สวัสดีเพื่อนสมาชิก Droidsans ทุกท่าน กลับมาพบกับบทความรีวิวอีกครั้ง ช่วงนี้ตลาดมือถือช่วงราคา 5,000-6,000 บาทนั้นต้องเรียกว่า “ดุเดือดสุดๆ” มีมือถือเปิดตัวในช่วงราคานี้หลายรุ่นในเวลาไล่เลี่ยกัน รอบนี้ผมขอแนะนำ Lenovo VIBE K5 Plus อีกหนึ่งรุ่นที่จัดสเปกสุดคุ้ม หน้าจอขนาด 5 นิ้ว บอดี้โลหะ พร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 616 และระบบเสียง Dolby Atmos จำหน่ายในราคาเพียง 5,990 บาทเท่านั้น มาดูรายละเอียดของรุ่นนี้กันเลยครับ

 

สเปก Lenovo VIBE K5 Plus

 

  • ชื่อและรหัสเครื่อง : VIBE K5 Plus (A6020a46)
  • สัดส่วน : 142 x 71 x 8 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 142 กรัม
  • หน้าจอ : IPS LCD 5 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1920×1080 พิกเซล
  • เครือข่ายที่รองรับ:
    – 4G : LTE ครอบคลุมความถี่ของไทย
    – 3G : WCDMA 850 / 900 / 1900 / 2100
    – 2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
  • SIM : 2 SIM แบบ Micro SIM (Dual standby)
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 616 Octa-core 1.5GHz
  • GPU : Adreno 405
  • RAM : 2GB LPDDR3
  • หน่วยความจำภายใน : 16GB รองรับ microSD card สูงสุดที่ 32GB (ช่องแยก)
  • กล้องหน้า : 5 ล้านพิกเซล FF
  • กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ AF และ LED flash
  • แบตเตอรี่ : 2750mAh (ถอดเปลี่ยนเองได้)
  • OS : Android 5.1.1 Lollipop พร้อม VIBE OS
  • NFC : ไม่มี
  • OTG : มี
  • ไฟแจ้งเตือน: มี
  • Gyrometer: มี
  • เซ็นเซอร์และการเชื่อมต่ออื่นๆ
    – GPS, A-GPS
    – Wi-Fi 802.11 b/g/n
    – Bluetooth 4.1 LE, A2DP
    – microUSB 2.0
    – หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
    – Accelerometer, Proximity, Light, Gyrometer
  • สีที่จำหน่าย: เงิน (Platinum Silver), ทอง (Champaign Gold), เทาดำ (Graphite Grey)

vibe-k5plus-review-color-choice.jpg

 

 

แกะกล่องเช็คของ

อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่องของ Lenovo VIBE K5 Plus มีดังต่อไปนี้

  • ตัวเครื่อง VIBE K5 Plus
  • ฟิล์มกันรอย
  • สาย USB
  • Adapter 5V 1.5A
  • คู่มือและใบรับประกัน

vibe-k5plus-review-unbox.jpg

 

 

งานออกแบบและวัสดุ

Lenovo VIBE K5 Plus มีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดกระทัดรัดไม่ใหญ่มากเหมือนพวกหน้าจอใหญ่ สามารถจับถือได้สะดวก รอบๆตัวเครื่องเน้นความโค้ง ไม่มีเหลี่ยมคมอยู่เลย ทำให้จับถนัดเข้ามือดี ส่วนของวัสดุนั้นฝาหลังจะเป็นโลหะส่วนใหญ่ ยกเว้นด้านบนและด้านล่างจะเป็นพลาสติกสำหรับเสาสัญญาณ โดยรวมการสัมผัสตัวเครื่องจะมีความพรีเมียมอยู่ เพราะผิวสัมผัสส่วนใหญ่เป็นโลหะ มีความเย็นเวลาโดนอากาศเย็นๆ และแน่นอนว่าร้อนพอสมควร เมื่อมีการใช้งานหนักๆ เรามาดูรอบๆตัวเครื่องกันดีกว่า

vibe-k5plus-review-hardware01.jpg

 

ด้านหน้าตัวเครื่องไม่มีอะไรพิเศษ ถึงแม้จะมีหน้าจอขนาด 5 นิ้ว แต่ขอบจอนั้นถือว่าหนาพอสมควร ท่ามกลางเทรนด์ขอบบางของมือถือในปัจจุบัน

vibe-k5plus-review-hardware02.jpg

 

ส่วนบนของหน้าจอมีกล้องหน้าอยู่ทางซ้ายของลำโพงสนทนา และมีไฟแจ้งเตือนอยู่ด้านขวาสุดแสดงได้ 2 สีคือ เขียวและแดง

vibe-k5plus-review-hardware03.jpg

 

ส่วนล่างของหน้าจอจะเป็นปุ่มแบบสัมผัส (capacitive) ได้แก่ Menu, Home และ Back ตามลำดับ

vibe-k5plus-review-hardware04.jpg

 

ด้านล่างของตัวเครื่องมีเพียงรูไมค์สนทนาอยู่ทางขวา ส่วนร่องที่เห็นด้านขวานั้นเอาไว้งัดฝาหลังออกจากเครื่อง

vibe-k5plus-review-hardware05.jpg

 

ด้านบนของตัวเครื่องมีรูเสียบหูฟัง 3.5 มม. และพอร์ต microUSB สำหรับเสียบชาร์จและโอนข้อมูล ถ้าจำไม่ผิดที่เป็นรุ่นแรกที่ผมรีวิวและเห็นว่าเสียบชาร์จจากด้านบน แทนที่จะเป็นด้านล่างหรือด้านข้างเหมือนรุ่นอื่นๆ แปลกดีเหมือนกัน

vibe-k5plus-review-hardware06.jpg

 

ด้านขวาจะมีปุ่มปรับเสียงและปุ่ม Power ตามมาตรฐานของมือถือ Android ส่วนด้านซ้ายจะโล่งๆไม่มีอะไร

vibe-k5plus-review-hardware07.jpg

 

พลิกมาดูด้านหลังกันบ้าง

vibe-k5plus-review-hardware08.jpg

 

ด้านหลังส่วนบนจะเป็นกล้องหลัง และถัดไปเป็นไฟแฟลช Single LED สำหรับรูเล็กๆใต้กล้องคือ ไมค์ตัดเสียงนั่นเอง

vibe-k5plus-review-hardware09.jpg

 

ด้านหลังส่วนล่างจะเป็นตำแหน่งของลำโพงคู่ระบบ Dolby Atmos ซึ่งเป็นจุดขายของรุ่นนี้ ต้องบอกว่าเสียงได้นั้นดังและชัดเจนดีมาก ยิ่งตอนเปิด demo ที่เอาไว้โชว์ระบบเสียงนั้น สามารถแสดงศักยภาพของลำโพงรุ่นนี้ได้เป็นอย่างนี้ แต่สิ่งที่ต้องปรับปรุงคือตำแหน่งการวางลำโพงที่เอามาไว้หลังเครื่อง ทำให้เวลาวางบนพื้นราบนั้นความดังหายไปเยอะ แถมยังเอาลำโพงคู่วางไว้ฝั่งเดียวกันอีก ถึงเสียงจะเป็นสเตอริโอซ้ายขวาก็แยกไม่ออกครับแบบนี้ น่าเสียดายมาก

vibe-k5plus-review-hardware10.jpg

 

แกะฝาหลังออกมาดูกันดีกว่า

vibe-k5plus-review-hardware11.jpg

 

เวลาเปิดฝาหลังออกก็จะเห็นช่องใส่ซิมแบบ Micro SIM 2 ช่อง และช่อง microSD อีก 1 ช่อง แยกกันชัดเจน พร้อมกันนั้นก็สามารถถอดแบตเตอรี่เปลี่ยนได้ด้วยครับ

vibe-k5plus-review-hardware12.jpg

vibe-k5plus-review-hardware13.jpg

ช่องซิม 2 ช่องและช่อง microSD แยกกัน

 

 

ระบบซอฟต์แวร์

Lenovo VIBE K5 Plus มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ VIBE OS ที่ปรับแต่งมาจาก Android 5.1.1 Lollipop ซึ่งหากนับวันที่เปิดตัวและวางจำหน่ายก็ถือว่าเก่าไปสักนิด เพราะควรจะมาพร้อมกับ Android 6.0 Marshmallow ได้แล้ว สำหรับ VIBE OS นั้นมีการเพิ่มเติมและปรับแต่งฟีเจอร์จาก Android ปกติไปมากพอสมควร มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

Homescreen

หรือที่เราเรียกกันว่า Launcher นั่นแหละ โดย Homescreen ก็มือถือรุ่นนี้ก็มาแนวทางเดียวกับแบรนด์จีนยี่ห้ออื่นๆคือ “ไม่มี App Drawer” ซึ่งแอพทั้งหมดจะถูกวางอยู่บนหน้า Homescreen เลย เราสามารถจัดเรียงแอพ, สร้าง Folder และเพิ่มลบจำนวนหน้า Home ได้ นอกจากนั้นก็สามารถเพิ่ม Widget ได้ตามปกติ

vibe-k5plus-review-software01.jpg

 

Theme

VIBE OS นั้นมีระบบ Theme มาให้ด้วย ทำให้เราสามารถเปลี่ยนหน้าตาและสีสันของ UI บนมือถือได้ โดย Theme จะประกอบก้วย Wallpaper, icon และ Widget นาฬิกาเก๋ๆ ซึ่ง Theme จะมีทั้งหมด 6 แบบให้เลือกเท่านั้น ไม่สามารถ download เพิ่มเติมได้ ตรงนี้น่าเสียดายเหมือนกัน

vibe-k5plus-review-software02.jpg

 

Recents และ Task manager

การเข้าถึงหน้า Recents เพื่อสลับแอพนั้นสามารถทำได้โดยการกดปุ่ม Menu ทางซ้ายสุดค้างไว้ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการแบบเก่า เพราะปัจจุบันแอพส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้ปุ่ม Menu แล้วตามหลักการ Material design ปุ่มซ้ายจะถูกใช้เป็นปุ่ม Recents อย่างเดียว สำหรับในหน้า Recents นั้นจะมีปุ่ม “Clear all” มาให้ใช้ล้างแอพออกจาก RAM ได้ด้วย นอกจากนั้นก็มี “Task Manager” ที่เราสามารถเข้าไปดูปริมาณของ RAM ที่ถูกใช้ตามแต่ละแอพได้อีก

vibe-k5plus-review-software03.jpg

 

Notifications

ส่วนของแถบ Notification นั้นมีการปรับแต่งจากแบบมาตรฐานของ Android แต่ไม่มาก โดยเราสามารถลากนิ้วเพื่อเอาแถบ Notification ลงมาได้ตามปกติ ลากลงอีกครั้งที่สองจะเป็นส่วนของ Toggles เปิดปิดต่างๆ หรือถ้าไม่อยากลากนิ้ว 2 ครั้งก็ใช้ 2 นิ้วลากพร้อมกันเพื่อเปิดหน้า Toggles ได้เลย

vibe-k5plus-review-software04.jpg

 

Dolby

แอพสำหรับควบคุมระบเสียง Dolby Atmos ซึ่งเป็นจุดเด่นของมือถือรุ่นนี้ โดยจะมีวิดีโอ demo เอาไว้โชว์ศักยภาพเสียงของมือถือรุ่นนี้โดยเฉพาะทั้งผ่านลำโพงและหูฟัง สามารถเปิดวิดีโอ demo อวดเพื่อนๆได้เลย เสียงมันดีจริงๆครับ นอกจากการเปิดปิดระบบ Dolby Atmos ก็ยังมี Equalizer มาให้เลือกใช้อีกหลายแบบ หรือจะปรับเองก็ยังได้ ถ้าอยากลองเล่น App ที่ support ระบบเสียง Dolby ก็มีให้ download เช่นกัน

vibe-k5plus-review-software05.jpg

 

ปัญหา Line ไม่แจ้งเตือน

สำหรับ VIBE K5 Plus มีปัญหาในเรื่อง Line ไม่แจ้งเตือนอยู่ ถือเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับ VIBE K4 Note รุ่นพี่ที่เจอปัญหานี้เช่นเดียวกัน ซึ่งผู้ใช้มีการแจ้งไปทาง Lenovo แล้วหลายราย และทาง Lenovo ก็กำลังหาทางแก้อยู่ ช่วงที่ยังไม่มีก็ต้องเปิด Line เช็คกันเองไปก่อนนะครับ ลำบากนิดนึง

 

 

ประสิทธิภาพและความอึดของแบต

VIBE K5 Plus มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 616 Octa-core ซึ่งเป็นชิปเซ็ตยอดนิยมของมือถือระดับ Mid-range ในปีที่แล้วอย่าง Snapdragon 615 โดยในรุ่น 616 นั้นมีการปรับปรุงจากรุ่นเดิมนิดหน่อย จนบางแอพ เช่น CPU-Z ยังคิดว่ามันเป็น Snapdragon 615 รุ่นเดิมด้วยซ้ำไป และแน่นอนว่า GPU ยังคงเป็น Adreno 405 อยู่เหมือนเดิม สำหรับ RAM นั้นให้มา 2GB แบบ LPDDR3 เรามาผลการ benchmark ผ่านแอพยอดนิยมกันครับ

vibe-k5plus-review-perf01.jpg

Antutu Benchmark

 

vibe-k5plus-review-perf02.jpg

Geekbench 3

 

สำหรับการใช้งานมือถือรุ่นนี้ในชีวิตประจำวันพบว่า ลื่นไหลดีและตอบสนองได้รวดเร็วเกินราคา เพราะด้วยชิปเซ็ตระดับนี้นั้นสามารถรองรับแอพใช้งานทั่วไปได้สบายๆ Facebook, Line, Instagram หรือ Whatsapp ไม่มีอาการหน่วง แถมลื่นอีกต่างหาก สำหรับการเล่นเกมส์ถือว่า ลื่นใช้ได้ สามารถจัดการกับพวก Asphalt 8 หรือ Modern Combat ได้ดี แต่ถ้าจะไปเล่นเกมส์ที่กินสเปกเยอะๆ ก็อาจจะไม่ไหว ไม่งั้นมือถือราคาแพงคงไม่มีที่ยืนนะครับ

vibe-k5plus-review-perf03.jpg

ในส่วนการใช้งานไปนานๆสักพักพบว่า เครื่องมีความร้อนพอสมควร บางครั้งก็ร้อนไม่มีสาเหตุ อาจจะเพราะตัวบอดี้โลหะที่ระบายความร้อนได้ดี ทำให้สัมผัสความร้อนได้แบบเต็มๆ แต่ก็เย็นเร็วเหมือนกัน สำหรับ RAM 2GB นั้นอาจจะไม่มีเพียงพอสำหรับการใช้งานแอพในยุคปัจจุบันแล้ว เพราะหลังจากใช้งานเครื่องไปสักพักจะมีอาการหน่วงเพราะ RAM เต็มอย่างเห็นได้ชัด ต้องมีการ clear RAM อยู่เรื่อยๆ วิธีแก้ที่ผมทำอยู่ตั้งเวลาปิดและเปิดเครื่องในช่วงที่เรานอน ตื่นเช้ามาเครื่องก็พร้อมใช้งานลื่นๆได้ทันที

vibe-k5plus-review-perf04.jpg

สำหรับเรื่องความอึดของแบตเตอรี่นั้น ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 2750mAh สามารถทำให้ใช้งานมือถือรุ่นนี้ได้เต็มที่ 1 วัน ตั้งเช้ายันค่ำ กลับถึงบ้านต้องมีการชาร์จทุกวัน โดยเฉลี่ยการใช้งานทั่วไปของผมจะอยู่ได้ 13-14 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าเป็นคนใช้งานหนักควรจะมี Powerbank ติดตัวไว้ด้วย

vibe-k5plus-review-perf05.jpg

 

 

กล้องถ่ายรูป

Lenovo VIBE K5 Plus มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13MP สามารถถ่ายภาพที่ความละเอียดสูงสุด 4160 x 3120 พิกเซลในอัตราส่วน 4:3 เลนส์มีค่า aperture f/2.2 พร้อม LED flash 1 ดวง ในส่วน UI ของกล้องนั้น มีการจัดวางที่เรียบง่าย โดยมุมบนซ้ายมีปุ่มสลับกล้องหน้า-หลัง, ปุ่มปรับแฟลช, ปุ่ม HDR และปุ่มตั้งเวลาถ่ายรูป มุมขวาล่างเป็นการเลือกโหมดการถ่าย เช่น Panorama และการใส่ effect สีแบบต่างๆ ส่วนมุมซ้ายล่างเป็น Settings ที่ปรับค่าอื่นๆของกล้องอีกเยอะเลย

vibe-k5plus-review-camera01.jpg

 

ในส่วนของ Settings สามารถปรับความละเอียดของภาพถ่าย, scene mode, white balance, ISO และอีกมากมาย

vibe-k5plus-review-camera02.jpg

 

สำหรับคุณภาพของรูปถ่ายนั้นจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดี สามารถเก็บรายละเอียดได้ค่อนข้างดี, ความคมชัดดี และสีสันค่อนข้างตรงออกไปทางจัดนิดๆ ส่วน Dynamic range ยังไม่ดีมาก ภาพดูมืดอยู่บ้างในบางจุด แต่ฟีเจอร์ HDR ถือว่าช่วยได้เยอะในการถ่ายสภาพแสงน้อย การถ่ายภาพในที่ที่ร่มและแสงน้อย ยังไม่ดีนัก ติดเบลออยู่บ่อยครั้ง มือต้องนิ่งจริงๆถึงจะชัด และ noise ที่ค่อนข้างชัดเจน ลองมาดูตัวอย่างภาพกันครับ

 

Auto vs HDR

 

Panorama

 

สำหรับวิดีโอนั้น K5 Plus สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ความละเอียด Full HD 1080p@30fps คุณภาพลองดูเอาเอง แต่เสียงที่อัดมาได้นั้น ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ และในระหว่างถ่ายโฟกัสไม่นิ่ง มีการ refocus อยู่เรื่อยๆ

Play video

Play video

 

 

บทสรุป

Lenovo VIBE K5 Plus จัดว่าเป็นมือถือราคาประหยัดสเปกสุดคุ้มอีกหนึ่งรุ่น ด้วยราคาเพียง 5,990 บาท แต่สเปกที่ให้มาไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 5 นิ้ว Full HD, หน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 616, RAM 2GB และกล้อง 13MP นั้นจัดเป็นมือถือระดับ 8,000-10,000 ได้เลยในบางยี่ห้อ แต่ Lenovo ตั้งใจวางหมากตัวนี้ไว้ในกลุ่มราคา 5,000-6,000 บาทที่แข่งขันกันดุเดือดมาก และมือถือรุ่นนี้ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจรุ่นหนึ่งแน่นอน ผมขอสรุปจุดเด่นและจุดที่ควรปรับปรุงไว้ดังนี้

จุดเด่น

  • หน้าจอสวยงาม ความละเอียดสูง
  • ฝาหลังโลหะทำให้รู้สึกพรีเมียม
  • ประสิทธิภาพการใช้งานลื่นไหลดี
  • ภาพถ่ายจัดว่าดีเกินตัว
  • ลำโพง Dolby Atmos
  • GPS จับสัญญาณไว นิ่ง ไว้ใจได้ 

จุดที่ควรปรับปรุง

  • Android 5.1.1 เก่าไปสำหรับปี 2016
  • ตำแหน่งลำโพงไม่เหมาะสม
  • Line ไม่แจ้งเตือน
  • RAM 2GB ส่งผลต่อประสิทธิภาพ
  • เครื่องร้อนพอสมควร

Lenovo VIBE K5 Plus วางจำหน่ายแล้วตามร้านมือถือชั้นนำทั่วไปในราคา 5,990 บาท มี 3 สีให้เลือกคือ เทาดำ, ทอง และเงิน นอกจากนั้นยังมีคู่แฝด VIBE K5 ราคา 5,290 บาท ลดสเปกหน้าจอเป็นความละเอียด HD และใช้ CPU เป็น Snapdragon 415 อีก 1 รุ่นด้วย ลองไปเปรียบเทียบกันดูได้ อ้อ! ตอนนี้ Lenovo เอารุ่น VIBE K5 Plus ที่มี RAM 3GB มาเพิ่มอีก 1 รุ่นราคา 6,390 บาท ถ้าใครเพิ่มเงินได้ก็ไปรุ่น RAM 3GB เลยครับ วันนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

vibe-k5plus-review-end.jpg