สำนักงาน กสทช. ร่วมกับการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งโต๊ะถกประเด็น “การจัดระเบียบสายสื่อสารทั่วประเทศ” ปรับรูปแบบให้มีการใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน เพื่อลดจำนวนการพาดสายสื่อสารบนเสาไฟฟ้า รวมถึงการนำสายลงใต้ดินอย่างเร่งด่วนภายในปี 2567 นอกจากนี้ยังหารือถึงความเป็นไปได้ในการมัดรวม จัดให้มีการใช้ผู้ให้บริการโครงข่ายเพียงรายเดียวอีกด้วย

สายสื่อสารที่รกรุงรังเป็นปัญหาคาราคาซังของประเทศไทยมาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ได้กลับมาเป็นประเด็นที่ถูกหยิบยกมากล่าวถึงอย่างแพร่หลายอีกครั้งนับตั้งแต่ที่ Russell Crowe นักแสดงฮอลลีวูดชื่อดังชาวออสเตรเลียได้โพสต์ภาพถ่ายเซลฟีกับเสาไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จนกลายเป็นไวรัลบนอินเทอร์เน็ตไปทั่วโลก โดยทางคณะรัฐมนตรีนั้นไม่ได้นิ่งนอนใจ จึงมีมติการจัดระเบียบสายสื่อสารทั่วประเทศออกมาเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน

การจัดระเบียบสายสื่อสารในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลในปี 2565 เบื้องต้นจะดำเนินการในระยะทาง 456 กม. หลังจากนั้นจะดำเนินการส่วนที่เหลืออีก 936 กม. ส่วนพื้นที่ต่างจังหวัดมีระยะทางรวมประมาณ 6,000 กม. โดยมีการตั้งเป้าดำเนินการให้ได้เฉลี่ยปีละ 2,000 กม. จนแล้วเสร็จในปี 2567

ในที่ประชุมยังได้เห็นชอบในการแบ่งอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงานอย่างชัดเจนเพื่อให้ดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปตามแบบแผน ดังนี้

  • การไฟฟ้านครหลวง : กำกับดูแลการพาดสายสื่อสาร กำหนดเส้นทางการจัดระเบียบสายสื่อสารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกำกับการจัดระเบียบสายสื่อสาร ในพื้นที่รับผิดชอบของการไฟฟ้านครหลวง
  • การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค : กำกับดูแลการพาดสายสื่อสาร กำหนดเส้นทางการจัดระเบียบสายสื่อสารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกำกับการจัดระเบียบสายสื่อสาร ในพื้นที่รับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
  • กรุงเทพมหานคร : อำนวยความสะดวกการจราจรในพื้นที่การจัดระเบียบสายสื่อสาร ประสานงานกับตำรวจเพื่อดูแลและอนุญาตการใช้พื้นที่ทางเท้า รวมถึงการทำความเข้าใจกับประชาชน
  • สำนักงาน กสทช. : กำหนดเส้นทางการจัดระเบียบสายสื่อสารร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประสานงานกับผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคม และกำกับการจัดระเบียบสายสื่อสาร

ทั้งนี้ สำหรับแนวคิดการจัดระเบียบสายสื่อสารแบบใช้โครงข่ายปลายทางร่วมกัน หรือที่เรียกว่า Single Last Mile นั้น สามารถทำได้ทั้งการจัดระเบียบสายแขวนอากาศและสายใต้ดิน แต่การจะนำวิธีการรูปแบบนี้มาใช้งาน ทางหน่วยงานภาครัฐจำเป็นต้องกำหนดหลักเกณฑ์และข้อบังคับมารองรับเพื่อให้หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเสียก่อน

 

ที่มา : สำนักงาน กสทช.