Google เปิดตัว Android 4.1 Jelly Bean ที่มาพร้อมกับ Project Butter ที่จะทำให้ Android UI ของคุณทำงานได้อย่างไหลลื่น โดยการประสานเทคโนโลยีระหว่าง V-Sync adaptations และ triple buffering จะนำคุณเข้าสู่ประสบการณ์การเรนเดอร์หน้าจอระดับ 60 เฟรมต่อวินาที (FPS)

นอกจากนี้ยังมีอัพเดทอื่นๆ อีกมากมายซึ่งพอจะสรุปคร่าวๆ ได้ดังนี้

Notification Bar: Widget ที่ฝังอยู่บนระบบแจ้งเตือน

หน้าตา (UI) ของระบบแจ้งเตือนตัวใหม่นั้นเปรียบได้กับการเอา Widget ไปอยู่บน Notification Bar โดย Notification Bar ในแต่ละ แอพพิลเคชั่น จะมีรูปร่างหน้าตาแตกต่างกันไปตามแต่ละการออกแบบของนักพัฒนา

แต่ ละการแจ้งเตือน เราสามารถกด “ย่อและขยาย” (expand and collapse) เพื่อดูรายละเอียดต่างๆ บน Notification Bar ได้เลย นอกจากนั้นยังสามารถทำ Action บางอย่างในการแจ้งเตือนนั้นๆ ได้ด้วย อย่างเช่น การแจ้งเตือน Miss Call ถ้าเรากดขยาย มันก็จะแสดงข้อมูลเพิ่มเติมขึ้นมาว่า มีการโทรเข้ามาในเวลาไหน นอกจากนี้ยังมีปุ่มให้กดโทรหรือส่งข้อความตอบกลับใน Notification Bar ได้เลย

หรือ อีกตัวอย่างของ Pulse ที่แจ้งเตือนว่ามีข่าวใหม่เข้ามา เมื่อเรากดขยาย มันก็จะแสดงตัวอย่างข่าวให้ดู (Thumbnail) นอกจากนี้ถ้าเราชอบก็ยังสามารถกดแชร์ผ่านบน Notification Bar ได้อีกด้วย

อ้างอิงจาก Android Central

Voice Search: การค้นหาด้วยเสียงรูปแบบใหม่ที่จะมาเป็นคู่แข่ง S-Voice ของ Samsung และ Siri ของ Apple

Voice Search ความหมายตามชื่อคือ ใช้ค้นหาและถามได้อย่างเดียว ใช้สั่งให้ทำงานไม่ได้ ซึ่งระบบดีกว่าใน Android 4.0 มาก เพราะประสานเอาเทคโนโลยี Knowledge Graph ที่จากเดิมการค้นหาจาก Google เราจะได้เว็บไซด์ที่มี key word ตรงกับที่เราค้นหา แต่ Knowledge Graph จะเอาความสัมพันธ์ของวัตถุต่างๆ มาผูกเข้าไว้ด้วยกัน เช่น สถานที่ คน สิ่งของ และอื่นๆ เพื่อสามารถแสดงข้อมูลได้กว้างขึ้น 

อาจจะฟังงงๆ ขอยกตัวอย่างในงาน Google I/O ที่พิธีกรสั่งค้นหาว่าใครคือนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นคนปัจจุบัน ระบบ Voice Search ก็ไปหาข้อมูลมาว่าใครคือนายก แล้วไปเอาข้อมูลประวัติของคนๆ นั้นจาก Wiki มาแสดงให้ดูเป็นต้น (นายกรัฐมนตรีญี่ปุุ่น + คนล่าสุดคือใคร + ประวัติของคนคนนั้น)

อ้างอิงจาก Android Central 

Google Now: เอาข้อมูลล่าสุดมาแสดงให้คุณดู (โดยแลกกับข้อมูลของคุณ)

Google Now เป็นการเอาข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับเราทั้งหมดมาช่วยให้เราใช้ชีวิตสะดวกขึ้น (แต่ต้องแลกกับข้อมูลส่วนตัวของเรา 🙁 ) ยกตัวอย่างเช่นเราจะนั่งรถเมล์จากที่นึงไปอีกที่นึง Google จะบอกว่าเราจะต้องนั่งสายไหน และจะบอกว่าจะใช้เวลาเท่าไร โดยคำนวณระยะเวลาจากเส้นทางจราจร และจะแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อต้องเปลี่ยนสายหรือถึงปลายทาง (US Only) 

อาจจะยังเห็นภาพไม่ชัด ยกอีกซักตัวอย่าง Google Now จะรายงาน Live Score ของทีมฟุตบอลที่คุณชอบให้อัตโนมัติ โดยที่คุณไม่ต้องบอกมัน เพราะมันรู้ว่าเราชอบ!!!  ฟังดูแล้วมันดูเหมือนจะเจ๋ง แต่มันก็เป็นเรื่องตลกร้ายที่เราโดนละเมิดความเป็นส่วนตัว 🙁

อ้างอิงจาก Android Central 

เกี่ยวกับคีบอร์ด: คีบอร์ด ภาษาไทย, ระบบเดาคำศัพท์, พิมพ์โดยใช้เสียงพูดแบบ Offline (ภาษาไทยกำลังจะรองรับ)

สิ่งที่ทุกคนรอคอยคีบอร์ดภาษาไทยจะมีอยู่ใน Stock Rom Jelly Bean แล้ว นอกจากนี้ Google ยังเปิดตัว Voice Typing แบบ Offline โดยในขั้นแรกจะมีแค่ภาษาอังกฤษ แต่ภาษาอื่นๆ รวมทั้งไทย จะตามมาในไม่ช้า นอกจากนี้ ยังมีระบบเดาคำศัพท์เพิ่มเข้ามาอีกด้วย

สุดท้ายนี้ Galaxy Nexus, Nexus S และ Motorola Xoom (คาดว่า Wifi) จะได้รับอัพเดท Android 4.1 กลางเดือนกรกฎาคมนี้
ที่มา Android Central

ปล. นี่คือรายละเอียดบางส่วนของ Jelly Bean เท่านั้น ยังไม่ได้พูดในส่วนของ “กล้อง” ที่มีลูกเล่นน่าสนใจเยอะขึ้น และในส่วนของ Android Beam ที่สามารถส่ง File ได้แล้ว (ตัว NFC น่าจะใช้ในการ pair ระหว่างอุปกรณ์แล้วใช้ Bluetooth เป็นตัวกลางในการโอนถ่ายข้อมูล) ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ขอสรุปอีกหลังสำนักข่าวต่างประเทศสรุปมาอีกที