OPPO F7 มือถือสายเซลฟี่ที่มาพร้อมกับกล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล เสริมความสามารถด้วยพลัง AI ตอนนี้เปิดให้จองพร้อมจะวางขายอีกไม่กี่วันนี้แล้ว แต่หลายๆ คนอาจจะยังมีคำถามเกี่ยวกับกล้อง AI Beauty 2.0 ว่ามันดีขึ้นจากเดิมมากน้อยแค่ไหน และทำไมต้องใส่เซนเซอร์ HDR เข้ามา มันช่วยในเรื่องไหนได้บ้าง งานนี้ไม่ต้องนั่งนึก เพราะเราทดสอบมาแล้ว เดี๋ยวจะอธิบายให้ฟัง

OPPO ได้พัฒนา AI Beauty มาต่อเนื่องจากเมื่อตอน F5 และได้เป็นเวอร์ชั่น 2.0 ใน F7 ซึ่งด้วยระบบการตรวจจับใบหน้าที่ดีขึ้น สามารถจำแนกบริเวณต่างๆ ของใบหน้า ออกเป็น 296 ส่วน เพื่อให้การปรับแต่งภาพเซลฟี่นั้นดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น นอกจากนั้นยังตรวจสอบได้ว่าเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพื่อปรับสมดุลย์ในการแต่งหน้าให้มากน้อยต่างกัน

นอกจากนั้นยังมีการใส่เซนเซอร์ HDR เข้ามาเพื่อช่วยในการแสดงผลแบบ realtime และช่วยปรับสมดุลย์ให้กับภาพที่มีสภาพแสงต่างกันเกินไป ให้มีรายละเอียดที่ดีขึ้น

ถ้าลองสังเกตุ 2 ภาพด้านบน ทีใช้ OPPO F7 ถ่าย คือมองผ่านๆ ก็รู้แล้วว่าต่าง เพราะโหมดบิวตี้แบบเดิมๆ มันไม่ค่อยสนใจอะไรมากมาย เห็นเป็นหน้าคนก็ไถกลบหมดเลย เกลี่ยเนียนๆ ไปก็พองานชั้นเสร็จแล้ว บริเวณหนวดเหนือปากนี่เขียวเชียว

แต่พอเปิดใช้งาน AI Beauty 2.0 ก็จะมีการสแกนและแบ่งโซนในการปรับแแต่งที่ชัดขึ้น จะเห็นว่ามิติของใบหน้า แสงเงา เด่นขึ้นด้วยเซนเซอร์ 25 ล้านพิกเซล + HDR การจำแนกเพศก็เข้ามาทำงานด้วยการไม่ไถหนวดทิ้ง ปากไม่แดงจนเหมือนทาลิปสติก รายละเอียดบนใบหน้ามาครบกว่า ความคมชัดก็มากกว่า

ส่วน vivid mode หรือโหมดสีจัดนั้นมาช่วยให้การถ่ายภาพเซลฟี่นั้นสวยขึ้น เรียกว่าเป็นการเปิดฟิลเตอร์เติมสีและมิติให้กับภาพ โดยที่หน้าไม่โดนเอฟเฟคไปด้วยนั่นเอง เพราะหลายๆ ครั้งที่เราถ่ายภาพเซลฟี่ในร่ม หรือย้อนแสง พอกล้องหน้ามันเห็นว่าหน้ามืดมันก็จะดันความสว่างของทั้งภาพขึ้นมา ทำให้ฉากหลังเบลอหรือหายไปหมด มองอะไรไม่เห็นนอกจากหน้าเรา และทุกสิ่งอย่างรอบตัวก็จะสีจืดไปหมด

จุดนี้แหละที่เซนเซอร์ HDR เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพ ทำให้ฉากหลังไม่ถูกกลืนหายไป และการเปิด vivid mode เร่งสีขึ้นมาก็ทำให้ภาพดูสวยขึ้น ลองสังเกตุจากภาพด้านบนได้ว่าหน้าของผมนั้นไม่โดนฟิลเตอร์ (เพราะถ้าโดนนี่คงแดงไปทั้งหน้า) แต่สีเสืิ้อผมชัดขึ้น ฉากหลังก็สีสดขึ้นด้วย เรียกว่าจะเซลฟี่แบบไหนภาพก็ไม่ดูจืดแล้ว

หวังว่าน่าจะได้รู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้องหน้าของ F7 กันแล้วว่ามันพัฒนาจากรุ่นเดิมมากน้อยแค่ไหน และมีฟีเจอร์อะไรใหม่บ้าง ส่วนเรื่องของตัวเครื่อง หน้าจอ Full Screen แบบชิดขอบ และ Color OS 5.0 นั้นมีเขียนคร่าวๆ ไปแล้วเมื่อตอน พรีวิว OPPO F7 ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มก็ไปอ่านกันได้

ส่วนนึงที่ชอบคือแอปและเกมต่างๆ นั้นถูกเปิดเป็น Full Screen เอาไว้หมด ได้ใช้หน้าจอแบบเต็มๆ ไม่ว่าจะ RoV PUBG หรือจะดูซีรี่ส์ผ่าน Netflix, iflix, HBO Go ใครที่รอรีวิวฉบับเต็มน่าจะตามมาเร็วๆ นี้

 

รายละเอียดการจอง OPPO F7

เปิดให้จองตั้งแต่ 11 – 24 เมษายน ราคา 10,990 บาท มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ แดง Solar Red , เงิน Moonlight Silver ซึ่งสามารถจองได้ที่งออปโป้แบรนด์ช็อปและช็อปอื่นๆ ทั่วประเทศ ส่วนสีดำ Diamond Black นั้นเปิดให้จองที่ออปโป้แบรนด์ช็อปเท่านั้น)

ผู้ที่จองจะได้รับ Special Gift คือกระเป๋ากันน้ำ / ประกันหน้าจอแตก 1 ปี และพิเศษ ประกันตัวเครื่องเพิ่มเป็น 2 ปี