กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ออกมาเปิดเผยสถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับแอป “หมอชนะ” โดยนับตั้งแต่วันแรกจนถึงวันที่ 25 เมษายน 2021 พบว่า มียอดดาวน์โหลดติดตั้งทะลุ 9.84 ล้านครั้งไปแล้ว ผู้ใช้งานต่อวันเกือบ 7 ล้านคน และจนถึงตอนนี้ ก็แจ้งเตือนกลุ่มเสี่ยงที่อาจติดเชื้อโควิดไปหลายสี่หมื่นหลาย

อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตอนนี้มีคนติดตั้งแอปหมอชนะ ที่ใช้เป็นแพลตฟอร์มติดตามและประเมินผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดว่าปัจจุบัน แอปหมอชนะมีตัวเลขสถิติที่น่าสนใจดังนี้ (นับถึงวันที่ 25 เมษายน 2564)

  • ยอดติดตั้งทะลุ 9.84 ล้านครั้ง
  • ผู้ใช้งานต่อวันเกือบ 7 ล้านคน
  • แจ้งเตือนกลุ่มเสี่ยงไปแล้ว 46,272 ราย

ซึ่งการที่กระทรวงดิจิทัลออกมาเปิดเผยตัวเลขการส่งข้อความแจ้งเตือนไปหากลุ่มเสี่ยงเกือบ ๆ 5 หมื่นรายแบบนี้ก็น่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่ดาวน์โหลดและมีแอปหมอชนะติดตั้งอยู่ในเครื่องไม่มากก็น้อย ว่าหากเกิดคลัสเตอร์ครั้งใหม่ขึ้นมา ตนเองก็น่าจะได้รับทราบความเคลื่อนไหวที่อาจจะส่งผลกระทบถึงตนก่อนใครผ่านตัวแอป ไม่ต้องรอให้ผู้ติดเชื้อออกมาเปิดเผย Timeline หรือติดตามข่าวด้วยตัวเองผ่านช่องทางอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรือโซเชียลมีเดียแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้

เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสบนสื่อสังคมออนไลน์ทั้งบน Facebook และ Twitter ว่าตัวแอปหมอชนะนั้นยังประเมินความเสี่ยงของตนเองว่า ต่ำมาก อยู่เลย ทั้ง ๆ ที่คนรอบตัวต่างติดโควิดกันไปเกือบหมดแล้ว ซึ่งออฟฟิศ DroidSans ของเรา ก็เจอกับเหตุการณ์ดังกล่าวเหมือนกัน คือมีทีมงานติด จนถึงมีรถของโรงพยาบาลมารับไปทำการรักษาเป็นสัปดาห์แล้ว แต่แอปหมอชนะของทุกคนกลับยังขึ้นเป็นสีเขียว ไม่เปลี่ยนสถานะเป็นสีเหลืองหรือสีแดงแต่อย่างใด

ติดโควิดแต่หมอชนะยังบอกว่าความเสี่ยงต่ำ? จากแอปที่มีศักยภาพในการป้องกันการระบาดของไวรัส ทำไมมาถึงจุดนี้ได้?

 

แต่ก่อนที่หลายคนจะเข้าใจผิดว่าหมอชนะนั้นเป็นแอปที่ไม่ได้เรื่องไม่ราว ผู้เขียนขอย้อนกลับไปตอนช่วงกลางปีที่แล้ว ณ ตอนนั้นมีทหารอียิปต์ที่ติดเชื้อโควิดเดินทางมาประเทศไทย และไม่ปฏิบัติตามมาตรการกักตัว 14 วัน ได้ออกมาไปเดินเที่ยวเล่นที่ห้างแห่งหนึ่งของจังหวัดระยอง ซึ่งแอปหมอชนะก็ทำหน้าที่ส่งข้อความไปแจ้งเตือนคนกลุ่มเสี่ยงที่เดินห้างเวลาเดียวกันกับทหารคนดังกล่าวให้เผ้าระวังสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด

หากมองกันในแง่ของศักยภาพแบบเพียว ๆ ต้องบอกว่าแอปหมอชนะมีคุณภาพที่ล้นไม้ล้นมือจริง ๆ ตอนนี้ก็หวังว่า หน่วยงานที่รับเอา “หมอชนะ” ไปดูแลต่อ จะพัฒนาและนำตัวแอปมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด กับประชาชนทั่วไป ที่อยากมีแอปหรือเครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้งานได้จริงในสถาณการณ์การระบาดของโรคในช่วงนี้

 

ที่มา: THE STORY THAILAND