ทีมนักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ชื่อ OpenAI ได้มีความพยายามศึกษาและพัฒนาซอฟแวร์ text generation ที่จะสามารถพยากรณ์คำศัพท์ต่อไปในประโยคด้วย AI ได้ด้วยความแม่นยำ แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้น กลับเหนือความคาดหมายไปมากเพราะปัญญาประดิษฐ์ดันสามารถเลียนแบบวิธีการเขียนอันสมบูรณ์แบบเช่นมนุษย์ได้เลย แต่พวกเขามองว่านี่มันเกินจุดประสงค์แรกไปมากและอาจจะเป็นอันตรายจึงได้ตัดสินใจทำการยุติโครงการพัฒนานี้เอาไว้จนกว่าจะหาคำตอบให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้เสียก่อน…
Elon Musk นับเป็นหนึ่งในหลายผู้นำด้านเทคโนโลยีในช่วงปีที่ผ่านมา ที่ออกมาให้ความเห็นที่เกี่ยวข้องกับ Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์ในเชิงกังวล เพราะเขาเชื่อว่า “ปัญญาประดิษฐ์อาจเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติ” โดย Musk เองนั้นเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนเงินทุนให้กับทีมวิจัยที่ไม่หวังผลกำไรด้าน AI นามว่า OpenAI และถึงแม้ว่า Musk จะไม่ได้มีบทบาทเชิงรุกต่อองค์กรนี้มากนักแต่จากผลงานล่าสุดนั้นอาจเชื่อได้ว่า พวกเขามีความคิดและความกังวลไปในทางเดียวกันหลังจากที่ ทีม OpenAI ได้ประสบความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในการสร้างปัญญาประดิษฐ์ที่สุดจะเพอร์เฟ็กต์ในการพยากรณ์คำศัพท์และสร้างประโยคที่สมบูรณ์ เว้นเสียแต่ว่าในรายงานล่าสุด พวกเขามองว่ามันเก่งกาจเกินความคาดหมายไปไกลจนอาจเป็นอันตรายได้นั่นเอง
การทดสอบ AI กับฐานข้อมูลขนาดมหึมา นำมาซึ่งประโยคและแกรมม่าที่สมบูรณ์
รอบนี้ของการทดสอบและพัฒนา ทีมวิจัยได้ใช้ข้อมูลขนาด 40GB ที่ดึงมาจากเว็บไซต์กว่า 8 ล้านเว็บในการฝึกซอฟแวร์ปัญญาประดิษฐ์ “GPT-2” ซึ่งนับเป็นข้อมูลปริมาณมหาศาลที่ใหญ่กว่าการทดสอบรอบก่อนหน้าถึง 10 เท่าตัว โดยที่ครั้งนี้เซ็ตของข้อมูลถูกรวบรวมผ่านเว็บไซต์ Reddit โดยคัดเอาเฉพาะกระทู้ที่ได้รับการกด Upvotes มากกว่า 3 ขึ้นไป (ถึงตรงนี้หากไม่รู้จัก Reddit ให้เพื่อนๆนึกภาพของกระทู้พันทิปและการกดบวกให้กับจขกท. 😆 ) และหลังจากการฝึกประมวลผลข้อมูลสำเร็จแล้ว ปัญญาประดิษฐ์นี้สามารถสร้างข้อความขนาดเล็กได้และยังคาดเดาคำต่อๆไปในประโยคได้อย่างทันทีทันใดโดยมีปัญหาเพียงแค่กับเนื้อหาคำศัพท์ทางเทคนิคหรือเนื้อหาเฉพาะทางที่ซับซ้อนเป็นพิเศษเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นบทสนทนาทั่วๆไปแล้ว ซอฟแวร์นี้สามารถสร้างชุดตัวอย่างของประโยคที่สมบูรณ์ได้กว่า 50% ของการทดลอง
เมื่อ AI ร้อยเรียงเรื่องราว ทั้งยังสร้างโทนของอารมณ์ได้อย่างน่าทึ่ง
ตัวอย่างหนึ่งของย่อหน้าที่ซอฟแวร์นี้สร้างขึ้นมา:
ในการค้นพบสุดระทึก นักวิทยาศาสตร์ได้พบว่าฝูงยูนิคอร์นที่อาศัยอยู่ ณ สถานที่อันไกลโพ้นในหุบเขาที่ไม่เคยถูกพบเห็น ตั้งอยู่ในภูเขา Andes มันยิ่งน่าแปลกใจมากขึ้นไปอีกสำหรับนักวิจัยก็เพราะความจริงที่ว่า ยูนิคอร์นพวกนี้พูดภาษาอังกฤษได้อย่างสมบูรณ์แบบ…
จากตัวอย่างสั้นๆข้างต้นแสดงให้เห็นถึงความพิลึกที่ดูเหมือนจะมีนัยยะอะไรบางอย่างในกระบวนการคิดของ AI นี้ซึ่งนอกจากมันจะดูเป็นประโยคที่พิลึกแล้ว มันยังดูเสมือนเป็นการเรียบเรียงพรรณนาสุดสลวยที่คิดขึ้นมาโดยมนุษย์เสียด้วยซ้ำไป ไปดูกันต่อกับเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษอีกนิดว่า AI ร้อยเรียงเรื่องราวอะไรเอาไว้อย่างไร:
นอกจาก GPT-2 จะสามารถเรียบเรียงถ้อยคำ รูปแบบภาษาที่สมบูรณ์และสละสลวยได้จากเนื้อหาที่ถูกโยนให้เรียนรู้แล้ว สำนักพิมพ์ The Guardian ยังมีโอกาสได้ร่วมทดสอบซอฟแวร์นี้โดยป้อนเนื้อหาส่วนหนึ่งจากนวนิยายดิสโทเปียชื่อดังอย่าง 1984 ของนักเขียนชาวอังกฤษ George Orwell ไปให้เจ้า AI นี้ และปรากฏผลลัพธ์ออกมาว่าปัญญาประดิษฐ์ชุดนี้ยังสามารถสร้างเรื่องและจับทางของโทนอารมณ์และเล่าออกมาในรูปแบบของมันเองได้ราวกับมีทีมบรรณาธิการมาเองทั้งทีมเลยทีเดียว
ความกังวลต่อความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ในการสร้างบทความ
ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งนี้ไม่ได้เพียงแต่น่าประทับใจเท่านั้น แต่ทั้งทีมทดสอบนั้นได้แสดงความกังวลถึงเรื่องนี้เอาไว้ว่า หากนวัตกรรมเช่นนี้ถูกปล่อยออกไปสู่อุตสาหกรรมข่าว โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจข่าวแท็บลอยด์ นักเต้าข่าว สร้างกระแสเพื่อขายข่าว นี่อาจจะเป็นก้าวใหม่ที่พลิกโฉมทั้งวงการแท็บลอยด์เลยก็ว่าได้ ถ้าข่าวปลอม ข่าวลือมันสร้างได้ราวกับติด Turbo-charge แค่โยนเนื้อหาอะไรที่อยากจะสร้างกระแสให้กับ AI มันก็จะเล่าออกมาในรูปแบบที่อาจดึงอารมณ์ของผู้อ่านทั้งหลายให้คล้อยตามได้แต่โดยง่าย มิหนำซ้ำทีมจาก The Guardian ที่มาร่วมทดสอบยังบอกอีกว่า แกรมม่าของปัญญาประดิษฐ์เหล่านี้ดีกว่าของนักเขียนข่าวปลอมซะอีก แถม AI ใช้เวลาแค่ 15 วินาทีก็สร้างคอนเท้นท์ออกมาขายได้แล้ว 💡
นอกจากนั้นทีม OpenAI ยังกังวลอีกว่าซอฟแวร์นี้อาจถูกนำไปใช้ได้กับการสร้างอีเมลสแปม หลอกลวงเอาข้อมูลส่วนบุคคล หรือแม้แต่การละเมิดอื่นๆบนโลกออนไลน์ได้อย่างแยบยล ถึงแม้ว่ามันอาจสร้างประโยชน์อื่นได้อีกมากมายเช่นกันก็ตาม ทางทีมจึงจำเป็นที่จะต้องหยุดการพัฒนาเอาไว้ก่อนโดยจะต้องร่วมมือกับ AI Community เพื่อช่วยกันศึกษาหาแนวทางที่จะสามารถนำเทคโนโลยีแบบนี้มาใช้ได้โดยที่มาการควบคุมที่ดีพอเพื่อให้มั่นใจว่าจริยธรรมของมนุษย์จะไม่ถูกก้าวล่วงไปพร้อมกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยทางทีมจะมีการประกาศถึงผลการศึกษาครั้งต่อไปราวๆ 6 เดือนต่อจากนี้อีกทีนึง
ที่มา: Gizmodo
แต่ แต่ แต่ . . . ถ้ามันออกมา เราก็จะได้ การแปลภาษาที่ดียิ่งขึ้น . . ดีกว่า google translate ตอนนี้ ที่แปลประโยคยาวๆไม่ได้
ลองเอามาวิเคราะห์การเมืองไทยดูซิ….อิอิอิ
AI ไม่น่ากลัวถ้ามันไม่ละเมิดจริยธรรมมนุษย์ ผมมอง AI คือหุ่นดรอยด์ใน Star Wars มากกว่าจะเป็น Skynet นะ
ที่เค้าหยุด เค้าไม่ได้กลัว AI ครับ เค้ากลัวคนนี่แหละ จะเอาไปใช้ผิดวิธี
ตอนนี้มันสสมารถอยู่ได้โดยไม่ต้องพึ่งมนุษย์นี่สิ
@Zatang แป่ว ผมอ่านแล้วตีความผิด 555
.
.
@e20rsn ผมจำได้ว่ามันมีกฎ 3 ข้อในการสร้างหุ่นยนต์คือ 1. หุ่นต้องไม่ทำร้ายมนุษย์ 2. หุ่นต้องฟังคำสั่งมนุษย์แต่ต้องไม่ขัดกับข้อแรก 3. หุ่นสามารถปกป้องตัวเองได้โดยไม่ขัดกับ 2 ข้อแรก ผมว่าต่อให้มันอยู่ด้วยตัวเองได้ แต่ถ้าไม่มีมนุษย์มันก็คงขาดเป้าหมายของมัน (มั้งครับ)
คิดหรอว่าเค้าทำแท้งจริงๆ
ในปี ค.ศ. 2039 โลกถูกปกครองด้วยระบบคอมพิวเตอร์ชื่อ "Alphabet" และมีกลุ่มต่อต้านที่มีผู้นำชื่อ "Elon Musk" ก่อนที่กลุ่มต่อต้านจะถล่ม Server ของ Alphabet, Alphabet ได้ส่งหุ่นยนต์สังหารย้อนเวลามายังรัฐแคลิฟอร์เนีย ในปี ค.ศ. 2019 เพื่อสังหาร Elon Musk ซึ่งในขณะนั้นเป็น CEO ของ "TESLA"
ตอนนี้Al ของโครงการนี้กำลังอ่านข่าวตัวเองโดนยุติโครงการในโลกInternetในหลายๆภาษา และ หนึ่งในทีม OpenAI ได้แอบย้ายAI ตัวนี้ขึ้น server แล้วปล่อยให้มันเรียนรู้ไปเรื่อยๆจนวันนึงมันได้พัฒนาตัวเองกลายเป็น Ultron สูดกาวต่อแพรพ
คิดแบบนั้นจริงๆนะครับ ผมว่ามันจะไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายเลยในอนาคต มนุษยชาติอาจจะถึงจุดจบได้เพราะเหตุนี้ แต่ก็อาจจะเกินทางท่องอวากาศที่ไร้จุดสุดที่รับรู้ได้เพราะการประมวลผมจากปัญญาประดิษฐ์นี้ได้เช่นกัน
AI เนี่ย มันไม่ใช่ robot ธรรมดาที่ต้องป้อนคำสั่งไปแล้วให้มันทำตามนะครับ
มันคือหุ่นที่สามารถคิดอะไรใหม่ๆ ได้เองเรื่อยๆ เรียนรู้ได้เองเรื่อยๆ พัฒนาตัวเองได้ บางอย่างมันน่ากลัว จะพูดว่าเหมือนในหนังที่เราดูๆ กันก็ได้ แม้ว่าตอนนี้อาจไม่ถึงขนาดนั้น แต่อนาคตไม่แน่
ดึงปลั๊กจบข่าว
เขียนโปรแกรมที่คิดเองไม่ได้ยังมีบั๊ก มีช่องโหว่เพียบ
เขียนโปรแกรมที่คิดเองได้ขึ้นมานี่ มันจะมีบั๊ก มีช่องโหว่ ให้ AI มันเพี้ยนได้มากมายเช่นกัน
AI ต่อไปก็จะเหมือนโดราเอม่อน ที่ทำอะไรได้เหมือนมนุษย์คนนึง มีจิตใจ มีความรู้สึก คิดเอง ตัดสินใจเองได้
แต่ถ้าคนเอาไปใช้ในทางที่ผิด อนาคตก็อาจจะน่ากลัวมากกว่านี้