ตั้งแต่เปิดตัว OnePlus 5 มาได้ประมาณ 4 เดือน เราก็เห็นข่าวฉาวจากค่าย OnePlus โผล่มาเรื่อยๆ อย่างก่อนหน้านี้ก็มีเรื่องการผลคะแนนการทดสอบ benchmark และก็มีเรื่อง jelly scroll บนหน้าจอ OnePlus 5 อีก แต่ข่าวฉาวจาก OnePlus ยังไม่หมดแน่เพียงเท่านี้ เพราะตอนนี้มีข่าวใหม่มาอีกแล้ว นั่นก็คือ OnePlus นั้นแอบเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานโดยไม่มีการปิดบังเลยแม้แต่น้อย แถมยังไม่มีการแจ้งอีกด้วย
การเก็บข้อมูลของ OnePlus นั้นถูกค้นพบโดยนาย Christopher Moore ซึ่งไปเจอปัญหานี้เข้าตอนงานแข่ง Hack Challenge โดยตอนนั้นเค้าได้กำลังทำการส่องการใช้งานอินเทอร์เน็ตใน OnePlus 2 อยู่ แล้วังเอิญไปเจอก้อนข้อมูลน่าสงสัยขนาดใหญ่ที่ส่งไปที่ open.oneplus.net ซึ่งก็คือโดเมนของ OnePlus นั่นเอง
ข้อมูลที่ถูกส่งไปนั้นไม่มีการปิดบังเลยแม้แต่น้อย โดยข้อมูลที่ถูกเก็บก็จะมี เลข IMEI, Mac addresses, mobile network, IMSI prefixes, serial numbers และ อื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังสามารถที่จะดูได้ด้วยว่าเครื่องของเรานั้นมีการเปิด-ปิดหน้าจอเมื่อไหร่ รวมไปถึงการ reboot เครื่องแบบผิดปกติอีกด้วย
ทาง OnePlus ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว โดยบอกว่า
การเก็บข้อมูลของผู้ใช้งานนั้นมีด้วยกัน 2 ชุด โดยชุดแรกคือ การเก็บข้อมูลของผู้บริโภคเพื่อนำไปพัฒนาซอฟต์แวร์ให้ดีขึ้นตามการใช้งาน ซึ่งผู้บริโภคสามารถที่จะปิดการส่งข้อมูลได้ที่ ‘Settings’ > ‘Advanced’ > ‘Join user experience program’ ส่วนอีกชุดคือข้อมูลของเครื่อง เพื่อเอาไว้ใช้สำหรับบริการหลังการขาย
เอาจริงๆ การเก็บข้อมูลเพื่อนำไปพัฒนาซอฟต์แวร์และการบริการให้ดีขึ้นก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของวงการมือถือ แต่ว่าอย่างน้อยข้อมูลเหล่านั้นก็ควรที่จะมีการเข้ารหัสเพื่อที่จะเป็นการป้องกันการถูกเจาะเข้ามา ก็น่าสนใจว่าการค้นพบครั้งนี้จะส่งผลต่อชื่อเสียงในอนาคตของ OnePlus มากน้อยแค่ไหนนะครับ
ที่มา: Chris’s Security and Tech Blog via Android Police
เน่าใน ค่ายจีนแดง คนงบน้อยก็ต้องทนใช้ไป ทำไงได้เนอะ ขอให้ได้สัมผัสรูปทรงอารมณ์ wanna be iphone ก็พอ
ส่วนคนมีเงินนั้นก็ไปใช้ไอโฟนกันหมด
คนมีเงินใช้ iphone เอิม….
มีคน wanna be จะใช้ iPhone ต้องนั่งผ่อนกัน 2 ปี กว่า
อีกคนฐานะดีกว่าคนแรกใช้ Android เครื่องละไม่ถึงหมื่นครับ
ผมไม่ได้ใช้ oneplus เพราะ ขอให้ได้ อารมณ์ wanna be iphone นะ , ผมไม่ได้ต้องการเป็นแบบ iphone เลยด้วย ผมแค่ใช้เพราะ สเปคเครื่องโอเค, เปลี่ยนฝาหลังได้ , โล่โก้ 1+ สวยงาม และสุดท้ายคือ accessory ไม่เหมือนใครดี
เหอๆ ผมเคยเปิดร้านมือถือมาก่อน ยังไม่ชอบใช้ไอโฟนเลย ระบบมันโบราณเมื่อเทียบกับ Miui, จอเล็กอีก เป็นรีโมตทีวีกับแอร์ก็ยังไม่ได้ ไม่ได้คลั่งแบรนด์มะกันมันขนาดนั้น
นึกว่า จะเหนเม้นแบบนี้เสียแล้ว สีสรรดีครับ
iPhone ถ้าไม่มีเน็ต ก็เหมือนที่ทับกระดาษ
กล้องก็แค่ 13 ล้าน สู้โนเกีย 808 ยังไม่ได้เลย
ใส่ได้ซิมเดียวอีก เดี๋ยวนี้คนมีเกินเบอร์เดียวกันเยอะแยะ
เพิ่มเมมก็ไม่ได้ ฮ่วย เก่งแต่บอกให้ขึ้นเมฆ แล้วมันก็ต้องต่อเน็ตใช่ป่ะละ
สุดท้ายอันนี้สำคัญสุด วิทยุออฟไลน์ก็ไม่มี 5555
โผล่มาแล้วหรอครับ 5555555
มีเงินครับ แต่ไม่คิดแตะไอโฟนเลยครับ ไม่มีไรดี
อ้าว ไปมุดรูที่ไหนมา มีแฟนขับถามถึงหลายคนเลยครับ เรื่องตังมีครับ แต่ไม่ซื้อครับ เลิกแขวะคนใช้ android ว่าไม่มีเงินเสียดีเถอะครับ
แม่งมโนชิบ 555555555
ครับ..ฝ.ฝ
https://www.youtube.com/watch?v=KxCZTa5JEvE
wanna be iphone หรอ แข่งสแกนนิ้วดู รู้สึกว่าช่วงท้ายคลิป android แสกนได้ แต่ มือถือที่คุณอวยหนะแสกนไม่ติด หว่ายยย อวยกันเข้าไป
ข่าวก็เยอะแยะ iphone แบตฯบวม ระเบิด
เลิกใช้ครับ … มือถือตัวนี้ไม่ปลอดภัย
หืมมมมมมมมมมมมม ต้องลงรอมโม อย่างด่วน
อ่านหัวข้อตรง "โดยไม่มีการปิดบังใดๆ" คือเข้าใจว่าหมายถึงเค้าออกมาบอกเองว่าจะเอาข้อมูลของลูกค้านะครับ น่าจะเปลี่ยนเป็น "โดยไม่มีการเข้ารหัส" น่าจะตรงกับความหมายมากกว่า
ในกระทู้ต้นฉบับก็มีบอกไว้นะครับ เขาไม่แปลกใจที่มีการส่งข้อมูลตัวเครื่องไปหา one plus แต่มันแปลกตรงที่ว่ามันเก็บรายละเอียดกระทั่งการเปิดปิดหน้าจอ เวลาการเข้าออกแอป(อันนี้ที่น่ากลัว)
นอกนั้นผู้เขียนบอกว่าเป็นเรื่องปกติที่อาจมีการเก็บข้อมูลพื้นฐานไปใช้ได้ แถมมีการเขียนเชิงประชดอีกว่า อาจจะเก็บข้อมูลไว้ติดต่อกลับมาหาโดยตรง 555 แค่ขอวิธีปิดการส่งข้อมูลส่วนตัวน่าจะเพียงพอ
ประเด็นสำคัญที่ตกหล่นไปคือ ทีม support ของ one plus ใน twitter ให้คำตอบกลับมาได้ไม่ตรงคำถามสุดๆ เมื่อผู้เขียนทวีตไปถามวิธีปิดการส่งข้อมูล ทางทีม support ให้คำแนะนำว่าลบ cache ซะ ผู้เขียนเลยตอบกลับไปว่ามันไม่น่าเกี่ยวกัน ทีม support ก็ตอบกลับมาให้ hard reset ซึ่งมันดูน่าตลกมากสำหรับคำแนะนำจากทีม support โดยตรง
สรุปแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของ one plus เต็มๆครับที่ล้วงข้อมูลส่วนตัวลึกเกินพื้นฐานแบบที่บริษัทอื่นๆเคยทำกัน Google เองก็มีการ collect user data ไปเหมือนกัน เพียงแต่มีการขออนุญาตแล้ว และสามารถปิดได้ แต่สำหรับ one plus แล้ว มันไม่มีวิธีปิดครับ นอกเสียจากว่าจะรูทเครื่อง
จากคนใช้ One plus 3
ไม่น่าใช้คำว่า แอบนะ
ไอ่ตอนเซ็ตเครื่องตอนแรก ที่กด next ๆไปนั่นมันถามนะ
แต่แค่ส่งไปแบบไม่เข้ารหัส ที่มันดูแย่
ใครอ่านแค่หัวก็ดราม่ากันไป
+1 ครับ คิดเหมือนกัน
ผมใช้อยู่ ตอนตั้งค่าเครื่องครั้งแรกก็มีถาม
แต่มันน่าโกรธตรงไม่เข้ารหัสเนี่ยแหละ