MediaTek หนึ่งในผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่เป็นคู่แข่งแบบพอฟัดพอเหวี่ยงกับ Qualcomm ล่าสุดได้ออกมาเผยผลประกอบการของบริษัท พบว่ากิจการรุ่งเรืองขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นถึง 33% โดยสาเหตุหลักก็มาจากชิประดับไฮเอนด์อย่าง Dimensity 9000 และ Dimensity 8000 ที่ทำประสิทธิภาพดีแบบผิดหูผิดตาหากเทียบกับชิปรุ่นก่อน ๆ ทำให้เหล่าผู้ผลิตมือถือหลากหลายค่ายสนใจนำชิปดังกล่าวมาใช้กับมือถือระดับเรือธงของตัวเองมากขึ้น

หลาย ๆ คนน่าจะเซอร์ไพรส์กันสุด ๆ เมื่อตอนที่ Dimensity 9000 เปิดตัวใหม่ ๆ ซึ่งตอนนั้นก็มีมือถือบางรุ่นที่ใช้ชิปนี้มาทดสอบประสิทธิภาพผ่าน Geekbench หรือ AnTuTu แล้วพบว่ามันมีความแรงทัดเทียม (หรือบางทีก็แรงกว่า) กับชิปเจ้าตลาดอย่าง Snapdragon 8 Gen 1

รวมไปถึง Dimensity 8000 Series ชิประดับกลางเกือบ ๆ ไฮเอนด์ที่เปิดตัวตามหลังมาในช่วงเดือนมีนาคม 2022 โดยรุ่น 8100 ก็มีประสิทธิภาพแรงเทียบเท่าชิปเรือธงของปี 2021 อย่าง Snapdragon 888 เหล่าค่ายมือถือทั้ง OPPO, vivo, Xiaomi, OnePlus, realme, Honor เห็นแบบนี้ก็เลยสนใจเอาไปใช้กับมือถือของตัวเองกันเพียบ

ซึ่งจากรายงานผลประกอบการของปี 2022 บอกว่าในช่วงเดือนพฤษภาคม MediaTek ทำรายได้อยู่ที่ประมาณ 52,100 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 62,000 ล้านบาท) ซึ่งเป็นรายได้ที่ลดลง 1% จากเดือนเมษายนปีนี้ แต่ยังนับว่ามากกว่าเดือนพฤษภาคมของปี 2021 อยู่ถึง 26% และยังเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันแล้ว ที่บริษัทสามารถทำรายได้มากกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน

หากนับตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคม 2022 พบว่า MediaTek มีรายได้เพิ่มขึ้นมากถึง 33% อยู่ที่ 247,400 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน และดูเหมือนว่าจะสามารถไปถึงเป้าหมายที่บริษัทตั้งเอาไว้ได้แบบสบาย ๆ ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี นอกจากนี้ Counterpoint ยังได้สำรวจข้อมูลพบว่าในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ค่าย MediaTek เป็นค่ายที่ครองส่วนแบ่งการตลาดชิปมือถืออันดับ 1 ของโลกไปแล้ว โดยนำหน้า Qualcomm อยู่ที่ 38% ต่อ 30%

MediaTek ครองแชมป์ส่งมอบชิปมือถือ ส่วน Qualcomm ครองแชมป์ทำรายได้จากชิปมือถือสูงสุดช่วงไตรมาสแรก 2022

อย่างไรก็ตาม MediaTek คิดว่าหลังจากช่วงเดือนมิถุนายนไปแล้ว รายได้อาจจะเริ่มทรง ๆ ไม่ค่อยเปรี้ยงปร้างเหมือนที่ผ่านมา เพราะตลาดสมาร์ทโฟนเริ่มแผ่ว ๆ ลงไปจากวิกฤตเงินเฟ้อทั่วโลก ทำให้เหล่าค่ายผู้ผลิตมือถือแบรนด์ต่าง ๆ อาจจะเริ่มลดจำนวนออเดอร์ลงไปนั่นเอง

 

ที่มา : mydrivers (จีน)