รีวิว HUAWEI Watch GT 3 SE สมาร์ทวอทช์ระดับพรีเมียม รุ่นล่าสุดจากทาง HUAWEI มีดีไซน์สุดเท่ใส่ออกไปได้ทุกสถานการณ์ และยังมากับฟีเจอร์ครบครันใช้งานได้หลากหลาย มีความแข็งแรงทนทาน แถมน้ำหนักเบาตอบโจทย์ฟีเจอร์สุขภาพ และโหมดการออกกำลังกายมาได้อย่างน่าใช้สุด ๆ ความอึดของแบตเตอรี่ก็หายห่วง ถ้าอยากรู้ว่าการใช้งานเป็นอย่างไรพร้อมแล้วไปกันเลยค่ะ

HUAWEI Watch GT 3 SE ที่เราหยิบรีวิวตอนนี้เป็นรุ่นที่ใช้วัสดุ Durable Polmer Fiber มีหน้าปัดขนาด 46.4 มม. ที่มีสายคาดเป็น TPU สีเขียว Wilderness Green

สเปค HUAWEI WATCH GT 3 SE 

  • หน้าปัด : 46 มม.
  • หน้าจอ : AMOLED แบบสัมผัส ขนาด 1.43 นิ้ว
  • มาตรฐานกันน้ำ กันฝุ่น : IP68, 5ATM ,ดำน้ำความลึกสูงสุด 30 เมตร
  • การเชื่อมต่อ : GPS, Bluetooth ,Dual band Five- system Positioning , Glonass + BDS ,Galileo ,Qzss
  • เซนเซอร์ : Accelerometer, Gyroscops sensor,  Optical heart rate sensor, Magnetometer sensor, Barometer Sensor
  • แบตเตอรี่ : ใช้งานได้ 8 ถึง 14 วัน
  • ขนาด / น้ำหนัก : 46.4 × 46.4 × 11 มม. / 35.6 กรัม
  • รองรับการใช้งานกับ Android 6.0 ขึ้นไป, iOS 9.0 ขึ้นไป, HarmonyOS 2 ขึ้นไป

ดีไซน์สุดพรีเมี่ยมเท่ในทุกสไตล์

การดีไซน์ของ HUAWEI Watch GT 3 SE รูปลักษณ์ภายนอกมีความทันสมัย เพราะมาในรูปแบบ Open-Cut ได้แรงบันดาลใจมาจากดีไซน์ของรถสปอร์ต มีความหนาเพียง 11 มม.

เลยเน้นความเท่ ความบางเฉียบผสมผสานแฟชั่นและฟังก์ชันให้เราได้ใช้งานอย่างสะดวกสบาย ด้วยการสวมใส่ข้อมือที่พกพาง่าย ถึงแม้ว่าจะดูโตไปหน่อยสำหรับวัยรุ่นน้อง ๆ แต่เราว่าเข้ากับคนวัยทำงานมากค่ะ

ตัวนาฬิกามีน้ำหนัก 35.6 กรัม ทางด้านสายรัดใช้วัสดุ TPU ดีไซน์แบบกลวงออกแบบไฟเบอร์โพลีเมอร์ที่มีความทนทานรวมถึงตัวเครื่อง ทำให้ทนต่อการสึกหรอ รวมไปถึงการกันน้ำที่ IP68 สามารถดำน้ำลึกได้สูงสุด 30 เมตร

ขอบเรือนด้านขวามีปุ่มเม็ดมะยมด้านบนสำหรับกดเข้าเมนูต่าง ๆ (ปุ่มหมุนได้เฉย ๆ แต่เลื่อนเมนูไม่ได้เหมือนรุ่น Pro นะคะ) ส่วนส่วนปุ่มด้านล่างเป็นปุ่มลัดเอาไว้สำหรับเข้าโหมดออกกำลังกาย หรือจะเข้าไปเปลี่ยนในเมนู Settings ใช้เป็นปุ่มลัดเข้าฟีเจอร์อื่นได้ด้วยค่ะ

การสวมใส่ที่ข้อมือ

ในเรื่องการสวมใส่ HUAWEI Watch GT 3 SE (น้ำหนักอยู่ที่ 35.6g ไม่รวมสาย) เท่าที่ลองสวมใส่มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง รู้สึกว่านาฬิกาค่อนข้างมีน้ำหนักพอตัวสำหรับผู้หญิงตัวเล็กค่ะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าหนักจนเกินไปอยู่ในอยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้ ถ้าเป็นผู้ชายอาจไม่ค่อยเท่าไหร่

ถ้าจะสวมใส่ไปออกกำลังกายจริงจังต้องสวมให้แน่นค่ะ ไม่งั้นนาฬิกาจะเหวี่ยงไปมาและอาจทำให้เซนเซอร์ตรวจวัดไม่แม่นยำ แต่จุดสังเกตถ้าใส่แน่นนานเกินไปจะรู้สึกล้า ๆ ที่ข้อมือ ถ้าคนข้อมือเล็ก ๆ หรือคนผอม ๆ เวลาใส่ออกกำลังกายอาจรู้สึกไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่

 

สายรัดข้อมือเป็นแบบใช้สลักในการล็อคกับตัวเรือนซึ่งสามารถถอดเปลี่ยนได้แบบไม่ต้องใช้เครื่องมือช่วย ถ้าวันไหนเราอยากปรับลุคการแต่งตัวให้แมทช์เข้ากับนาฬิกาก็ซื้อแยกสีอื่นมาเปลี่ยนเองได้เลยค่ะ ถอดเปลี่ยนได้ง่าย ๆ เลย แต่ติดอย่างหนึ่งถ้าเราใช้ไปสักพักพื้นที่ข้าง ๆ ขอบนาฬิกาจะมีฝุ่นเข้าไปติดง่าย ต้องคอยทำความสะอาดอยู่บ้าง

หน้าจอ AMOLED สีสันสดใสคมชัด

รุ่นนี้มีหน้าจอขนาด 46mm ครอบด้วย Corning Gorilla Glass ทนต่อการขีดข่วนจากการใช้งานประจำวัน พาเนลจอเป็นแบบ AMOLED ความละเอียดสูงขนาด 1.43 นิ้วจอแสดงผลสีความละเอียด 466 x 466 พร้อม 326 PPI ถ้าเราไม่อยากมาคอยขยับข้อมือบ่อย ๆ ให้หน้าจอติด สามารถตั้งค่าให้หน้าจอติดเฉพาะตอนกดปุ่มเท่านั้น หรือจะตั้งให้เป็น Always on Display เพื่อโชว์เวลาตลอดก็ได้ค่ะ  แต่การทำแบบนี้จะค่อนข้างกินแบตเตอรี่

ส่วนพื้นที่ในการแสดงผลมีความใหญ่ มองรายละเอียดการใช้งานได้ชัดเจน แม้อยู่ที่กลางแจ้งก็ยังมองเห็นฟังชันก์การทำงานทั้งในเรื่องของตัวหนังสือ การบอกการแจ้งเตือนทำออกมาได้ดีเลยค่ะ

เชื่อมต่อการใช้งานคู่กับ HUAWEI Health

การใช้งานของ HUAWEI Watch GT 3 SE จะต้องดาวน์โหลดแอป HUAWEI Health มาติดตั้งก่อนการใช้งานค่ะ มีให้ดาวน์โหลดทั้งบน Android, iOS แต่ถ้าใครมีสมาร์ทโฟนของ HUAWEI อยู่แล้ว ดาวน์โหลดหรืออัปเดตได้ผ่าน HUAWEI AppGallery ทันทีเลย

ภายในแอป HUAWEI Health สุขภาพ มีการบนทึกข้อมูลให้เราในด้านต่าง ๆ

  • บันทึกการออกกำลังกาย
  • การใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดี บอกได้ถึงการควบคุมน้ำหนัก ,การผ่อนคลาย , การปรับการนอน
  • อัตราการเต้นของหัวใจ
  • น้ำหนัก
  • การนอนหลับ
  • ความเครียด
  • SpO2 ออกซิเจนในเลือด
  • ติดตามรอบเดือนของผู้หญิง

หน้าปัดปรับแต่งได้ทุกสไตล์

ทางแอป HUAWEI Health นอกจากจะเอาไว้ติดตามข้อมูลสุขภาพแล้ว ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอย่าง เมนู Watch faces สามารถเลือกหน้าปัดที่ใช่สำหรับเราได้เป็นร้อย ๆ แบบ (มีทั้งแบบฟรีและเสียเงินซื้อค่ะ) ตามความพึงพอใจเลยค่ะ ส่วนตัวรู้สึกชอบที่เปลี่ยนหน้าปัดได้ตลอดเวลา

ไม่ว่าจะสายตาสั้นแค่ไหนก็มีหน้าปัดที่มารองรับให้เราเห็นได้ชัดเจนอีกด้วย หรือใครอยากเน้นเท่ ๆ กราฟิคน่ารัก ๆ หรือเน้นดูข้อมูลสุขภาพก็ปรับได้ง่าย ๆ การใช้งานมีให้ดาวน์โหลดทั้งฟรีและเสียเงิน ซื้อได้โดยตรงจากแอป Health

โหมดออกกำลังกาย

มีให้เราเลือกดูได้ถึง 85 โหมดทั่วไปสำหรับการออกกำลังกาย และระดับมืออาชีพ 18 โหมดด้วยกันค่ะ ยกตัวอย่าง สกี, ปีนเขา ,ว่ายน้ำ ,เดิน ,ปั่นจักรยาน และ เครื่องพาย เป็นต้น เรียกว่ารองรับการออกกำลังแทบจะทุกแบบทุกสไตล์เลย แบบเลยถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ได้ใช้ครบทุกประเภทก็ตามแต่มีการรองรับให้เราได้อย่างครบถ้วน สามารถเลือก Custom โหมดที่เราใช้ประจำได้ด้วยนะคะ

ฟีเจอร์สุขภาพให้มาได้อย่างหลากหลาย

เรามาดูฟีเจอร์เรื่องสุขภาพกันค่ะ ทาง HUAWEI ก็ยังให้มาได้หลากหลายในการใช้งานมาก แถมสามารถวัดได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย เรามาดูว่าการวัดแต่ละอย่างจะสามารถตรวจจับการทำงานของร่างกายได้มากน้อยแค่ไหน

ตรวจจับการนอนหลับ TruSleep™ 3.0  จะตรวจจับเมื่อเราตื่นนอนค่ะ และแบ่งตามหมวดได้ 4 แบบ ทั้งหลับลึก หลับตื้น หลับแบบ REM หรือการงีบ และการนอนของเราเจ้านาฬิกาจะบันทึกคุณภาพการนอนให้อีกด้วยค่ะ อย่างของเราตั้งเป้าหมายไว้นอนให้ครบ 8 ชม.แต่ก็ยังไม่ถึงอยู่ดี อีกอย่างมีฟังก์ชันใหม่มาเสริมด้วยนะคะ สามารถบันทึกการละเมอ กับการนอนกรนได้

ตรวจจับออกซิเจนในเลือด SpO2 (24 ชม.) เป็นความอิ่มตัวของออกซิเจนหมายยถึงเปอร์เซ็นต์ของปริมาตรรวมของออกซิเจนและฮีโมโกลบินต่อปริมาตรฮีโมโกลบินทั้งหมดในเลือดค่ะ

ถ้ามีคนสงสัยว่าทำไมเราต้องว่าค่าออกซิเจนด้วยสำคัญยังไง คือการวัดแต่ละครั้งถ้าเรามีออกซิเจนในเลือดไม่เพียงพอจะส่งผลให้เกิดความเสียหายทางสมอง ,หัวใจ และอวัยวะอื่น ๆ ตามมานั่นเองค่ะ

เราขอบอกก่อนนิดนึงนะคะการวัดค่าอะไรก็ตามมันเป็นเพียงการวัดได้แม่นยำในระดับนึงแต่ไม่ได้แม่นยำเหมือนเครื่องมือทางการแพทย์นะคะ ถ้าเราอยากรู้สุขภาพที่ลึกลงไปแนะนำให้ไปพบพบแพทย์อย่างใกล้ชิดดีกว่าค่ะ จะได้มั่นใจมากขึ้น

บริหารสุขภาพแบบ All-day Health ให้สุขภาพเราดีขึ้นไปกว่าเดิม

เราสามารถตรวจอัตราการเต้นของหัวใจได้ทันที ช่วยให้เราสังเกตตัวเองได้ว่าหัวใจตอนนี้เต้นต่ำหรือสูงเกินไป

อีกอย่างที่น่าสนใจมีการตรวจวัดระดับความเครียดของเราด้วยไม่ว่าจะทำงานหนักหรือเจอเรื่องอะไรก็ตาม ทางตัวแอปจะให้เราไปฝึกลมหายใจเพื่อคลายความเครียดในวันนั้นค่ะ เป็นอีกแนวทางที่ให้เราดูแลสุขภาพทางกาย เผื่อเรากำลังเผชิญความเครียดสูงเกินไปอย่างไม่รู้ตัว

ตรวจดูรอบประจำเดือน เราว่าผู้หญิงหลาย ๆ คนน่าชื่นชอบ เพราะเราสามารถใส่ข้อมูลส่วนตัวของประจำเดือนได้ แล้วทางแอปจะคำนวณการเกิดรอบเดือนในครั้งถัดไปให้ค่ะ เรียกว่าเตรียมพร้อมไว้ได้เลย

สำหรับการวิ่งออกกำลังกายเราสามารถรับข้อแนะนำการออกกำลังกายได้ด้วยนะ ทำให้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการวิ่งของตัวเองได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิม รวมไปถึง VO2Max เป็นการวัดสำหรับนักกีฬาแบบจริงจังที่ต้องการหาค่าอัตราสูงสุดของการใช้ออกซิเจน และ Aerobic แอโรบิค

โหมดติดตามการวิ่งด้วย GPS ในตัว

HUAWEI Watch GT 3 SE มี GPS ในตัวมาด้วยค่ะ ทำให้เราสามารถบันทึกเส้นทางการวิ่งได้โดยที่ไม่ต้องพกมือถือออกไปให้หนักกระเป๋ากางเกง

พอเราวิ่งเสร็จเรียบร้อยแล้วค่อยมา Sync ข้อมูลการวิ่งเข้ากับแอป HUAWEI Health ทีหลังได้

ที่สำคัญมีการบอกถึงการฟื้นตัวของร่างกายให้เราได้ดูด้วย ถ้าวิ่งเสร็จหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ บรรลุเป้าหมาย เครื่องจะทำการคำนวณให้ว่าเราต้องพักเป็นระยะเวลาเท่าไหร่ในแต่ละครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกาย

และเรายังให้คะแนนหรือสรุปสำหรับการวิ่งของตัวเองได้อีกด้วยนะ ลองไปทำกันดูค่ะว่าในแต่ละเดือนทั้งน้ำหนักร่างกาย ระยะทาง เราได้วิ่งตามที่เราหวังไว้มั้ย แต่ละคนก็มีร่างกายที่แตกต่างกันไปสามารถปรับให้เข้ากับตัวเองได้อีกด้วย

Healthy Life

แอปตัวนี้เราค่อนข้างชอบเพราะปกติเป็นคนดื่มน้ำน้อยมากค่ะ แต่ทาง HUAWEI Healthy มีการให้เรากำหนดเป้าหมายของการดื่มน้ำได้ด้วยว่าควรลุกขึ้นยืนตอนไหน ,ดื่มน้ำตอนไหน, เตือนให้กินยา ,ตัวเตือนสำหรับวัดความดันโลหิต และอีกมากมาย เมื่อครบกำหนดจะแจ้งเตือนให้เราทำตาม มันดีอยู่นะช่วยปรับพฤติกรรมเราให้ติดเป็นนิสัยให้ดีขึ้นด้วย

 

ฟีเจอร์อื่น ๆ 

เราจะยกตัวอย่างฟีเจอร์มาให้ดูกันเล็กน้อยค่ะ เป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานได้ในชีวิตประจำวันบ่อย ทั้งการแจ้งเตือน เราสามารถดูการแจ้งเตือนต่าง ๆ จากมือถือบนหน้าปัดของ HUAWEI Watch GT 3 SE  ได้เลยรวมไปถึงการส่งข้อความสั้น ๆ รองรับทั้ง SMS, WhatsApp,Telegram,Facebook, Messenger, Viber, LINE, Instagram   และอีกอย่างสามารถใช้ Bluetooth Calling รับสายและคุยผ่านนาฬิกาได้ได้โดยตรงเรียกว่าสะดวกสบายมาก 

ถ้าคนไหนทีไปออกกำลังกาย จะวิ่ง เดิน หรือปั่นจักรยานแล้วอยากมี vibe ดี ๆ ชิล ๆ สร้างบรรยากาศสามารถกดฟังเพลงได้จากนาฬิกาและ ดาวน์โหลดเพลงมาเก็บไว้ได้ประมาณ 500 เพลง เชื่อมต่อหูฟังบลูทูธเพื่อใช้งานได้เลยค่ะ และยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เราไม่ได้ยกตัวอย่างให้ดูอย่าง Remote Shutter กดชัตเตอร์กล้องในระยะไกลได้ (เฉพาะมือถือระบบ EMUI), การดูสภาพอากาศ, จับเวลา , ตั้งนาฬิกาปลุกพวกนี้ก็ใช้งานได้ทั่วไปครบ ๆ

แบตเตอรี่

การใช้งาน HUAWEI Watch GT 3 SE เรื่องแบตอยู่ได้นานเรียกว่าหายห่วงไม่ต้องกังวลว่าจะหมดวันหรือต้องพกแบตสำรองไปเลยสำหรับการใช้งานเป็นนาฬิกาปกติ (ดูเวลา, รับ Notification) เพราะอายุการใช้งานจริงสามารถอยู่ได้ทั้งสัปดาห์โดยไม่ต้องชาร์จค่ะ แต่ถ้าเปิด GPS เอาไว้ติดตามการวิ่งหรือปั่นจักรยานอะไรแบบนี้ จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ 14 ชั่วโมง

สรุป

HUAWEI Watch GT 3 SE เป็นสมาร์ทวอทช์ที่สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ มีฟีเจอร์มารองรับในทุกโอกาส ไม่ว่าจะสายแฟชันใส่ หรือใช้เป็น Fitness Tracker สำหรับสายคนรักสุขภาพก็ทำออกมาได้ดีค่ะ เราปรับนาฬิกาให้เข้ากับการแต่งตัวได้สนุกเหมาะกับคนรุ่นใหม่ เพราะในเรื่องฟังก์ชันการใช้งานมันเพียงพอสำหรับคนที่ต้องการดูแลสุขภาพในระดับนึงแล้ว

แต่ส่วนตัวรู้สึกว่ายังใหญ่เกินไปที่จะมารองรับสำหรับข้อมือผู้หญิง หรือคนผอมค่ะ เพราะต้องใส่แน่นถ้าใส่ไม่กระชับนาฬิกาจะแกว่งไปมา ละพอใส่ไปนาน ๆ ล้าข้อมือบ้าง และขอบเรือนมีขี้ฝุ่นเข้าไปติดง่ายต้องคอยทำความสะอาดบ่อยทั้ง ๆ ที่เราไม่ได้เอาไปลุยที่ไหนก็ตาม

แต่ก็ต้องยอมรับเลยว่าเป็นสมาร์ทวอทช์ ที่เท่ปรับแต่งอะไรหลาย ๆ อย่างได้อย่างดีมีมาให้แบบครบการใช้งาน สำหรับคนที่สนใจสมาร์ทวอทช์อยู่ตัวนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าลิสท์เอาไว้เลยค่ะ ส่วนราคาก็อยู่ที่ 6,499 บาท เรียกว่าคุณสมบัติต่าง ๆ ให้มาคุ้มค่าตัวเลยค่ะ

สามารถดูรายละเอียด HUAWEI Watch GT 3 SE ได้ที่ลิงค์นี้เลยค่ะ Lazada