พูดถึง  OPPO  แล้วคงต้องยอมรับกันว่า เป็นค่ายมือถือที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงปีหลังๆ ที่ผ่านมา OPPO ได้นำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในมือถือของค่าย ไม่ว่าจะเป็นกล้องหมุนได้ของ Series N, กลไกกล้องซ่อนแอบของ Find X จนถึงเทคโนโลยีชาร์จเร็วอย่าง Super VOOC Flash Charge  รวมถึง  Breeno ผู้ช่วยอัจฉริยะที่รองรับคำสั่งด้วยเสียง  และเร็วๆ นี้ก็มีข่าวว่าอาจจะเปิดตัว กล้องซูม 10 เท่าแบบ Hybrid โดยไม่เสียรายละเอียดอีกด้วย

ซึ่งทาง OPPO  เตรียมจัดงาน 2019 Future Technology Communication Conference ในวันที่ 16 มกราคม ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน โดยเผยภาพโปสเตอร์ในธีม “Ten for the See” ซึ่งเมื่อโยงเข้ากับก่อนหน้านี้ที่มีการเผยสิทธิบัตร กล้องซูม 10 เท่าแบบ Hybrid (10x Hybrid Optical Zoomออกมา ก็คงจะเดาได้ว่า OPPO อาจจะจะเปิดตัว ระบบซูม 10 เท่า ในงานนี้ด้วยก็เป็นได้  โดยคาดกันว่ากล้องตัวนี้อาจจะนำมาใช้กับมือถือรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในอนาคต

Play video

ซึ่งในช่วงเวลานี้เมื่อปี 2008 OPPO ได้เปิดตัวมือถือรุ่นแรกสู่ตลาด และก็เพิ่งจะครบรอบ 10 ปีไปไม่นาน โดยปัจจุบัน OPPO ได้ก้าวขึ้นมารั้งอันดับสองของแบรนด์มือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนรองจาก Huawei  แล้ว

เรามาดูกันว่า 10 ปีที่ผ่านมา OPPO  มีมือถือรุ่นไหนที่โดดเด่นบ้าง

  • 2008 OPPO A103 มือถือรุ่นแรกของค่ายในดีไซน์หน้ายิ้มที่ฝาด้านหลัง
  • 2009 OPPO P51 มาพร้อมกล้องหลังที่รองรับฟีเจอร์การถ่ายรูปในสไตล์ LOMO
  • 2009 OPPO T9 ออกมาตอบโจทย์คนที่ชอบฟังเพลง
  • 2010 OPPO U529 มือถือฝาพับที่มาพร้อมจอแบบทัชสกรีนและแป้นพิมพ์
  • 2011 OPPO X903 มาพร้อมจอสไลด์ที่ใส่แป้นพิมพ์ QWERTY ที่จัดว่าไฮเทคมากในขณะนั้น

  • 2012 OPPO Finder มือถือเครื่องแรกที่บางที่สุดในโลกด้วยขนาดเพียง 6.65 มม เท่านั้น  และในปีเดียวกันก็เปิดตัว OPPO Ulike 2 มือถือกล้องหน้ารุ่นแรกที่มาพร้อมกับความละเอียด 5MP และมีโหมดบิวตี้  และตามด้วย OPPO Find 5 ซึ่งเป็นรุ่นแรกของ OPPO ที่นำจอ HD ความละเอียด 1080P มาใช้

  • 2013 OPPO N1 ที่มาพร้อมกล้องหมุนได้ Rotating Camera 260 องศาและรองรับคำสั่งในการใช้ท่าทางในการสั่งถ่ายรูป

  • 2014 OPPO Find 7 ครั้งแรกของมือถือระดับเรือธงที่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC   ตามมาด้วย  OPPO N3 ที่มาพร้อมกล้องแบบหมุนอัตโนมัติ ความละเอียด 16MP ซึ่งได้รับการรับรองจาก Schneider เป็นครั้งแรก เน้นการโฟกัสรวดเร็วพร้อมถ่ายภาพได้ทันทีพร้อมรีโมท

  • 2015 OPPO R7 เรียกเสียงฮือฮาด้วย VOOC flash charge ที่ใช้เวลาชาร์จเพียง 2 นาทีใช้คุยได้ 2 ชั่วโมง และในปีเดียวกันก็เปิดตัว OPPO R7s ตามมาโดยรุ่นนี้มาพร้อมกับแบตเตอรี่สุดอึดขนาด 3070mAh พร้อมรองรับ flash charge อีกด้วย

  • 2016 OPPO R9 ตอบโจทย์ให้กับคนที่รักการเซลฟี่ด้วยเทคโนโลยี beauty camera ที่ให้ความเนียนสวยแบบธรรมชาติ ไม่หลอกตา ตามมาด้วย OPPO R9s ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์อัจฉริยะ IMX398 จากโซนี่ที่ช่วยให้จับโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและได้ภาพสวยงามคมชัด ตามสโลแแกนกล้องหน้าเป๊ะ กล้องหลังปัง

  • 2017 OPPO R 11 มือถือตัวท็อปที่มาพร้อมกล้องหน้าคู่รุ่นแรกของข่าย มีความละเอียดที่ 20 MP และในปีเดียวกันก็ได้เปิดตัว OPPO R11S มือถือแบบ Full Screen พร้อมกล้องคู่หลังรุ่นแรกของค่าย

  • 2018 OPPO R15 series ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์แบบไล่เฉดสี และในปีเดียวกันก็เปิดตัวเรือธงอย่าง  OPPO  Find X มือถือกล้องสไลด์จอไร้ขอบที่เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปของ OPPO เลยก็ว่าได้

จากผลงานใน 10 ปีที่ผ่านมาของ OPPO  ก็คงจะเห็นแล้วว่าทางค่ายไม่ได้มีการพัฒนาแต่ในเรื่องมือถือเท่านั้น แต่ยังพัฒนาเทคโนโลยีอื่นๆ ควบคู่กันไป เชื่อว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ OPPO  อาจจะก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่แบบที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนก็เป็นได้ ไว้มาติดตามกันว่าในงาน Ten for See จะมีอะไรมาให้เราได้ว้าวกัน

 

ที่มา sparrowsnews