KBTG บริษัทผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนาแอป K PLUS ได้ออกมาเปิดเผยถึงมูลค่าประเมินของแอป mobile-banking อันดับหนึ่งของไทย ว่าปัจจุบันมีมูลค่าที่สูงถึง 3 พันล้านเหรียญสหรัฐไปเรียบร้อย ด้วยจำนวนผู้ใช้ที่มีจำนวนมากถึง 13 ล้านรายและคาดว่าจะสูงถึง 15 ล้านรายในสิ้นปีนี้ รวมถึงเตรียมเปิดนวัตกรรมการเงินที่จะปล่อยออกมาอีกไม่น้อยกว่า 4 ตัว ตลอดปี 2020 นี้

ข้อมูลนี้ได้รับการเปิดเผยจากคุณเรืองโรจน์ พูนผล หรือคุณกระทิง ประธานบริษัท KASIKORN Business-Technology Group หรือ KBTG ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของธนาคารกสิกรไทย ที่แยกตัวออกมาเพื่อพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน โดยตัวแอป K PLUS ในปัจจุบันรั้งอันดับ 1 แอปธนาคารบนมือถือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มบริการทางการเงิน และเป็นแอปที่ถูกใช้งานมากเป็นอันดับ 8 ของประเทศไทย จากการจัดอันดับของ App Annie ตั้งเป้ามีผู้ใช้บริการมากถึง 15 ล้านรายภายในสิ้นปี 2563 โดยในช่วงโควิดที่ผ่านมา แอปมีการเติบโตสูงขึ้นมาก เฉพาะในไตรมาสแรก ยอดการทำธุรกรรมทะลุ 700 ล้านรายการ มากกว่าแอปคู่แข่งถึงเกือบ 40%

เตรียมเปิดนวัตกรรมการเงินเพิ่มอีก 4 บริการในปีนี้

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาทาง KBTG ได้มีการเปิดบริการใหม่ด้าน contactless ไปหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นการเช็คอินด้วยใบหน้า หรือการสั่งงานบนหน้าจอได้โดยไม่ต้องสัมผัส ที่ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในหลายบริการ ไม่ว่าจะเป็นการตอกบัตรเข้างาน, ลงทะเบียน, จ่ายเงินในร้านอาหาร หรือตู้ล็อคเกอร์ ส่วนเมื่อเดือนกรกฎาคม ก็มีทั้ง Eatable แพลตฟอร์มสั่งอาหารและเมฆ (MAKE) บริการจ่ายเงินให้คนที่อยู่ใกล้ๆ ได้ง่าย เหมือนโยนเงินผ่าน Air Drop ซึ่งแต่ละตัวต่างก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีหลังเปิดตัว และทางคุณกระทิงได้เปิดเผยว่า KBTG จะยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ โดยในช่วงไตรมาส 3 – 4 ของปีนี้ จะยังมีนวัตกรรมการเงินเปิดออกมาอีกถึง 4 ตัว ด้วยกัน และหนึ่งในนี้จะมีตัวเด็ดที่จะสร้างความฮือฮาในวงการอีกด้วย

นอกจากนี้คุณกระทิงได้เปิดเผยว่ายุทธศาสตร์ของบริษัทใน 1-3 ปีนี้ จะประกอบไปด้วย 4 ด้าน ได้แก่

  1. Innovation สร้างนวัตกรรม : Innovation runway และ AI Factory
  2. Regional Expansion ขยายไประดับภูมิภาค : จีนและ AEC
  3. People พัฒนาคนให้พร้อม
  4. Transformation การเปลี่ยนแปลงองค์กรให้รองรับโลกดิจิทัล

โดยปัจจุบัน KBTG ไม่ได้มีศูนย์พัฒนาแค่เพียงในประเทศ แต่ยังเปิดสาขาไปที่จีนและเวียดนาม โดยมีพนักงานที่ไทยกว่า 1,400  ราย (2,500 ราย หากรวม outsource), จีน 300 ราย, และเวียดนาม 50 ราย และจะขยายเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก เพื่อให้ตอบโจทย์กับวิสัยทัศน์กับการนำพาให้ KBTG กลายเป็นบริษัทหนึ่งในบริษัทด้านเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในภูมิภาค ดันเป็นฮับด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล หากใครสนใจอยากเข้าไปร่วมทีมด้วยก็สามารถติดต่อเข้าไปได้ ตั้งเป้าสิ้นปีจะมีทีมไทยที่ราว 3,000 คน และทีมนี้ก็น่าร่วมงานด้วยไม่น้อย โดยมีวัฒนธรรมองค์กรที่น่าสนใจอย่าง TAVIA ที่ประกอบไปด้วย

  • Teamwork มุ่งเน้นการทำงานเป็นทีม
  • A class เก่งในด้านที่ตนเองทำงานให้อยู่ระดับท็อป
  • Value creation สามารถสร้างคุณค่าให้ลูกค้า(คู่ค้า)ได้
  • Innovation คิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆเสมอและรวดเร็ว
  • Agility มีความคล่องตัว พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง

ปัจจุบัน KBANK ถูกจัดอันดับเป็น 1 ใน 20 ธนาคารที่ดีที่สุดใน Asia Pacific (รวมจีนและญี่ปุ่น) จากการจัดอันดับของ IDC โดยให้เหตุผลว่าธนาคารสามารถสร้างจุดแข็งและความแตกต่างได้ผ่านนวัตกรรมของบริษัทลูกอย่าง KBTG


IDC Financial Insights Names the 20 Best Banks for 2020 in Asia/Pacific*

 

T= teamwork A = A class V = value creation I = innovation A = agility รวมกันเป็นหนึ่ง (ทำงานด้วยกันเป็นเป็น เป็นหนึ่งเดียวกัน) คิดถึงความเก่ง (เก่งในสิ่งที่ตัวเองเป็น และรักษาพัฒนาระดับ A class อยู่เสมอ) เร่งสร้างคุณค่า(ให้กับลูกค้าและคู่ค้า) ค้นหานวัตกรรม ทำอย่างรวดเร็ว