมาเหมือนเดิมค่ะ ซึ่งเป็นแค่วิธีชั่วคราว
3.Google
กูเกิลถือว่าเป็นเว็บไซต์ที่เราทุกคนสามารถสืบค้นข้อมูลได้ทุกอย่างทั้งในการทำงาน ศึกษาหาความรู้ หรือใช้ประโยชน์ซึ่งเราไม่สามารถหลีกเลี่ยงข้อมูลที่มีเนื้อหาล่อแหลมและละเอียดอ่อนได้ทั้งหมดอยู่แล้วค่ะ นี่เป็นอีกวิธีอย่างง่ายในการคอนโทลเนื้อหาซึ่งทำได้ทั้งหมดเหมือนกันบนคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน
วิธีนี้จะซ่อนเรื่องราวที่เราคิดว่ามีเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนบนเว็บไซต์กูเกิล
- ในการกรองเนื้อหาไปที่หน้าบัญชีของเรา > การตั้งค่า > ซ่อนผลการค้นหาที่ไม่เหมาะสม > กดเปิด ตัวกรองผลการค้นหาที่ไม่เหมาะสม : การเปิดฟีเจอร์ค้นหาปลอดภัยจะช่วยซ่อนเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม เช่น ภาพลามกอนาจาร หรือเนื้อหารุนแรง
- กดบนคอมพิวเตอร์จิ้ม Link นี้ได้เลยค่ะ การกรองเนื้อหา
ยังมีอีกบริการหนึ่งค่ะสำหรับกูเกิล คือ Google Family Link เพื่อให้ผู้ปกครองคอยสอดส่องดูแลพฤติกรรมการใช้งานมือถือของลูกพร้อมจำกัดเวลาเล่นว่าเด็ก ๆ ของเราทำกิจกรรมอะไรอยู่บ้างสามารถอ่านวิธีทำและการติดตั้งได้ตามข้างล่างเลยค่ะ
ลดปัญหาลูกติดมือถือด้วย Google Family Link กำหนดเวลาเล่น จำกัดการเข้าแอปได้ง่าย ๆ เช็คได้ผ่านมือถือ
4.instagram
อินสตาแกรมเป็นอีกแอปที่เราสามารถแบ่งปันรูปภาพหรือวิดีโอสั้น ๆ ได้ง่ายดายทั้งการติดต่อคุยกับเพื่อน ครอบครัว เรียกว่าเป็นเครือข่ายสังคมที่เน้นการลงรูปภาพพร้อมแชร์เรื่องราวในสตอรี่ให้แก่กันนั่นเอง ซึ่งในเนื้อหาที่ค่อนข้างเยอะจะมีคอนเทต์ที่ไม่ไม่เหมาะสมเด็ก ๆ สามารถเผลอไปเลียนแบบพฤติกรรมได้ค่ะ อีกทั้งเรารู้สึกว่าไม่เหมาะสมบนหน้าฟีดตัวเองอีกด้วย นี่จะเป็นอีกวิธีในการควบคุมเนื้อหาบนอินสตาแกรม
วิธีนี้จะซ่อนเรื่องราวที่เราคิดว่ามีเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนบนอินสตาแกรม
ซึ่งอินสตาแกรมจะไม่สามารถลดเนื้อหาได้ถาวรนะคะ แต่แค่เลือกให้แสดงได้น้อยลงบนหน้าฟีด รวมไปถึง Reel ต่าง ๆ
- ในการกรองเนื้อหาไปที่แอค instagram > เลือกปุ่มเมนูมาที่หน้าบัญชีของเรา > การตั้งค่า > เลือกบัญชี > เลื่อนลงมาที่การควบคุมเนื้อหาที่ละเอียดอ่อน > ซึ่งค่าตั้งต้นจะเลือกให้เราเป็นมาตรฐาน > ให้เรากดเลือกน้อยลง : เพื่อให้เนื้อหาแสดงสื่อที่มีความล่อแหลมได้น้อยลงไปนั่นเองค่ะ
ส่วนการกรองเนื้อหาหรือวลีพวก Triggers ที่มากระทบกระเทือนจิตใจเราสามารถหลีกเลี่ยงด้วยการป้อนคีย์เวิร์ด ยกตัวอย่าง ”Sexual Assault” เพื่อหลีกเลี่ยงเนื้อหาที่มีการล่วงละเมิดทางเพศได้ทันทีค่ะ เหมือนกับ Twitter
- ในการกรองเนื้อหาคำหรือวลีไปที่แอค instagram > เลือกปุ่มเมนูมาที่หน้าบัญชีของเรา > การตั้งค่า > เลือกความเป็นส่วนตัว > เลื่อนลงมาที่คำที่ซ่อนไว้ > จัดการคำและวลีที่กำหนดเอง > เพิ่มคำหรือวลีอย่าง ”Sexual Assault” เป็นที่เรียบร้อย แค่นี้ทาง instagram จะทำการคัดกรองเนื้อหาทุกอย่างรวมไปถึงข่าวสารรูปภาพ หรือวิดีโอสั้นบนฟีดโดยรวมค่ะ
ทำให้เราสามารถกำหนดหน้าฟีดเนื้อหาที่จะแสดงได้ด้วยตัวเองอย่างง่าย
5.Meta (หรือชื่อเดิม Facebook )
เมตาเป็นแพล็ตฟอร์มที่ใช้ในการเชื่อมคนให้เข้าถึงกันได้ทุกเครือข่าย ทำให้ผู้ใช้งานเข้าถึงรูปภาพ ลงวีดีโอ ไลฟ์สด หรือแม้แต่ส่งข้อความหากันเป็นส่วนตัวกับเพื่อน ครอบครัว หรือจัดการธุรกิจ ข่าวสาร อื่น ๆ ได้ง่ายมากขึ้นรวมไปถึงการแสดงออกทุกอย่างทางความคิดเห็นแบบเสรี ซึ่งใครจะเขียนอะไรลงไปก็ได้ทำให้เราอาจเห็นเนื้อหาข้อความที่ไม่เหมาะสมทั้งสำหรับเด็กหรือแม้แต่ตัวเราเองที่ไม่อยากให้ข่าวล่อแหลมแบบนี้ปรากฎขึ้นบนฟีดของเราอย่างแน่นอน แต่ในขณะเดียวกันเมตาเป็นแพล็ตฟอร์มที่มีข้อจำกัด เราจึงไม่สามารถกรองเนื้อหาจากคนเป็นพัน ๆ ล้านคนได้ แต่สามารถบล็อคบุคคลนั้น หรือเลิกเป็นเพื่อน เลิกติดตาม ได้นั่นเองค่ะ
วิธีนี้จะซ่อนโพสต์ที่เราคิดว่ามีเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนบนหน้าฟีด
เป็นวิธีกรองบุคคล (ยกตัวอย่าง)
- ไปที่หน้า Profile ของเพื่อน > เลือกปุ่มเมนูเพื่อน > เลือกเลิกเป็นเพื่อน หรือเลิอกติดตามได้พร้อมกันค่ะ
- ต่อมาเป็นการ บล็อกบุคคล > ไปที่จุดสามจุดข้างล่างคำว่าเพื่อน > เลือก บล็อค : แค่นี้เราก็จะไม่เห็นข้อความหรือโพสที่ไม่เหมาะสมจากบุคคลนั้นอีกตลอดไปค่ะ จนกว่าเราจะเลิกบล็อคเองเพื่อปกป้องตัวเราไปในตัวด้วยถ้ามีใครมาโจมตีทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้ผิดอะไร หรืออีกอย่างคือการปิดกั้นข้อมูลเป็นเท็จและ อันตรายจากบุคคลเหล่านั้น
เป็นวิธีกรองเนื้อหาข่าวสารบนฟีด (ยกตัวอย่าง)
- ให้เลือกโพสที่เราคิดว่ามีเนื้อหาละเอียดอ่อน > เลือกปุ่มเมนู (…) ที่มุมบนขวา > เลือก รายงานโพสต์ของแต่ละคน > เลือกปัญหาที่เราคิดว่าตรงกับหมวดหมู่ที่ขัดต่อมาตรฐานชุมชน > กดส่งรายงาน แล้วทางเมตาจะรับเรื่องเพื่อแสดงข้อมูลพวกนี้ให้เราเห็นน้อยลงค่ะ
เป็นวิธีกรองเพจที่เราคิดว่ามีเนื้อหาที่ละเอียดอ่อนบนหน้าฟีด (ยกตัวอย่าง)
- ให้เลือกเพจที่เราคิดว่ามีเนื้อหาละเอียดอ่อน หรือให้ข้อมูลข่าวที่ไม่เป็นความจริง ไม่ว่าจะเรื่องรุนแรงต่าง > เลือกปุ่มเมนู (…) ที่มุมบนขวา > เลือก รายงานเพจ หรือบล็อคเพจ > แค่นี้เราจะไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารจากเพจค่ะ
ทางเมตายังไม่มีอัพเดตการกรองเนื้อหาที่ระเอียดอ่อนทั้งหมดเหมือนแอปพลิเคชันอื่น แต่ถ้าอนาคตมีอะไรเพิ่มเติมเราจะมาอัพเดตให้อีกทีค่ะ
เป็นขั้นตอนง่าย ๆ สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เผื่อใครยังไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เราสามารถกรองเนื้อหาข่าวสารในโซเชียลมิเดียได้แล้ว ซึ่งปัจจุบันโลกอินเทอร์เน็ตเข้าถึงได้ง่ายมากแม้แต่เด็ก ๆ หรือบุตรหลานสามารถกดเข้าไปไถด้วยตัวเองโดยที่ไม่ต้องถามใคร ซึ่งมันมีข้อเสียอยู่ที่ว่า เด็กหล่านี้ยังไม่มีการรับรู้ที่มากพอในการแบ่งแยกว่าอะไรคือสิ่งที่ดีหรือไม่ดี นอกจากว่าคุณพ่อคุณแม่จะควบคุมลูกตัวเองอย่างใกล้ชิด แต่การมีตัวช่วยควบคุมเนื้อหาก็ไม่ใช่ว่าจะคลอบคลุมไปทั้งหมด ต้องอย่าลืมสอนลูกเกี่ยวกับภัยบนอินเทอร์เน็ตทั้งการโพสต์ควรไตร่ตรองให้ดี และใช้เวลาเล่นอินเตอร์เน็ตอย่างเหมาะสมด้วย
Comment