มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค (มพบ.) ได้ออกมากดดัน กสทช. ให้ทำอะไรสักอย่าง หลังผู้บริโภคมาร้องเรียนเยอะมาก เรื่องสินเชื่อออนไลน์ และเว็บการพนัน โทรมาก่อกวน หรือส่ง SMS เพื่อให้กดลิงก์หลอกหลวงให้โอนเงินหรือบริจาค คาดว่าอีกสักพัก (ในความเห็นผู้เขียน) กสทช. น่าจะออกมาตรการปรับเงิน หรืออย่างน้อยเรียกมาตักเตือน พร้อมกับครั้งต่อไปต้องเกิดเหตุการณ์แบบนี้ให้ได้น้อยที่สุด

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค เปิดเผยว่า มูลนิธิฯได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้บริโภคว่า ได้รับข้อความ SMS ชักชวนให้สมัครสินเชื่อออนไลน์และเว็บพนันก่อกวน รวมทั้งโทรศัพท์ระบบอัตโนมัติชักชวนให้สมัครสินเชื่อออนไลน์ ซึ่งกู้เงินได้โดยใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว และไม่ได้พูดถึงชื่อบริษัท รวมทั้งมีการบอกว่าเมื่อฟังจบแล้ว ให้รอสายเพียงแค่ 5 วินาที ก็สามารถโอนเข้าระบบทำการกู้เงินได้ทันที

โดยผู้เสียหาย ได้เปิดเผยกับ มพบ. ว่าตนเองไม่ทราบเลยว่าพวกเว็บพนัน หรือสินเชื่อออนไลน์ ได้ข้อมูลเบอร์โทรศัพท์มาจากไหน เพราะตนไม่ได้ลงทะเบียนมือถือไว้กับที่ใด และไม่ได้สมัครพ่วงกับบัตรเครดิตใด ๆ ทำให้ผู้เสียหายคิดว่าน่าจะหลุดออกมาจากผู้ให้บริกายเครือข่ายทั้งสามค่าย ทั้ง AIS, truemove H และ dtac

นอกจากนี้ รองผู้อำนวยการฝ่ายศูนย์พิทักษ์สิทธิ์ผู้บริโถค ได้ออกมารายงานว่า ตอนนี้ มพบ. พบปัญหาการร้องเรียนเกี่ยวกับสินเชื่อออนไลน์ โดยการใช้วิธีส่งข้อความ SMS เขียนข้อความหลอกหลวงให้เข้าใจผิด จากนั้น แนบลิงก์ต่อท้ายข้อความเพื่อหลอกหลวงให้กดเข้าไป ยกตัวอยาง

  • เงินเดือน 1,000 บาท โอนเข้าบัญชีเรียบร้อย
  • คุณถอนเงินสำเร็จแล้ว 1,000 บาท หรือ
  • เครดิตของคุณดีและคุณมีสิทธิ์ได้รับ 300,000 บาท

แถม มพบ. ยังได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคว่า มีเว็บพนันและสินเชื่อออนไลน์ได้โทรศัพท์ไปหาผู้บริโภค ทำให้ผู้บริโภคจำนวนมากเดือดร้อนรำคาญกับมิจฉาชีพในลักษณะนี้ และอาจถูกแฮกข้อมูลในโทรศัพท์และสูญเสียทรัพย์สินได้ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับแก้ไขใด ๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยิ่งเฉพาะหน่วยงานเครือข่ายโทรศัพท์ ที่ถือเป็นผู้ตรวจสอบดูแลเป็นหลัก แต่กลับปล่อยปะละเลย ให้มี SMS ส่งมาถึงสมาร์ทโฟนของผู้ใช้งาน

*137✆ โทรฟรี ยกเลิก SMS ขยะ หยุดข้อความกวนใจ

ทั้งหมดทั้งมวล มพบ. ได้ออกมากระตุ้น กสทช. ในฐานะหน่วยงานดูแลกำกับเรื่องสัญญาการให้บริการโทรคมนาคม ขอให้ช่วยตรวจสอบถ่ายมือถือดัง ๆ อาทิ AIS, truemove H, dtac ฯลฯ เพื่อกำจัดไม่ให้พวกเว็บเหล่านั้นกลับมาก่อกวนผู้บริโภคอีก

 

ที่มา: ISRANEWS