Huawei FreeBuds Pro เป็นหูฟังไร้สายรูปแบบอินเอียร์ที่มาพร้อมดีไซน์เรียบหรูดูดีมีราคา และคุณภาพเสียงดีที่ดีเยี่ยมฟังได้ทุกแนวถูกใจคอเพลงแน่นอน แถมยังมีระบบกำจัดเสียงรบกวน ANC ระดับเทพอีกต่างหาก ส่วนเสียงจะดีแค่ไหน ระบบ ANC เจ๋งจริงหรือเปล่า รวมถึงฟีเจอร์อื่น ๆ จะมีอะไรบ้าง?…วันนี้ Droidsans จะมาเล่าให้ฟังกันครับ
ดีไซน์
เริ่มกันที่เคสหูฟังกันก่อน เป็นวัสดุพลาสติกแข็งที่มีผิวสัมผัส Metallic แบบด้าน ให้ความรู้สึกพรีเมียม ซึ่งสีที่ Droidsans ได้มารีวิวเป็น สีเทาเงิน (Silver Frost) ส่วนสีอื่น ๆ ที่วางจำหน่ายด้วยคือ สีขาว (Ceramic White) และสีดำ (Carbon Black)
ฝาเคสใช้แม่เหล็กในการล็อค ซึ่งมีความแน่นหนาไม่หลุดง่าย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เปิดยากแต่อย่างใด ส่วนด้านในก็แน่นอนว่าจะเจอกับหูฟัง Freebuds Pro อยู่ บริเวณกล่องด้านล่างมีไฟ LED เป็นจุดเล็ก ๆ ที่จะบอกถึงสถานะแบตเตอรี่ และจะเปลื่ยนเป็นสีขาวเมื่อเข้า Pairing Mode อีกทั้งด้านล่างตรงช่อง USB-C ก็มีไฟ LED อีกดวงเพื่อเอาไว้แสดงสถานะในการชาร์จไฟตอนที่ปิดฝาเคสด้วย
ตัวหูฟังเป็นรูปแบบ in-ear มีจุกยาง silicone ให้เลือก 3 ขนาดในกล่อง พื้นผิวหูฟังมีสัมผัสแวววาวเหมือนกระจกสวยงาม (แต่ติดลายนิ้วมือได้ง่าย) มีก้านที่ยื่นออกมาเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมทำให้การหยิบจับทำได้ง่ายเมื่อเวลาจะดึงออกจากหู นอกจากนี้ยังเป็นส่วนที่ใช้ในการควบคุมการทำงาน สามารถบีบ หรือใช้นิ้วไถที่ตัวก้านหูฟังเพื่อเปลี่ยนเพลง, ปรับเสียง, รับสาย หรืออื่น ๆ ซึ่งเวลาบีบจะได้ยินเสียง”กึก” ให้รู้สึกได้ว่ากดลงไปแล้ว แต่จริง ๆ เป็นเซนเซอร์แบบ Force Touch นะครับ ไม่ใช่ปุ่มจริง ๆ
ท่อเสียงออกแบบมาไม่ได้ยาวมาก ทำให้เป็นหูฟัง in-ear ที่ไม่ได้ยัดเข้าไปลึกเท่าไหร่ก็เลยรู้สึกว่าใส่สบายไม่เมื่อยหู ส่วน Silicone ก็เป็นแบบบาง ๆ นุ่ม ๆ ใส่แล้วสบายหู แถมยังซีลเสียงได้ดีไม่รั่วไหล ด้านในบอดี้หูฟังก็จะมีจุดสีดำ ๆ ซึ่งเป็นเซนเซอร์ Wear Dectection ทำให้ตัวหูฟังทำงานเฉพาะตอนที่ใส่หู และหยุดเล่นเพลงอัตโนมัติทุกครั้งที่ถอดหูฟังออก
การเชื่อมต่อ
สำหรับใครที่ใช้มือถือ HUAWEI อยู่แล้วก็ไม่ต้องห่วงเลยเพราะแค่เปิดฝา Freebuds Pro ขึ้นมา มือถือก็จะแสดงชื่อหูฟังขึ้นมาให้กด Pair ได้ทันที แต่สำหรับมือถือ Android แบรนด์อื่น ๆ จะต้องกดปุ่มที่อยู่ด้านขวาของกล่องค้างไว้เพื่อเข้าโหมด Pairing ซะก่อน หรือถ้าต้องการใช้ฟีเจอร์ในการปรับแต่งระบบ ANC ต่าง ๆ เราก็สามารถไปโหลดแอปพลิเคชัน AI life ใน Google Play Store มาใช้ได้ (อาจต้องรออัปเดตเพราะตอนนี้ในแอปดังกล่าวยังไม่มีชื่อของ HUAWEI Free Buds Pro)
คุณภาพเสียง
HUAWEI Freebuds Pro มาพร้อมกับไดรเวอร์แบบ Dynamic Driver ขนาด 11 mm. ซึ่งจริง ๆ ก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าหูฟัง TWS รุ่นอื่น ๆ ในตลาด แต่ต้องบอกเลยว่าเรื่องเสียงน่าประทับใจมาก เป็นเสียงที่อิ่มมีน้ำมีนวล มี imaging การแยกชิ้นดนตรี, Dynamic เยี่ยม, มี Soundstage ที่เกินความเป็นหูฟัง in-ear และยังได้รายละเอียดของเสียงที่ครบถ้วนสมบูรณ์
เสียงเบส (Bass)
ด้วยความที่ HUAWEI Freebuds Pro เป็นหูฟังที่ฟังสนุกได้ทุกแนวเพลง เรื่อง Bass ก็เลยถือว่าเป็นจุดเด่นของหูฟังตัวนี้เลย เนื่องจากเป็นเบสที่มี Impact ที่แน่นลึก ไม่บวม เก็บตัวไว Imaging ดี ทำให้บอกได้เลยว่าไม่ใช่เบสแบบเร่ง EQ แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเสียงกระเดื่องกลอง หรือเสียง Kick แบบสังเคราะห์ก็ขับออกมาได้ดี ฟังสนุก รายละเอียดชัดเจนไม่กลืนเสียงย่านอื่น อีกจุดที่น่าสนใจคือ Mid-Bass ที่ดีมาก เสียงจำพวก Sub-bass หรือเสียง กีต้าเบสด้านหลังทำออกมาได้ฟังสนุกและรายละเอียดดีมากอีกเช่นกัน
เสียงกลาง (Mid)
เสียงกลางก็เป็นย่านที่ Freebuds Pro ทำออกมาได้ดีมากอีกส่วนหนึ่งเลย ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้อง เสียงเครื่องดนตรี ไปจนถึงเสียง Synthesizer ที่มีหลาย ๆ เลเยอร์ก็สามารถขับออกมาได้รายละเอียดดี มี Dynamic และ Image ที่ดีมาก เป็นเสียงกลางที่อุ่นหวานฟังสนุก แล้วก็ไม่ได้แย่งซีนคนอื่นเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเพลง Pop หรือเพลง Hip-Hop ก็ฟังได้เหมาะมาก ๆ
เสียงสูง (Treble)
ในเรื่องของเสียงย่านสูงก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน ทั้งเสียงฉาบหรือเสียง Hi-hat ต่าง ๆ ในเพลงทุกแนวก็ทำออกมาได้รายอะเอียดที่ดี สะอาด มีการแยกชิ้นเครื่องดนตรีได้ดี ไม่แหลมจนเสียดหู ช่วยซัพพอร์ตย่านอื่น ๆ ให้เสียงโดยรวมมีความรู้สึกที่อิ่ม ครบ ชัดเจน สว่างมาก ๆ
ระบบตัดเสียงรบกวน ANC
Huawei Freebuds Pro มาพร้อมกับระบบตัดเสียงด้วยไมค์ถึง 3 ตัวด้วยกัน ทำให้ระบบ ANC ตัดเสียงจาก แอร์ พัดลม หรือเสียงแบบโทนเดียวได้ดีมาก แถมไม่รู้สึกหูอื้อเลย คือเงียบแบบเงียบจริง ๆ และในส่วนของระบบ Awareness หรือ Ambient Sound ก็ทำออกมาได้ดีเป็นธรรมชาติ รู้สึกเหมือนใส่หูฟังแบบเปิด และยังมีฟีเจอร์ Enhance Voice ซึ่งจะช่วยให้เสียงรอบ ๆ ดังขึ้น ซึ่งเหมาะมากสำหรับการใช้ฟังเพลงในออฟฟิศ เพราะจะได้ยังได้ยินเสียงเวลาเพื่อนร่วมงานเรียก (หรือกำลังแอบนินทา 🤣) หรือเปิดโหมดนี้เวลานั่งรถไฟฟ้า เพื่อที่จะได้ยินเสียงบอกสถานีนั่นเองครับ
แต่มีข้อสังเกตอยู่นิดนึงสำหรับโหมด Enhance Voice ก็คือเสียงที่ถูกส่งเข้ามาในหูฟัง จะดีเลย์กว่าเสียงจริงอยู่เล็กน้อย (น้อยแบบน้อยมาก ๆ) เพราะทดสอบด้วยการตบมือแล้ว เสียงที่ได้ยินจากตัวหูฟังจะมาช้ากว่าเสียงตบมือจริงอยู่นิดหน่อย คาดว่าไม่น่าถึง 1 วินาที
การสนทนา
การสนทนาก็สามารถทำได้ดีเยี่ยมไม่มีปัญหาเลย ตัวหูฟังก็สามารถขับเสียงสนทนาออกมาได้ชัดถ้อยชัดคำ เสียงดังฟังชัด แถมไมค์ของ Freebuds Pro ก็ใช้พูดคุยได้ดีแบบชัดเจน แถมยังมีระบบ Anti Wind Noise ช่วยตัดเสียงลมพัดเวลาคุยโทรศัพท์อีกด้วย
แบตเตอรี่
Huawei FreeBuds Pro มีแบตเตอรี่ขนาด 55 mAh ในหูฟังแต่ละข้าง และมีอีก 580mAh ในเคส โดยสามารถฟังได้ติดต่อกันสูงสุด 4 ชั่วโมง เมื่อเปิดระบบ ANC และฟังได้ถึง 7 ชั่วโมง เมื่อปิดระบบ ANC ซึ่งหากนับรวมการชาร์จกับเคสด้วย ก็จะสามารถฟังเพลงต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 22 ชั่วโมงเลยทีเดียว โดยจากการทดสอบใช้ในชีวิตประจำวันก็สามารถฟังเพลง คุยโทรศัพท์ ดูหนังต่าง ๆ ได้ราว ๆ 5-6 วัน โดยที่ไม่ต้องเสียบสายชาร์จเลยซักครั้งเดียว
การควบคุม
Huawei Free Buds Pro มีการควบคุมหูฟัง 2 แบบ เป็นการบีบที่ก้าน โดยการบีบ 1 ครั้งเพื่อเล่น/หยุดเพลง, 2 ครั้งเพื่อเปลื่ยนเพลงไปด้านหน้า, 3 ครั้งเพื่อกลับไปเพลงก่อนหน้านี้, กดค้างเพื่อเปลื่ยนโหมด ANC ส่วนการควบคุมอีกรูปแบบจะเป็นการใช้นิ้วไถที่บริเวณด้านหน้าของก้านหูฟังเพื่อ เพิ่ม/ลดเสียง ถือว่าครบครันมาก ๆ แทบไม่ต้องเอามือถืออกมาจากกระเป๋าเลย
สรุปภาพรวม
HUAWEI Free Buds Pro เป็นหูฟัง TWS ที่มีฟีเจอร์ครบครันเหมาะกับผู้ใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบกำจัดเสียง ANC ที่ทำงานได้อย่างดี, ระบบควบคุมที่มาแบบครบ, แบตเตอรี่อึด ไปจนถึงเรื่องสำคัญอย่างเนื้อเสียงที่ฟังสนุก สบาย โดดเด่นในทุก ๆ แนวเพลง ก็ต้องบอกเลยว่า FreeBuds Pro ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่กำลังหาหูฟัง TWS ครบเครื่อง เอาไว้ฟังในชีวิตประจำวันครับ 😁
ตอนแรกก็สนใจนะครับ อ่านมาถึงตรง มือถือที่ไม่ใช่ HW pair ใช้เวลา นี่จบเลย
ถ้าว่าตามตรงมันก็นานแค่ครั้งแรกครั้งเดียวนะครับ หลังจากนั้นก็เปิดฝาใช้ได้ไม่มีปัญหาเลย แต่ถ้าเปลื่ยนมือถือบ่อย ๆ อันนี้ก็อีกเรื่องนึงครับผม😅