จากข่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา Netflix สูญเสียสมาชิกไปกว่า 200,000 ราย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่ Netflix ถูกสมาชิกยกเลิกมากขนาดนี้ จนทำให้ทางบริษัทต้องพยายามสรรหาวิธีอื่น ๆ มาช่วยทำรายได้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแผนการเปิดแพ็คเกจราคาถูกที่มีโฆษณาคั่น หรือการเก็บค่าสมัครเพิ่มสำหรับการแชร์ ID ให้สมาชิกที่อยู่คนละบ้าน…และดูเหมือนว่าการที่สมาชิกหายไปมากขนาดนี้ จะส่งผลกระทบหนักกว่าที่คิด เพราะล่าสุดมีรายงานออกมาว่า Netflix ต้องยกเลิกการสร้างซีรีส์และหนังหลายเรื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2022 ทาง Netflix ได้ออกมาเผยว่าช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 มีสมาชิกที่ยกเลิกบริการไปกว่า 200,000 ราย แต่จริง ๆ แล้ว Netflix เสียสมาชิกไปมากกว่านั้นอีก เนื่องจากเมื่อเร็ว ๆ นี้ทางบริษัทพึ่งหยุดให้บริการในรัสเซียจากเหตุสงครามด้วย ทำให้ต้องสูญเสียสมาชิกในประเทศดังกล่าวไปอีกกว่า 700,000 ราย รวม ๆ แล้วมีสมาชิกที่หายไปทั้งหมดเกือบ 1 ล้านรายเลยทีเดียว

ซึ่งทางบริษัทยังได้คาดการณ์เอาไว้ด้วยว่าสมาชิกอาจหายไปอีกกว่า 2 ล้านรายภายในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ แถมตอนนี้มูลค่าตลาดของ Netflix ยังหายไปอีกกว่า 5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากการที่หุ้นตกไปกว่า 35%

และจากเหตุพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกของ Netflix ดังกล่าว ทำให้ทางบริษัทต้องยกเลิกการสร้าง Original Content ที่วางแผนเอาไว้ตั้งแต่แรกไปหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่อง Bright 2 ที่จะนำแสดงโดยวิลล์ สมิธ (อันนี้ Netflix บอกว่าที่ยกเลิกไป ไม่ใช่เพราะเรื่องฉาวบนเวทีออสการ์นะ…) ซีรีส์หลายเรื่อง รวมถึงอนิเมชั่นที่ตามข่าวบอกว่าโดนผลกระทบหนักที่สุดด้วย

แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีข้อมูลเผยออกมาว่าคอนเท้นต์ที่ถูกยกเลิกไปมีจำนวนมากแค่ไหน แต่สำหรับคอนเท้นต์ดัง ๆ ที่ยังขายได้อยู่อย่างเช่น Stranger Things, The Witcher, Arcane และ Squid Game จะไม่ถูกยกเลิกแน่นอน (อย่างน้อยก็อีกซีซั่นนึง ถ้าความนิยมยังไม่ลดลงไป)

ก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่า Netflix จะหาทางออกให้กับสถานการณ์นี้ยังไงได้บ้าง ไม่แน่ว่าแพ็คเกจราคาถูกแต่มีโฆษณาอาจจะช่วยเพิ่มจำนวนสมาชิกเข้ามาได้บ้าง แต่ไม่รู้ว่านโยบายใหม่ที่จะเก็บเงินเพิ่มจากการแชร์ ID กับสมาชิกที่อยู่คนละบ้านจะทำให้ Netflix มีรายได้เพิ่มขึ้น หรือจะทำให้สมาชิกหายไปมากกว่าเดิมกันแน่

 

ที่มา : Techradar, Washingtonpost, Bloomberg