นับวันสินค้าประเภท Smart Watch จะยิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยสเปค + ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์กับเหล่าผู้รักสุขภาพ และราคาที่เริ่มจับต้องได้ง่ายขึ้น ล่าสุด Counterpoint Research ออกมาเผยรายงานยอดส่งออกโดยรวมของตลาดสมาร์ทวอทช์ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 ว่ามีการเติบโตขึ้นกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปี 2563 ถึง 27% ซึ่งในอันดับ Top 3 ยังคงนำโด่งโดย Apple อันดับ 2 คือ HUAWEI และตามมาติด ๆ ด้วย Samsung

สำหรับการส่งออกของช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้พบว่า Apple ยังคงครองแชมป์ด้วยส่วนแบ่งการตลาดสมาร์ทวอทช์ทั่วโลกถึง 28% โดยตอนนี้มีผู้ใช้งาน Apple Watch มากกว่า 100 ล้านคน เข้าไปแล้ว ซึ่งในจำนวนนั้นเกินครึ่งเป็นผู้ใช้งานจากสหรัฐอเมริกาบ้านเกิดของ Apple นั่นแหละ

ส่วนสมาร์ทวอทช์จาก HUAWEI ที่แม้ว่าจะเป็นแบรนด์เดียวในอันดับ Top 5 ที่มียอดส่งออกลดลงจากปีที่แล้ว แต่ก็ยังมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ในอันดับ 2 ที่ 9.3% ทาง Counterpoint วิเคราะห์ว่าแผนกสมาร์ทวอทช์ของ HUAWEI น่าจะโดนหางเลขจากผลกระทบของแผนกมือถือที่มียอดส่งออกลดลงไปนั่นเอง

ตามมาติด ๆ ด้วย Samsung ที่มีส่วนแบ่งการตลาด 7.6% อยู่ในอันดับ 3 ของไตรมาสนี้ มียอดส่งออกที่โตขึ้นถึง 43% มาจาก Galaxy Watch 3 และ Galaxy Watch Active 2

สำหรับอันดับ 4 ที่ถูก Samsung เขี่ยลงมาจากอันดับ 3 ของปีที่แล้วคือแบรนด์ imoo ที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้จักว่ามาจากไหน ทำไมถึงติดอันดับ Top 5 ตลาดสมาร์ทวอทช์โลกได้ แต่จริง ๆ แล้วแบรนด์นี้มาจากจีนซึ่งจะเน้นสมาร์ทวอทช์สำหรับเด็ก และได้รับความนิยมสูงมากจนมีส่วนแบ่งการตลาดถึง 7% ขึ้นมาอยู่ในอันดับ 3 ของปี 2563 แต่ในปีนี้มียอดส่งออกลดลงจนโดน Samsung แซง ตกมาอยู่ที่อันดับ 4 ไป

และอันดับ 5 ของไตรมาสนี้ก็คือ GARMIN พุ่งขึ้นจากปีที่แล้วแซง Amazfit ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 5.8% มียอดส่งออกโตขึ้นถึง 62% เลยทีเดียว

imoo

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลที่น่าสนใจก็คือสมาร์ทวอทช์ที่มีราคาต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,200 บาท) แม้จะไม่มีฟีเจอร์ล้ำ ๆ เหมือนเจ้าตลาด แต่แค่มีฟีเจอร์สำหรับออกกำลังกาย, มีดีไซน์สวยงาม, มีราคาจับต้องได้ไม่ยาก และหากมีฟีเจอร์ SpO2 ติดมาด้วย ก็สามารถดึงความสนใจจากผู้ใช้งานทั่วไปได้แล้ว โดยพบว่าในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 สมาร์ทวอทช์ระดับนี้มียอดส่งออกพุ่งทะยานถึง 547% 

หลังจากนี้ต้องมารอดูกันต่อไปว่า Samsung จะสามารถขึ้นมาอยู่ในอันดับที่สูงกว่านี้ได้หรือไม่ หลังจากที่ไปจับมือกับ Google เพื่อพัฒนา Wear OS และนำมาใช้กับ Galaxy Watch 4 Series ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อไม่นานนี้ครับ

 

ที่มา : Counterpoint Research