กสิกร เปิดตัวบัตรเดบิต Journey รูดไม่มีชาร์จ แลกเงินที่ตู้ได้เรตเดียวกับบัตร

หลังจากที่บรรดาหลายธนาคารส่งบัตรเดบิต/เครดิตไว้ท่องเที่ยวกันรัวๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คราวนี้มาถึงคิวของธนาคารกสิกรกันบ้าง โดยได้ส่งบัตรเดบิต JOURNEY เข้าร่วมประกวดกับเขาด้วย ซึ่งชูจุดเด่นเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีสุดที่สุด พร้อมสโลแกน “ทุบสถิติ เรตถูก โลกต้องจำ” ท้าชนทุกเรตแลกเปลี่ยนของทุกธนาคารและร้านแลกเงินทั่วไป รูดแลกไม่มีชาร์จ 2.5% แถมใช้ได้ทุกสกุลเงินทั่วโลก

บัตรเดบิต JOURNEY คืออะไร

>> สำหรับคนที่ไม่รู้จักบัตรเดบิตเพื่อการท่องเที่ยวมาก่อน

เป็นบัตรเดบิต ประเภท Visa Debit Platinum ที่ผูกกับบัญชีเงินฝาก สามารถใช้ถอนเงินสด หรือใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการ ผ่านเครื่องรับบัตร (EDC) หรือซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านแอปพิเคชั่น/เว็บไซต์ต่างๆ ได้ทั่วโลกที่มีสัญลักษณ์ Visa โดยตัดเงินจากบัญชีเงินฝาก โดยไม่คิดค่าความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ 2.5% ที่เครื่องรับบัตร (EDC) ด้วยสกุลเงินต่างประเทศ ไม่จำเป็นต้องแลกเงินล่วงหน้า สามารถใช้รูดซื้อสินค้า และกด ATM ได้ทั่วโลก (ทั้งไทยและต่างประเทศ) โดยหน้าบัตรดีไซน์เป็นรูปกล้อง มีให้เลือก 4 สี เข้ากับโหมดเดินทางท่องเที่ยว

>> สำหรับคนที่รู้จักบัตรอย่าง KTB Travel Card, TME All Free, Planet SCB อยู่แล้ว

บัตร Journey เป็นบัตรแบบเดียวกับ TME All Free ที่ไม่มีฟังก์ชั่นแลกเงินเก็บเอาไว้ในบัตรก่อน ใช้จ่ายเมื่อไหร่ก็รูดโดยใช้เงินในบัญชีรูดออกได้เลย ไม่คิดค่าความเสี่ยงฯ 2.5% เหมือนกัน และเรตอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างๆ ทางกสิกรการันตีว่าดี ให้ราคาชนหรือดีกว่าเหล่าร้านแลกเงินทั้งหมด และสามารถถือบัตร Journey ไปยังบูธแลกเงินสกุลต่างประเทศของธนาคารที่มีกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ เพื่อขอแลกเอาเงินสดออกมาถือได้ในเรตเดียวกันกับบนบัตรเลย (ปกติเรตที่บูธเหล่านี้จะแพงกว่าร้านรับแลกเงินทั่วไป)

ข้อควรรู้หลักๆเกี่ยวกับบัตร Journey

• ไม่สามารถแลกเงินมาเก็บเอาไว้ได้
• เดินไปที่บูธแลกเงินสกุลต่างประเทศของธนาคาร และขอรับเรตเดียวกับบัตรได้
• มีค่าสมัครแรกเข้า 700 บาท
• ฟรีค่าธรรมเนียมปีแรก ปีต่อไปเสียปีละ 550 บาท
• สามารถใช้งานบัตรในเมืองไทยได้ตามปกติ เบิกถอนเงินบาทได้ที่ตู้
• ใช้จ่ายออนไลน์ ยังมีค่าความเสี่ยง 2.5% อยู่
• มีสิทธิพิเศษแถมให้เพียบ ตามด้านล่างนี้

สิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่ได้รับเพิ่ม

• ส่วนลด ไป-กลับ 100 เมื่อใช้ Grab ไปสนามบิน
• พักห้องรับรอง Miracle Lounge ฟรี 1 สิทธิ์/ปี (ถ้าสมัครปีนี้ได้ 3 สิทธิ์/ปี)
• ประกันเดินทางจาก Cigna 10 วัน คุ้มครอง 1.5 ล้านบ้าน
• ฟรี dtac SIM Go Inter (ASIA-Australia-USA) เน็ต 6GB 10 วัน
• ได้สิทธิ์ Reward Plus Debit Card เช่น ดูหนังเรื่องละ 100 บาท ส่วนลด GrabFood, Lazada, agoda เป็นต้น
• สิทธิพิเศษเพิ่มเติมจาก VISA รับ Starbucks e-Coupon, Blu-O Bowl Major และ Central Online e-Voucher เมื่อใช้จ่ายครบ 1,000 บาท และ 5,000 บาท

เงื่อนไขการใช้ อัตราค่าบริการและค่าธรรมเนียม

• มีค่าธรรมเนียมแรกเข้า 700 บาท
• ค่าธรรมเนียมรายปี 550 บาท (ฟรี 1 ปีแรก)
• ค่าทำบัตรทดแทน 550 บาท
• ใช้จ่ายได้สูงสุด 200,000 บาท/วัน
• แลกเปลี่ยนเงินได้สูงสุด 28 สกุลเงิน คือ USD, AED, AUD, BHD, BND, CAD, CHF, CNY, DKK, EUR, GBP, HKD, IDR, INR, JPY, KRW, MYR, NOK, NZD, PHP, QAR, RUB, SAR, SEK, SGD, TWD, VND และ ZAR

ขั้นตอนการสมัคร

สามารถสมัครได้ผ่าน K PLUS และที่สาขาธนาคารกสิกรไทยทั่วประเทศ โดยขั้นตอนการสมัครผ่านแอพมีดังนี้

• เข้าแอพ K PLUS ล็อคอินเข้าด้านใน เลือกเมนู “บริการอื่นๆ” และเลือก “สมัครบัตรเดบิต”
• เลือกบัญชีที่จะผูกกับบัตร
• จากนั้นเลือกบัตรเดบิตที่ต้องการสมัคร
• ทำตามขั้นตอนไปเรื่อยๆ ชำระค่าธรรมเนียม ค่าจัดส่ง กดยืนยันเป็นอันเสร็จ
• และเมื่อได้รับบัตรแล้วสามารถเปิดใช้งานบัตรได้ด้วยการตั้งค่าผ่าน K PLUS และนำรหัสได้จาก K PLUS ไปเปลี่ยนรหัสที่เครื่อง ATM กสิกรไทยอีกที

เปรียบเทียบเรตแลกเปลี่ยนของแต่ละธนาคาร (วันที่ 4 ตุลาคม 2019)

จากตารางเปรียบเทียบด้านบนจะเห็นได้ว่าเรตอัตราแลกเปลี่ยนบัตรเดบิต JOURNEY ของ Kbank ค่อนข้างดีกว่าคู่แข่งใช้ได้เลย ถูกกว่าคู่แข่งพอสมควร แต่ก็แล้วแต่สกุลเงินด้วย บางอันก็แอบแพงกว่านิดหน่อยเหมือนกัน ซึ่งดูแล้วบัตรเดบิต JOURNEY นี้เหมาะกับคนที่ไปท่องเที่ยวต่างประเทศบ่อยๆ และแลกเงินไปแต่ละครั้งซื้อของเยอะๆ

ส่วนสิทธิพิเศษอื่นๆ อย่างเช่นดูหนังเรื่องละ 100 บาท ทั้ง SF และ Major ที่ละ 2 ที่นั่ง/เดือน ส่วนลด Grab ต่างๆ อันนี้ถ้าสมัครแล้วอย่าลืมไปใช้กันด้วยล่ะ…