ในที่สุด OPPO ก็เปิดราคา OPPO F7 ออกมาแล้วที่ 10,990 บาท งานนี้มาพร้อมกับประกาศโปรจองและของแถมมากมาย ทั้งประกันจอแตก 1 ปี และประกันตัวเครื่อง 2 ปี โดยสามารถไปจองกันได้แล้วตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน ซึ่งจากที่ได้ลองเล่นมาต้องขอบอกว่างานนี้ OPPO F7 มีความน่าสนใจมากกว่าการเป็นมือถือเซลฟี่ เพราะมีสเปคและฟีเจอร์เด็ดๆ ที่เราจะมาพรีวิวให้ชมกันในวันนี้

งานนี้ทาง droidsans มีโอกาสได้เล่นตัวเครื่องพร้อมกับแพ็คเกจที่เตรียมจะวางจำหน่ายในประเทศไทยกันแบบครบๆ เพราะฉะนั้นก็ขอเร่ิ่มที่การแกะกล่อง unbox กันก่อนว่าในชุดขายจริงของ OPPO F7 นั้นจะมีอะไรให้บ้าง

ในกล่องยังมาพร้อมกับอุปกรณ์มาตรฐานครบชุด มีตัวเครื่อง, เคสใสซิลิโคน, สาย micro USB, หม้อแปลง, หูฟัง Smalltalk

เราได้เครื่องสีแดง Solar Red มาทดสอบ เห็นว่าล็อตแรกที่จะขายนั้นมีสีเงิน Mystic Silver ด้วย ส่วนสีดำ Diamond Black นั้นไม่แน่ใจว่าอาจจะสงวนเอาไว้ขายกับรุ่น F7 128GB หรือเปล่า

ตัวเครื่อง F7 ถูกปรับดีไซน์จากตอน F5 ที่เห็นได้ชัดคือการออกแบบที่เปลี่ยนมาใช้ฝาหลัง Glossy ในทั้ง 3 สี โดยสีเงินนั้นบางมุมที่สะท้อนแสงจะออกมาเหมือนเทาๆ ฟ้าๆ ส่วนสีแดงนั้นสดและจัดมาก เรียกว่าเป็นเฉดสีที่ไม่ค่อยเห็นในสมาร์ทโฟนสักเท่าไหร่

พอร์ทเชื่อมต่อทั้งหมดนั้นอยู่ที่ด้านล่างของตัวเครื่อง จากขวาไปซ้ายคือช่องหูฟัง 3.5 มม. ไมโครโฟน ช่อง micro USB และลำโพงของตัวเครื่อง

ทางด้านขวาเป็นปุ่มพาวเวอร์และถาดซิม ซึ่งจิ้มออกมาดูแล้วเป็นแบบ triple slot ใช้งาน 2 ซิมได้พร้อมกับ micro SD ไม่ต้องรักพี่เสียดายน้อง

ด้านบนมีรูไมโครโฟนตัวที่สองที่ใช้สำหรับตัดเสียงรบกวนเวลาใช้สายสำหรับสนทนา

หน้าจอขนาด 6.23 นิ้วกับความละเอียด Full HD+ นั้นถือว่าพอเพียงและคมชัดพอสำหรับการใช้งาน อัตราส่วน 19:9 ที่ 2280×1080 นั้นสามารถแสดงแอปได้เต็มหน้าจอ

จากที่ทดสอบเบื้องต้นแอปอย่าง YouTube, หรือเกมต่างๆ ก็สามารถเล่นได้แบบไม่มีปัญหา ได้พื้นที่เต็ม 18:9

ส่วนขอบจอบริเวณ notch นั้นจะถูกแทนที่ด้วย short cut ต่างๆ แทน ซึ่งถือว่าเป็นการดีไซน์ UI ที่น่าสนใจ และเลือกใช้ประโยชน์จากพื้นที่เล็กๆ ได้

พูดถึง UI แล้ว ก็ขอเข้ามาดูส่วนของ Color OS 5.0  ที่ตอนนี้ทำงานอยู่บน Android 8.0 อย่างนึงที่ชอบคือทาง OPPO ย้าย quick seting มาไว้ที่ด้านบนเหมือนเดิมแล้ว หลังจากเวอร์ช่ั่นก่อนหน้าย้ายไปไว้ด้านล่างจนเหมือน iPhone เกินไป และเชื่อว่าหลายๆ คนที่ใช้ OPPO หรือ Android ไม่คุ้นกัน การย้ายกลับมาด้านบนถือเป็นเรื่องดี ชอบ ชอบ

กล้องหน้าของ OPPO F7 นั้นมีึความละเอียด 25 ล้านพิกเซล นอกจากเป็นกล้องเซลฟี่ที่มีความละเอียดสูงสุดแล้วยังมาพร้อมกับเซนเซอร์ HDR ที่มาช่วยในการปรับสภาพของสีและแสงให้คมชัดขึ้น ซึ่งมีประสิทธิภาพกว่า HDR แบบซอฟท์แวร์

จุดนึงที่เป็นคำถามและหลายคงยังสงสัยคือพลังของชิป Helio P60 ชิปตัวล่าสุดจาก MediaTek ซึ่งเราเคยได้เขียนข่าวถึงชิปรุ่นนี้ไปบ้างแล้วว่าดูมีความน่าสนใจทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพ และการรองรับสัญญาณ

ในด้านประสิทธิภาพนั้น จากที่ทดสอบแบบเร็วๆ คือเล่นเกมได้ลื่น โหลดหลายๆ เกมได้เร็ว ยอมรับว่าพลังการคำนวนเพิ่มขึ้นจริงและกราฟิคในเกมก็สามารถแสดงได้ครบ ลองเล่น RoV เฟรมเรทนิ่งมาก นิ่งกว่ามือถือระดับกลางหลายๆ รุ่น แต่ที่ยังสงสัยคือทำไมเปิดโหมดเฟรมเรทสูงไม่ได้ เดาว่าเกมอาจจะยังไม่รู้จักชิปเซตหรือเปล่า

ส่วนเรื่องการรองรับสัญญาณรอบนี้ก็ไม่มีกั๊ก สเปคชิปเซ็ตมายังไง ก็จัดมาให้แบบนั้นเลย รองรับทั้ง Dual 4G และ Dual VoLTE

สำหรับการแกะกล่อง พรีวิว และทดสอบฟีเจอร์บางอย่างให้หายคาใจก็คงจะเอาไว้เท่านี้ก่อน เดี๋ยวขอไปลองเล่นแบบเต็มๆ แล้วจะมาสรุปทุกฟีเจอร์และประสบการณ์ใช้งานให้ได้อ่านกันอีกทีครับ

สเปค OPPO F7

  • หน้าจอ LCD ขนาด 6.23 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2280 x 1080) อัตราส่วน 19:9
  • CPU : MediaTek P60 octa-core 2.0 GHz
  • GPU : Mali-G72 MP3
  • RAM : 4GB
  • ความจุ : 64GB  MicroSD Card
  • กล้องหลัง : 16MP, f/1.8 พร้อม A.I. Scene
  • กล้องหน้า : 25MP + เซนเซอร์ HDR f/2.0  และ A.I. Beauty 2.0
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, WiFi Direct, Bluetooth 4.2
  • เซ็นเซอร์ : Fingerprint (ด้านหลัง), accelerometer, proximity, magnemeter, gyro
  • แบตเตอรี่ : 3400 mAh
  • ซิมการ์ด : รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อมระบบ Dual 4G + Dual VoLTE
  • ระบบ Android 8.0 ครอบด้วย ColorOS 5.0
  • สีที่วางจำหน่าย : สีแดง Solar Red, สีเงิน Moonlight Silver, สีดำ Diamond Black
  • ราคาเปิดตัว 10,990 บาท
  • เปิดจองวันที่ 11 เมษายน รับของ 25 เมษายน

Play video

 

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO F7 – กล้องหน้า

 

กล้องหลัง