ตอนนี้ iPad Pro แท็บเล็ตระดับไฮเอนด์จาก Apple เริ่มทยอยส่งถึงมือผู้สั่งซื้อแล้ว ในรุ่นขนาด 12.9 นิ้ว มาพร้อมกับเทคโนโลยีจอภาพแบบใหม่ที่เรียกว่า Liquid Retina XDR โดยมีการเปลี่ยนแผงแบ็กไลต์จาก LED เป็น Mini-LED แทน แต่ดูเหมือนว่า ผู้ใช้งานบางส่วนจะไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ พบมีอาการแสงฟุ้งที่ขอบภาพ
Here’s my experience with the blooming on the M1 #iPadPro so far. It’s very noticeable in dark room with UI elements on top of a black background, but that’s the only scenario where I really notice it. It’s expected with this display tech but still jarring coming from OLED. pic.twitter.com/8tG1euFzqn
— Josh Teder 🤷♂️ (@JoshTeder) May 22, 2021
คุณสมบัติของ Liquid Retina XDR ที่เหนือกว่าจอภาพ Liquid Retina ธรรมดาคือ ความสามารถในการหรี่แสงเฉพาะโซนได้มากถึง 2,500 กลุ่มแบบแยกกันอย่างอิสระ หากบริเวณใดของหน้าจอมีการแสดงผลภาพที่มืด หลอดไฟแบ็กไลต์จะลดการทำงานลง ทำให้มีไดนามิกเรนจ์กว้างและสมจริงยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยลดปัญหาแสงรั่วที่เกิดกับหน้าจอประเภท IPS LCD ที่ใช้แบ็กไลต์เป็น LED ทั่ว ๆ ไปอีกต่างหาก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดได้มีผู้ใช้งาน iPad Pro 12.9″ บางรายแจ้งว่า หากหน้าจอแสดงผลภาพหรือคอนเทนต์ที่มีคอนทราสต์สูงจะสังเกตเห็นแสงฟุ้งที่ขอบภาพ และจะชัดเจนยิ่งขึ้นหากเร่งความสว่างสูง ๆ พูดง่าย ๆ คือ ไม่ปลื้มสักเท่าไหร่
นอกจากนี้ยังมีคนนำไปเปรียบเทียบกับพาเนล OLED ซึ่งไม่มีอาการแสงฟุ้งดังกล่าว เพราะไดโอดแต่ละเม็ดเปล่งแสงสีได้ในตัวเองทั้งหมด ไม่จำเป็นต้องอาศัยแบ็กไลต์เป็นแหล่งกำเนิดแสง และสามารถเปิดหรือปิดการทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ทั้งนี้ สื่อต่างประเทศอย่าง MacRumors บอกว่า ทีมงานบางคนสังเกตเห็นอาการแสงฟุ้งนี้ได้ และเห็นได้ชัดเจนเมื่อไม่ได้มองหน้าจอแบบตรง ๆ หรือใช้งานในภาพแสงแวดล้อมที่ค่อนข้างมืด แต่บางคนก็ไม่สังเกตเห็น กับภาพทั่ว ๆ ไปที่ไม่ได้มีคอนทราสต์จัด ๆ ไม่น่าจะส่งผลต่อการใช้งานอะไรขนาดนั้น
แม้ว่า ความสามารถด้านการแสดงผลของ Liquid Retina XDR อาจมีส่วนที่ยังเป็นรอง OLED อยู่บ้าง แต่ก็ต้องไม่ลืมข้อดีเรื่องอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ไม่ต้องคอยกังวลปัญหาเรื่องการเบิร์นอิน รวมถึงต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า ทำให้มีโอกาสสูงที่จะขยับขยายมาสู่ผลิตภัณฑ์ในเซกเมนต์อื่น ๆ ได้กว้างขวางกว่าในอนาคตครับ
Mini-LED คืออะไร, แตกต่างจาก LED ตรงไหน, เทียบกับ OLED แล้วอะไรดีกว่ากัน ?
ที่มา : MacRumors
ฟุ้งจริงไรจริง ถ้าเป็นแบบนี้นี่ไม่ไหวนะ
ยอมเลือกใช้ OLED ต่อไปดีกว่า
แลกกับต้องระวังใส่ใจกับจอมากขึ้น
แต่ได้ภาพที่ดีกว่า
ถ้ามีโอกาสอยากเอามาลองเทียบให้ดูครับ จากรูปที่คนโพสต์ ๆ กันบนทวิตเตอร์คืออาการมันดูจะหนักกว่า Liquid Retina แบบเก่าอีกอะ
อาจเพราะ Liquid Retina มันเป็น LED ธรรมดา ไม่มี dimming สภาพปกติแสงมันรั่วออกมาทั้งหน้าจออยู่แล้ว โพลาไรซ์บล็อกแสงได้ไม่สมบูรณ์ พอดำไม่สนิทมาเจอกับขาว = คอนทราสต์ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น มันเลยดูเหมือนไม่ฟุ้ง ผมเดานะ
รอซัก Gen 2 Gen 3 แล้ว Apple จับยัดใน iPad Air เมื่อไรก็ตอนนั้นละ เวลาที่จะต้องเปลี่ยน iPad
มีคนเทสเทสมาลับ ต้องเปิดแสงสุด+ห้องมืดแบบมืดที่สุด ไม่มีแสงอะไรลอดเข้ามา ถึงจะมองเห็นชัด แต่ถ้าใช้โทรศัพท์ถ่ายมันจะดัน exposure ขึ้น ทำให้มันดูฟุ้งทุกรูป
เพราะ Apple โฆษณาโหมกระแสเรื่องหน้าจอตัวนี้มาก จนคนเข้าใจผิด Overhype จนคาดหวังมาก
ทั้งที่ในความเป็นจริงยังไงมันก็เทียบชั้นจอ AMOLED ไม่ได้หรอก LCD มันก็คือ LCD วันเย็นค่ำ เพียงแต่มันดีกว่า LCD แบบเดิมเท่านั้นเอง
ขึ้นชื่อว่า mini led เรื่องแสงฟุ้งก็ปกติอยู่แล้ว จะเทียบกับ oled ได้ยังไง
แต่เวลาดูหนังหรือคลิปhdrในyoutube นี่แหล่มจริง
ถือว่าใกล้กับoledเลย แต่สว่างกว่า
แต่ถ้าอ่านเวป พื้นหลังดำ ห้องมืดด้วย จะฟุ้งแบบน่าเกลียดจริง
ใช้งานมา3วันแล้วครับ
"แต่ก็ต้องไม่ลืมข้อดีเรื่องอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า ไม่ต้องคอยกังวลปัญหาเรื่องการเบิร์นอิน รวมถึงต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า"
ก็หวังว่าค่าซ่อมจอจากฝั่ง Apple จะถูกกว่า OLED ฝั่ง tablet Android อ่ะนะ 55
ต้นทุนต่ำอันนี้มันดีกับแอปเปิลเท่านั้น
จริง ๆ เทคโนโลยีใหม่เกินก้อใช่ว่าจะเวิร์ค มันคือการตลาดในการหาเงินมากกว่า
ต้องรอลุ้น Micro LED