ในที่สุดก็ได้เวลาเปิดตัวซักที สำหรับ Motorola Edge+ มือถือเรือธงรุ่นล่าสุดจาก Motorola หลังจากที่ห่างหายจากตลาดไฮเอนด์ไปนาน โดยการกลับมาครั้งนี้ Motorola Edge+ ก็จัดเต็มทั้งในด้านรูปร่างหน้าตาที่ดูพรีเมี่ยมสุดๆ กล้องหลังความละเอียดสูง 108MP และสเปคแรงเต็มพิกัด ส่วนอื่นๆ จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันครับ

ดีไซน์ตัวเครื่อง และหน้าจอ

Motorola Edge+ ได้รับการดีไซน์ตัวเครื่องใหม่หมด ไม่เหมือนกับมือถือรุ่นอื่นๆ ในอดีตของทางค่ายเลย ด้วยหน้าจอ OLED เจาะรูแบบ Endless Edge ขนาด 6.7 นิ้ว ที่มีขอบข้างโค้งทั้งซ้าย-ขวา ซึ่งไม่ได้มีเอาไว้แค่ให้ดูสวยหรูเท่านั้น แต่มันยังมากับฟีเจอร์ต่างๆ ที่ใช้ควบคุมเครื่องได้อีก

หน้าจอมีความละเอียด FHD+ มากับค่ารีเฟรชเรทที่ 90Hz และรองรับการแสดงผลแบบ 10-bit และ HDR10+ อีกด้วย

ตัวเครื่องด้านหลังใช้วัสดุที่เป็นโลหะขอบโค้งเข้ามือ มีกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว เรียงเป็นแนวตั้งอยู่ที่มุมเครื่องด้านซ้ายบน ถัดมาด้านข้างเป็นเซ็นเซอร์ ToF และแฟลช ตรงกลางเครื่องเป็นโลโก้ Motorola ส่วนปุ่มต่างๆ จะอยู่ทางด้านขอบซ้ายของตัวเครื่อง

ระบบเสียงสุดกระหึ่ม พร้อมรูหูฟัง 3.5 มม.

Motorola Edge+ มาพร้อมกับลำโพงคู่ซึ่งทาง Motorola เคลมว่าเป็นลำโพงมือถือที่เสียงดังที่สุด ทรงพลังที่สุด และยังทำงานคู่กับซอฟท์แวร์ประมวลผลเสียงที่ได้รับการปรับแต่งโดยบริษัท Waves Audio ที่ได้รับรางวัลในเรื่องระบบเสียงมาแล้วหลายเวที ทำให้มือถือรุ่นนี้มีเสียงที่ดังกว่ามือถือรุ่นอื่นๆ ถึง 60% แถมยังได้คุณภาพเสียงที่สุดยอดอีกต่างหาก

นอกจากนี้ มันยังเป็นมือถือระดับเรือธงไม่กี่รุ่นในยุคนี้ ที่ยังคงให้รูหูฟัง 3.5 มม. มาด้วย

กล้องหลัง 3 ตัว + เซ็นเซอร์ 3 มิติ ความละเอียดสูงสุด 108MP

กล้องหลังทั้งหมด 3 ตัว + เซ็นเซอร์ 3 มิติ ToF ประกอบด้วยกล้องหลักความละเอียดสูง 108MP ที่มีเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่กว่าเซ็นเซอร์กล้องของมือถือเรือธงรุ่นอื่นๆ ถึง 3 เท่า และใช้เทคโนโลยี Quad Pixel ที่จะรวบเอาเม็ดพิกเซล 4 เม็ด รวมเป็นเม็ดพิกเซลขนาดใหญ่ 1 เม็ด ทำให้มันสามารถเก็บภาพในที่แสงน้อยได้ดีกว่า

สำหรับการถ่ายวิดีโอก็ลื่นหายห่วงด้วยระบบกันสั่นที่ผสมผสานกันระหว่าง OIS + EIS และยังมีโหมดอื่นๆ ให้เล่นอีก ไม่ว่าจะเป็น Video Portrait Mode ถ่ายวิดีโอหน้าชัดหลังเบลอแบบ Real Time, Video Snapshot จับภาพนิ่งความละเอียด 20MP ระหว่างถ่ายวิดีโอ

กล้องตัวที่สองเป็นกล้อง Telephoto ความละเอียด 8MP ที่ซูมแบบออพติคอลได้ 3x และมีระบบกันสั่น OIS ให้มาอีกด้วย ส่วนกล้องตัวที่สามเป็นกล้อง Ultra Wide ความละเอียด 16MP ที่มากับความสามารถในการถ่ายภาพแบบมาโครได้ สุดท้ายกับเซ็นเซอร์ 3 มิติ ToF ที่ใช้สำหรับการวัดระยะเพื่อถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอให้ออกมาเนียนเป็นธรรมชาติทั้งการตัดขอบวัตถุ และการเบลอฉากหลัง

แบตเตอรี่สุดอึด

มือถือรุ่นนี้อัดแบตเตอรี่มาให้แบบจุใจถึง 5000 mAh พร้อมระบบชาร์จไวแบบมีสาย TurboPower และระบบชาร์จไวไร้สาย TurboPower Wireless แถมยังมากับฟีเจอร์ Wireless Power Sharing ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่นๆ แบบไร้สายได้ด้วย

รองรับการใช้งาน 5G ความเร็วสูง

Motorola Edge+ รองรับการใช้งาน 5G ด้วยคลื่น mmWave ซึ่งสามารถทำความเร็วในการดาวน์โหลดได้สูงสุดถึง 4Gbps นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งาน WiFi 6 อีกด้วย

สเปคระดับไฮเอนด์

แน่นอนว่า Motorola Edge+ เป็นมือถือเรือธงระดับไฮเอนด์ เพราะฉะนั้นสเปคภายในของมันก็ต้องจัดมาให้แบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นชิป Snapdragon 865, RAM แบบ LPDDR5 ขนาด 12GB และหน่วยความจำแบบ UFS 3.0 ขนาด 256GB ทำให้มือถือรุ่นนี้สามารถทำงานได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเล่นเน็ต ดูวิดีโอความละเอียดสูง หรือจะเล่นเกม 3 มิติ กราฟฟิคโหดๆ ก็ไม่มีปัญหาแน่นอน

สเปค Motorola Edge+

  • หน้าจอ OLED ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : Snapdragon 865
  • GPU : Adreno 650
  • RAM : (LPDDR5) 12GB
  • ความจุ : (UFS 3.0) 256GB ไม่รองรับ MicroSD Card
  • กล้องหลัง
    • กล้องหลัก 108MP (f/1.8), PDAF, OIS
    • กล้อง Telephoto 8MP (f/2.4) ซูมออพติคอล 3x, PDAF, OIS
    • กล้อง Ultra wide 16MP (f/2.2)
    • เซ็นเซอร์ ToF
  • กล้องหน้า : 25MP (f/2.0)
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอคู่, รูหูฟัง 3.5 มม., ซอฟท์แวร์เสียงปรับแต่งโดย Waves Audio
  • มาตรฐานกันน้ำ / ฝุ่น : IP68
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax, dual-band, Wi-Fi Direct, BT 5.1
  • เซ็นเซอร์ : Fingerprint (ใต้หน้าจอ), accelerometer, gyro, proximity, compass, barometer
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไวมีสาย TurboPower, ชาร์จไวไร้สาย TurboPower Wireless, ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์อื่น Wireless Power Sharing
  • ระบบ Android 10
  • ขนาด / น้ำหนัก : 161.1 x 71.4 x 9.6 มม. / 203 กรัม

Motorola Edge+ จะเริ่มวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่วันที่ 14 พฤษภาคม 2563 เป็นต้นไป ผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย Verizon ในราคา 999 ดอลลาร์ หรือประมาณ 32,300 บาท ส่วนหลังจากนี้จะวางจำหน่ายที่ประเทศอื่นด้วยรึเปล่า…ต้องรออัพเดทข้อมูลกันอีกรอบครับ

ส่วนข้อมูลของ Motorola Edge รุ่นรองที่เปิดตัวมาพร้อมกันก็ตามนี้เลย

Motorola Edge มือถือ 5G ชิป Snapdragon 765G, กล้อง 64MP + ToF, แบต 4500 mAh เคาะราคาราว 23,000 บาท

ข้อมูลเพิ่มเติม : Motorola Edge+