ในที่สุดก็มาถึงวันนี้ครับ วันที่ Moto X ตัวแรกสุดที่เคยรีวิวไปเมื่อชาติปางก่อน [Review] รีวิว Moto X ไลฟ์สไตล์ในแบบของคุณ เกิดจอแตกขึ้นมา ก็เลยต้องสั่งหน้าจอมาเปลี่ยนเองอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้รุ่นนี้จะเก่าไปสองปีแล้ว แต่ก็ถือว่ายังคุ้มที่จะซื้อจอมาเปลี่ยนอยู่นะ

      ตอนผมซื้อมาใหม่ๆผมก็รู้สึกมั่นใจนะว่ารุ่นนี้มันทนทานต่อการใช้งาน ซึ่งผมก็เคยทำตกมาหลายครั้งแล้ว จึงทำให้มั่นใจขึ้นไปอีกว่า เอ้ย งานประกอบดีจริงๆ ถึงแม้ว่าฝาหลังเครื่องจะมีรอยปริแตกและเสื่อมสภาพตามกาลเวลาและการใช้งานก็ตาม จนกระทั่งเปลี่ยนไปใช้ Moto X Style ก็เลยสืบทอด Moto X 1st Gen ให้หลานสาวใช้ต่อเป็นมรดกตกทอด 

      และนั่นแหละครับ จุดเริ่มต้นที่ทำให้จอมันแตกครับ..

      ซึ่งตกแตกหรือป่าว? ก็ไม่นะ เพราะตอนที่ให้หลานใช้ก็พอรู้อยู่แล้วล่ะว่าหลานสาวของผมไม่ค่อยระมัดระวังของ อาจจะทำเครื่องตกบ่อย ดังนั้น Moto X 1st Gen ก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับหลานของผม คงจะทนไม้ทนมือได้สบายๆ 

      แต่ผมก็ไม่ได้คาดคิดไปว่าบางครั้งจอมันก็แตกได้ ไม่ใช่เพราะว่ามันตก แต่ทว่ากลับเป็นการทำเครื่องตกแล้วเผลอไปเหยียบซ้ำ

      อืมนะ… จะไปหาเครื่องที่ทนการโดนเหยียบหน้าจอได้ก็ใช่เรื่องอยู่ รู้สึกว่าสั่งจอมาเปลี่ยนใหม่น่าจะเหมาะกว่าเยอะ ก็เลยเปิด eBay ขึ้นมาเพื่อจะกดสั่งอะไหล่จอมาซ่อน ซึ่งรุ่นนี้อะไหล่ก็หายากอยู่แล้วเพราะในสมัยนั้นมีขายแค่อเมริกา เพราะงั้นไม่ต้องพูดถึงว่าจะกดสั่งจากประเทศจีนในราคาถูกๆได้ อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่ามันน่าจะได้อะไหล่ OEM จริงๆแหละ (มั้ง)

      ดังนั้นอะไหล่จอที่ผมกดสั่งมาจากใน eBay ก็จะถูกส่งมาจากอเมริกา และเอาจริงๆค่าอะไหล่จอไม่แพงนะ ประมาณ 1,300 บาทเอง แต่ก็ต้องโดนค่าส่งไปอีกราวๆ 790 บาท จึงเสียเงินรวมๆ 2,000 บาทนิดๆ ก็ถือว่าโอเค แถมส่งของแบบเสียเงินเพราะงั้นจึงทำให้ได้ของไวมาก แค่สัปดาห์เดียวก็ได้ของแล้ว แถม DHL มาส่งให้ถึงที่

      เอาล่ะ จบเรื่องราวที่มาของจอแตกกันไปแล้ว คราวนี้มาเริ่มแงะกันดีกว่า

      อย่างแรกสุดที่ต้องทำคือปิดเครื่องแล้วถอดถาดใส่ซิมออกเสียก่อน

 

      สำหรับฝาหลังของ Moto X นั้นแซะง่ายครับ ใช้แท่งพลาสติกแซะรอบๆเครื่องได้เลย

 

        แต่ผมก็พบว่าความยากจริงๆมันอยู่ที่ฝาหลังตรงกลางมากกว่า เพราะว่ามันมีการติดกาวไว้กับแผ่นยางกันน้ำซึม ซึ่งไอแผ่นยางที่ว่าเนี่ยมันก็ไปติดกับฝาหลังแบตอีกที ดังนั้นตอนจะถอดฝาหลังออกมาได้จริงๆต้องบรรจงแซะกาวนานพอสมควร

 

      แถมฝาหลังยังมีไฟแฟลชติดอยู่ถอดไม่ได้อีกด้วย ดังนั้นตรงนี้ต้องระวังครับ เดี๋ยวเผลอไปดึงสายแพขาด เพราะงั้นแซะกาวออกมาได้แล้ว ถอดฝาหลังได้แล้วก็จริงก้ต้องปล่อยให้สายแพติดคาไว้ก่อน

 

      ไฟแฟลชติดกาวไว้กับฝาหลัง ไม่ต้องไปแงะนะครับ

 

      หลังจากเปิดฝาหลังออกมาได้แล้วก็ให้เอาแผ่นยางกันน้ำซึมออกก่อนเลย ซึ่งเสียดายเหมือนกัน เพราะตอนประกอบกลับมันก็คงไม่ช่วยเรื่องกันน้ำแล้วล่ะ (เป็นอย่างหนึ่งที่ผมชอบในรุ่นนี้นะ)

      

      จากนั้นก็เริ่มถอดสายแพของไฟแฟลชออกเลยครับ โดยงัดสลักขึ้นแล้วดึงสายออกได้เลย

 

      เอาฝาหลังไปเก็บเลยครับ

 

      ต่อจากนั้นให้ขันน็อตออกให้หมดซะ ซึ่งมีทั้ง 11 จุดตามภาพข้างล่างนี้เลย

 

ซึ่งรูน็อตก็ไม่ปกติเหมือนชาวบ้านนะ แต่เป็น 6 แฉก ซึ่งคนละแบบกับที่แงะ Nexus 4 แต่โชคดีที่ผมซื้อไขควงแบบอเนกประสงค์มีหลายหัวให้เลือก ไม่งั้นมีหวังได้ไปกดสั่งมาใหม่แน่ๆ

 

      แล้วใช้แท่งพลาสติกงัดฝาปิดวงจรฝั่งข้างล่างของตัวเครื่องซะ      

 

      ถอดสายแพสำหรับ NFC และแบตเตอรีออกซะ โดยงัดขึ้นทั้งคู่ ไม่มีสลักล็อคแต่อย่างใด

 

      ถอดสายแพสำหรับปุ่ม Power และ Volume ออก (ชอบงานประกอบตรงนี้ดีแฮะ )

 

      จากนั้นงัดแผงขั้วต่อสายแพของปุ่ม Power กับ Volume ออกซะ ซึ่งตัวแผงจะติดกาวอยู่บนแบตเตอรีสามารถงัดออกมาได้ไม่ยากนัก

 

      แล้วแซะแผ่นเทปสีดำออก ซึ่งแผ่นตัวนี้จะปิดขอบของแถบ NFC  เป็นแถบที่ติดอยู่กับแบตเตอรีเอาไว้ดึงแบตเตอรีออกจากเครื่อง (ดึงที่อิแผ่นนี้แหละ)

 

      แต่ทว่าแบตเตอรีนั้นไม่ได้ถอดออกมาง่ายๆหรอกนะ เพราะติดกาวไว้ค่อนข้างดี ให้ใช้แท่งพลาสติกค่อยๆงัดขึ้นทีละนิดๆเดี๋ยวก็หลุดเอง(แงะง่ายกว่าฝาหลังในตอนแรก)

 

      จากนั้นก็งัดฝาปิดวงจรฝั่งข้างบนตัวเครื่องออก โดยแงะจากแง่งยาวๆที่อยู่ฝั่งขวามือก่อน จะทำให้งัดได้ง่ายๆ

 

      จากนั้นก็ถอดขั้วต่อกล้องหน้าออกซะ

 

      ตามด้วยขั้วต่อเซ็นเซอร์ Proximoty

 

 

 

       จากนั้นดึงบอร์ดวงจรออกมาได้เลย จะมีบางส่วนที่ติดกาวอยู่ ดังนั้นหาแท่งพลาสติกงัดก็ดีเหมือนกันนะ

 

      แต่ตอนที่งัดบอร์ดวงจรจะมีฝั่งหนึ่งที่มีสายแพต่อกับจออยู่ (ตอนงัดลองค่อยๆส่องดู)

 

      งัดสลักขึ้นแล้วถอดออกให้เรียบร้อยซะ สลักล็อคจะยาวหน่อย ค่อยๆงัด เดี๋ยวหักแล้วจะซวยเอา เท่านี้ก็ถอดบอร์ดออกจากหน้าจอเครื่องได้แล้ว

 

      ที่ต้องงัดก็มีประมาณนี้ สำหรับอะไหล่จอที่ผมสั่งจะมีเซ็นเซอร์ Proximity กับปุ่ม Power และ Volume ให้ในตัว เลยไม่ต้องแงะของเก่ามาใส่

 

      ต่อมาก็ถึงเวลาหน้าจอตัวใหม่แล้ว พอดีอะไหล่จอมีแต่สีดำ ซึ่งของเดิมใช้สีขาว แต่ไม่เป็นไรเนอะ ข้างหลังสีขาว ข้างหน้าสีดำก็ดีเหมือนกัน

 

      สำหรับขั้นตอนตอนประกอบก็คือขั้นตอนย้อนกลับน่ะแหละ ดังนั้นไม่ขออธิบายมากนะครับ แต่มีภาพประกอบเครื่องกลับเป็นลำดับให้แทน

      ต่อสายแพสำหรับหน้าจอ

 

      ประกอบบอร์ดวงจรลงบนหน้าจอ

 

      ขันน็อตสำหรับแท่งโลหะที่ด้านข้างตัวเครื่อง

 

      ต่อขั้วสายกล้องหน้ากับเซ็นเซอร์ Proximity

 

      ใส่แบตเตอรี

 

      ต่อขั้วสายแบตเตอรีและ NFC

 

      ต่อขั้วสาย Power กับ Volume

 

      ปิดฝาแผงวงจรช่วงบนแล้วขันน็อตให้เรียบร้อย

 

      ปิดฝาวงจรช่วงล่างด้วยเช่นกัน

 

      ต่อชั้วสายไฟแฟลชที่ติดอยู่กับฝาหลัง

      ซึ่งในขั้นตอนนี้ควรลองกดเปิดเครื่องเพื่อเช็คดูว่าหน้าจอติดดีมั้ย ทัชได้มั้ย ก่อนที่จะปิดฝาหลังนะครับ

      ถ้าลองทดสอบแล้วโอเค ก็ปิดเครื่องก่อน แล้วปิดฝาหลังให้เรียบร้อย ตอนปิดฝาหลังก็อย่าลืมแผ่นยางกันน้ำซึนนะครับ ถึงจะช่วยอะไรได้ไม่มาก แต่ใส่ไว้ให้เหมือนเดิมหน่อยก็ดี

 

      เสร็จแล้วจ้า ได้ข้างหน้าตัวเครื่องเป็นสีดำแทนแล้ว 

 

      ไม่รู้ว่าหน้าจอมัน OEM จริงๆหรือป่าว ถ้าได้จริงๆก็ดี เพราะผมค่อนข้างชอบรุ่นนี้ตรงที่หน้าจอค่อนข้างทนนี่ล่ะ (ถ้าไม่นับว่าโดนเหยียบจนแตกนะ) ซึ่งค่าอะไหล่ก็ไม่ค่อยแพงซักเท่าไร แถมแกะเปลี่ยนได้ไม่ยาก เพราะว่าเปลี่ยนแผงหน้าจอทั้งชุดเลยสะดวกมากๆ ไม่เหมือนกับหลายๆเครื่องที่เคยแงะมา แต่ทว่าอาจจะไม่ได้กันน้ำได้เหมือนเดิมแล้วเพราะแงะแผ่นยางออกไป 

      แต่ก็ดีกว่าไม่มีใช้แหละนะ..

      สำหรับใครที่อยากจะทำบ้างแต่อยากดูขั้นตอนเป็นวีดีโอก็แนะนำให้ดูของ iFixit ได้เลยครับ

Play video