Motorola Edge เปิดตัวมาพร้อมๆ กับรุ่นพี่ตัวท็อประดับไฮเอนด์อย่าง Motorola Edge+ แต่จะมากับสเปคที่ถูกตัดทอนลงไปบ้าง โดยเปลี่ยนใช้ชิประดับกลาง Snapdragon 765G, กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียด 64MP พร้อมเซ็นเซอร์ 3 มิติ ToF และยังคงมีฟีเจอร์หลายๆ อย่างที่ยังได้อานิสงส์มาจากรุ่นพี่ด้วย ซึ่งโดยรวมแล้วก็เรียกว่าเป็นมือถือระดับกลางที่น่าสนใจรุ่นนึงเลย

Motorola Edge มีรูปร่างหน้าตาที่คล้ายกับรุ่นพี่ตัวท็อปแบบแทบจะเคาะออกมาจากพิมพ์เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ OLED แบบ Endless Edge ขอบโค้ง ความละเอียด FHD+ มีขนาดเท่ากันที่ 6.7 นิ้ว มีรีเฟรชเรทอยู่ที่ 90Hz และรองรับการแสดงผลแบบ HDR10

พลิกมาดูด้านหลังถึงจะเห็นความแตกต่างจากรุ่นพี่อยู่นิดหน่อยตรงบริเวณกล้อง เพราะ Motorola Edge จะวางกล้อง 3 ตัว + เซ็นเซอร์ ToF เรียงเป็นแนวตั้งลงมาทั้งหมด ซึ่งประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 64MP + กล้อง Ultra Wide 16MP + กล้อง Telephoto Optical 2x ความละเอียด 8MP และเซ็นเซอร์ ToF อยู่ด้านล่างสุด

นอกจากนี้ยังยกเอาระบบเสียงสุดกระหึ่มจากรุ่นพี่มาอีก ด้วยลำโพงสเตอรีโอคู่ที่อยู่ด้านบน – ล่างของเครื่อง แถมยังได้รับการปรับแต่งเสียงโดย Waves Audio ซึ่ง Motorola เคลมว่ามือถือซีรีส์ Edge มีลำโพงที่ดังที่สุด และทรงพลังที่สุดแล้ว

แบตเตอรี่ให้มาที่ 4500 mAh ให้พอใช้งานได้ทั้งวันแบบสบายๆ (ถ้าใช้น้อยอาจพอลากได้ 2 วัน) แต่น่าเสียดายตรงที่ระบบชาร์จไวให้มาแค่ 15W เท่านั้น

สเปค Motorola Edge

  • หน้าจอ OLED ความละเอียด FHD+ ขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : Snapdragon 765G
  • GPU : Adreno 620
  • RAM : 4GB / 6GB
  • ความจุ : (UFS 2.1) 128GB รองรับ MicroSD Card (Hybrid)
  • กล้องหลัง
    • กล้องหลัก 64MP (f/1.8), PDAF
    • กล้อง Telephoto 8MP (f/2.4) ซูมออพติคอล 2x, PDAF
    • กล้อง Ultra wide 16MP (f/2.2)
    • เซ็นเซอร์ ToF
  • กล้องหน้า : 25MP (f/2.0)
  • ระบบเสียง : ลำโพงสเตอรีโอคู่, รูหูฟัง 3.5 มม., ซอฟท์แวร์เสียงปรับแต่งโดย Waves Audio
  • มาตรฐานกันน้ำ / ฝุ่น : IP54
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, BT 5.1
  • เซ็นเซอร์ : Fingerprint (ใต้หน้าจอ), accelerometer, gyro, proximity
  • แบตเตอรี่ : 4500 mAh รองรับชาร์จไวมีสาย 15W
  • ระบบ Android 10
  • ขนาด / น้ำหนัก : 161.6 x 71.1 x 9.3 มม. / 188 กรัม

Motorola Edge จะเริ่มวางจำหน่ายภายในเดือนพฤษภาคม 2563 ในอังกฤษ, อเมริกา, แคนาดา, อาร์เจนตินา, บราซิล, ชิลี, เม็กซิโก, ประเทศโซนยุโรป และโซนเอเชียด้วย โดยมีราคาอยู่ที่ 579 ยูโร หรือราวๆ 23,100 บาท (รุ่น 6GB) ส่วนจะเข้ามาประเทศไทยด้วยรึเปล่า…แฟนๆ Motorola ต้องรอลุ้นกันอีกทีครับ

Play video

นอกจากนั้นยังมีรุ่นท็อปอย่าง Motorola Edge+ ที่เปิดตัวมาพร้อมกันด้วยครับ

เปิดตัว Motorola Edge+ การกลับมาของมือถือเรือธงระดับไฮเอนด์จาก Motorola

ที่มา : Motorola, Techradar