โอละพ่อ HUAWEI P30 Pro ไร้การเชื่อมต่อไปรบ.จีน เจ้าตัวชี้เป็นความเข้าใจผิดขณะทดสอบ

เรียกว่าเป็นเรื่องที่มีการแชร์และส่งต่อกันเป็นจำนวนมากเมื่อวานนี้ สำหรับกรณีที่มีผู้ใช้ Huawei P30 Pro ที่ซื้อในประเทศไทย ตรวจพบว่าเครื่องมีการส่งข้อมูลไปให้ยังเซิร์ฟเวอร์ของรัฐบาลจีน ซึ่งทางหัวเว่ยประเทศไทยก็ได้มีการติดต่อไปเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงของปัญหาดังกล่าว หลังการตรวจสอบเกือบตลอดคืน ก็พบว่าตัวเครื่องไม่มีการเชื่อมต่อหรือส่งข้อมูลใดๆไปโดยตรง แต่เป็นกระบวนการทดสอบของผู้ใช้เองที่ทำให้เกิดขึ้นมา

โดยทางคุณ Pansaen ผู้ใช้ที่เปิดเผยเรื่องนี้เป็นคนแรก ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมผ่านทาง Github ว่าที่มี DNS requests ไปยัง beian.gov.cn ซึ่งเป็นหน่วยงานสอดส่องดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตของจีนนั้น ไม่ได้ได้เกิดจากตัวของ Huawei P30 Pro เองแต่อย่างใด แต่เกิดจากการ baidu.com ที่ทางคุณ Pansaen เป็นคนระบุเข้าไปเองในช่วงแรกของโปรเจกต์ เพื่อทดสอบว่าสามารถบล็อคเว็บไซต์จากจีนได้ผลหรือไม่ โดยได้เลือกใช้ baidu.com ในการทดสอบ ซึ่งทุกการติดต่อไปยัง baidu.com จะเห็นว่าตัวโดเมนนี้มีการติดต่อไปยัง beian.gov.cn อยู่เสมอ จนเกิดความเข้าใจผิดขึ้นมา นึกว่าเป็นตัว Huawei P30 Pro เป็นคนเรียกไปเอง

อย่างไรก็ดีคุณ Pansaen ได้พยายามบอกไว้แต่แรกๆแล้วว่า ยังไม่อยากด่วนสรุปมาก จนกว่าจะได้ทำการตรวจสอบแบบละเอียด ซึ่งต้องชื่นชมทาง Huawei ประเทศไทยที่เข้าจัดการปัญหาอย่างรวดเร็ว และร่วมกับคุณ Pansaen ในการตรวจสอบมาตลอดทั้งคืน จนได้คำตอบของปัญหามาเมื่อเช้ามืดของวันนี้ สำหรับรายละเอียดลึกๆ สามารถกดเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้จาก Github ต้นทางของเรื่องที่ https://github.com/pe3zx/huawei-block-list/blob/master/analysis.md

อย่างไรก็ดีการเชื่อมต่อกลับไปจีนยังไม่ได้หมดไปแต่อย่างใด โดยการเชื่อมต่ออื่นๆที่เหลืออยู่จะเป็นการเชื่อมต่อกลับไปยัง Hicloud ที่เป็นบริการของทาง Huawei เองโดยตรงเท่านั้น ซึ่งแม้ว่าเราจะไม่ยินยอมเข้าร่วม User Experience Program (การส่งข้อมูลเรากลับยังเซิร์ฟเวอร์เพื่อพัฒนาประสบการณ์ใช้งาน) ก็อาจจะยังมีเหลือการเชื่อมต่อเหล่านี้อยู่ได้ แต่เราไม่สามารถทราบได้ว่าข้อมูลชุดนี้คืออะไร เกี่ยวข้องกับความเป็นส่วนตัวแค่ไหน ซึ่งเอาจริงๆ หลายค่ายก็น่าจะทำไม่ต่างกัน แต่ถ้าใครไม่สบายใจก็สามารถไปโหลดลิสต์โดเมนที่เหลืออยู่นี้เพื่อนำมาบล็อคต่อไปได้นะครับ

ปิดคดี~ ใครที่แชร์ข่าวเมื่อวานไป ก็ฝากกลับมาแชร์ข่าวนี้ทับเรื่องเดิมไปให้อีกรอบ เพื่อไม่ให้คนเข้าใจผิดกันนะครับ