BCN+R บริษัทวิจัยตลาดในเครือ BCN ออกรายงานยอดขายกล้องดิจิทัลในญี่ปุ่น ประจำเดือนเมษายน มีประเด็นน่าสนใจคือ กล้องที่ขายดีที่สุดในเดือนนี้ ไม่ได้มาจากผู้ผลิตยักษ์ใหญ่อย่าง Fujifilm, Sony หรือแม้แต่ Canon แต่กลับเป็น KODAK PIXPRO FZ55 ที่เข้าป้ายอันดับ 1 ไปแบบเหนือคาด นอกจากนี้ KODAK PIXPRO FZ45 และ WPZ2 จากค่ายเดียวกัน ก็มียอดขายสูงสุดติดชาร์ตท็อป 5 เช่นกัน

KODAK PIXPRO FZ55 และ FZ45 ไม่ได้มีฟังก์ชันหรือฟีเจอร์อะไรโดดเด่นหวือหวาเป็นพิเศษ ตัวกล้องเน้นออกแบบให้ใช้งานง่าย ยกแล้วถ่าย ตามคอนเซปต์ point-and-shoot ทั้ง 2 รุ่น มากับเซนเซอร์ CMOS ขนาด 1/2.3 นิ้ว ความละเอียด 16MP ข้อแตกต่างหลัก ๆ คือ KODAK PIXPRO FZ55 มีเลนส์ซูมออปติคัล 5x ราคาประมาณ 4,000 บาท ส่วน FZ45 ซูมได้ที่ 4x ราคาย่อมเยาลงมาเล็กน้อย เหลือประมาณ 3,400 บาท

ในขณะที่ KODAK PIXPRO WPZ2 เปรียบเสมือนเป็น FZ45 ที่ถูกจับมาเปลี่ยนบอดี้ภายนอกใหม่ ให้ดูแข็งแรงบึกบึนกว่าเดิม ทนน้ำ ทนฝุ่น ทนกระแทก เป็นกล้องแอกชันที่เน้นการใช้งานแบบสมบุกสมบันสำหรับสายลุย รุ่นนี้มีค่าตัวประมาณ 4,600 บาท

ยอดขาย KODAK PIXPRO FZ55, FZ45 และ WPZ2 รวมกัน ทำให้ KODAK กวาดส่วนแบ่งของเดือนเมษายนไปได้ 22.5% เติบโตจากตอนปี 2021 ที่ทำได้ 5% แบบก้าวกระโดด

การมาถึงของยุคสมาร์ทโฟน ทำให้กล้องคอมแพกต์ point-and-shoot ค่อย ๆ ล้มหายตายจากไปจากตลาด ค่ายกล้องส่วนใหญ่ต่างหันไปโฟกัสกับกล้องมีร์เรอร์เลสที่ไม่ทับไลน์กับมือถือแทน ส่วนกล้องคอมแพกต์ที่ยังมีอยู่ ส่วนใหญ่จะทิ้งเซกเมนต์เริ่มต้น แล้วขยับขึ้นมาเป็นกลุ่มพรีเมียม ซึ่งราคาไม่ได้ถูกเท่าไหร่นัก

แต่ไป ๆ มา ๆ กลายเป็นว่าช่วงหลังกล้องดิจิทัลเริ่มกลับมาเป็นเทรนด์ในกลุ่มวัยรุ่น Gen Z ในหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์ม TikTok ตามที่เคยเป็นข่าวไปไม่นานมานี้ ซึ่งแต่ละคนก็ให้เหตุผลที่แตกต่างกันออกไป เช่น กล้องดิจิทัลมีฟีลลิงการถ่ายที่แตกต่างจากมือถือ คุณภาพของรูปออกมาดูดีกว่า โทนสีเป็นเอกลักษณ์ หรือหน้าตาดูวินเทจย้อนยุค เหมือนเป็นเครื่องประทับอีกชิ้นหนึ่ง (ที่ใช้งานได้จริง) เป็นต้น

สำหรับกล้อง KODAK ในปัจจุบัน ไม่ได้ผลิตโดย KODAK ยุคดั้งเดิมอย่างที่หลายคนคุ้นเคย แต่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังคือ JK Imaging ที่ซื้อลิขสิทธิ์ชื่อแบรนด์ไปทำตลาดต่ออีกทอดหนึ่ง หากเทียบกับฝั่งมือถือ ก็จะคล้าย ๆ กับกรณี NOKIA และ HMD Global นั่นเอง

ที่มา : BCN+R