วงจรไฟฟ้าต่างๆ ย่อมมีความแปรผันระหว่างประสิทธิภาพในการทำงานกับอุณหภูมิแวดล้อม ซึ่งปกติแล้วถ้ามีอย่างใดอย่างหนึ่งสูงขึ้น อีกอย่างก็จะสูงตามไปด้วย แต่ไม่ใช่กับกรณีของแบตเตอรี่ที่ไม่ว่าอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำจนเกินไปจะส่งผลให้เซลล์แบตเสียหายได้ ตัวซอฟแวร์จึงต้องคอยปรับอัตราการชาร์จเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว

เรื่องมีอยู่ว่า Google Pixel 2 XL ซึ่งปกติแล้วควรจะรองรับฟีเจอร์ชาร์จเร็วด้วยกำลังไฟสูงกว่า 10.5W (18W ตามกำลังไฟของอแดปเตอร์ที่แถมมา) แต่กลับมีผู้ใช้บางกลุ่มที่เคลมกับทาง Android Police ว่าเครื่องของตนชาร์จเข้าด้วยกำลังไฟต่ำกว่า 4W ซะอีก (กำลังไฟ 4 W คือถ้ามีความต่างศักย์ 5V จะมีกระแสไฟเพียง 0.8A เท่านั้น) โดย Pixel 2 XL ก็ยังคงแสดงข้อความว่า charging rapidly หรือกำลังชาร์จเร็วอยู่… ซึ่งมันไม่น่าจะใช่แล้วนะ

เมื่อทาง Android Police จับเอา Pixel 2 XL มาทดสอบการชาร์จในอุณหภูมิต่างๆร่วมกับ Pixel XL, OnePlus 5T, Essential Phone, และ Nextbit Robin พบว่าแต่ละรุ่นนั้นมีกำลังไปในการชาร์จในสภาพแวดล้อมที่เย็นได้แตกต่างกันออกไป อย่างไรก็ตาม Pixel 2 XL เป็นรุ่นที่มีความแตกต่างของกำลังไฟระหว่างในอุณหภูมิต่ำและสูงมีความแตกต่างมากที่สุดถึง 12.5W เลยทีเดียว (ทดสอบด้วยอุณหภูมิแบตเตอรี 16℃ (เย็น) กับ 24℃ (ร้อน))

Play video

ถึงแม้ว่านี่จะเป็นการทดสอบแบบให้เห็นตัวเลขคร่าวๆ ไม่ได้มีความเที่ยงตรงอะไรมากมาย แต่ก็ทำให้เราเห็นว่าความเร็วในการชาร์จของ Pixel 2 XL จะร่วงลงไปเยอะมากเมื่ออุณหภูมิแบตเตอรีต่ำกว่าอุณหภูมิห้อง โดย Google แถลงไว้ว่าจะมีการปรับปรุงหน้า interface ใหม่และก็น่าจะมีการตัดข้อความ charging rapidly ทิ้งไปเมื่อแบตเตอรีไม่สามารถชาร์จเร็วได้

 

ที่มา: Android Police via Pocketnow