OPPO ได้เปิดเผยรายงาน 2021 OPPO Sustainability Report ภายในงาน Mobile World Congress (MWC) 2022 ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนจะเริ่มต้นขึ้น โดยภายในรายงานดังกล่าวจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับความสำเร็จของบริษัทฯ ในการเสริมสร้างแนวคิดด้านการยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมภายใต้แนวคิด “Technology for Mankind, Kindness for the World” หรือแปลให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ การผลิตเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ในขณะเดียวกันอยู่ในกรอบที่เป็นมิตรกับโลกและสิ่งแวดล้อม 

โดย OPPO ใช้หลักการ Reduce (ลด), Reuse (ใช้ซ้ำ), Recycle (นำกลับมาใช้ใหม่) และ Degradable (ย่อยสลายได้) หรือแนวคิด 3R+1D ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งแนวคิดนี้ จะเข้ามาลดน้ำหนักของแพ็กเกจกล่องสมาร์ทโฟน (และผลิตภัณฑ์อื่นๆ) นำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ผลิตกล่องสินค้า อีกทั้งวัสดุดังกล่าวจะต้องสามารถนำไปใช้งานต่อ หรือรีไซเคิลได้อีก และวัสดุชิ้นนั้นจะต้องสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ

OPPO ได้เริ่มนำหลักการ 3R+1D ข้างต้น มาใช้ในตลาดภูมิภาคยุโรปในปี 2021 ที่ผ่านมา โดยพวกเขาสามารถลดอัตราการใช้พลาสติกในการผลิตกล่องสมาร์ทโฟนไปได้มากถึง 95% นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา ขณะที่ในส่วนของพลาสติกที่จำเป็นต่อการใช้ผลิตกล่องบรรจุสมาร์ทโฟนที่ไม่สามารถหาวัสดุรีไซเคิลมาทดแทนนั้น ทางบริษัทฯ ได้ใช้ Polylactic Acid หรือพลาสติกที่ได้มาจากธรรมชาติ ที่สามารถย่อยสลายได้ด้วยตัวของมันเอง มาใช้งานแทน

อีกทั้ง OPPO ยังได้เปิดเผยอีกว่า กล่องบรรจุสมาร์ทโฟนของพวกเขา ส่วนมากทำมาจากวัสดุรีไซเคิล คิดเป็นกว่า 45% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากๆ เลยทีเดียว จำนวนเกือบครึ่งของกล่องมือถือที่เราเห็นๆ กันของ OPPO เกือบครึ่งนึงทำมาจากวัสดุที่ผ่านการรีไซเคิล จากของไม่มีประโยชน์ มาใช้งานต่อได้อีกหนึ่งครั้ง

นอกจากกล่องบรรจุสมาร์ทโฟนจะทำมาจากวัสดุสีเขียวแล้ว OPPO ยังคำนึงถึงความแข็งแรงทนทานของผลิตภัณฑ์ด้านในของกล่อง (สมาร์ทโฟนที่เราใช้ๆ กันอยู่นี่แหละ) โดยภายในงาน MWC 2022 ที่ผ่านมา OPPO ได้เปิดตัว Battery Health Engine ที่พวกเขาพัฒนาขึ้นมาเอง ที่จะเข้ามาช่วยยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ซึ่งในส่วนนี้ ทางบริษัทฯ เคลมว่า แบตเตอรี่จะเสียประจุไปแค่ 20% เท่านั้น เมื่อผ่านการชาร์จไป 1600 รอบ (Cycle)

OPPO โชว์เทคโนโลยี 240W SuperVOOC Flash Charge ชาร์จแบตเต็มใน 9 นาที พร้อมแบตเตอรี่แบบใหม่ ชาร์จไว เสื่อมช้า

โดยนอกจาก Battery Health Engine แล้ว OPPO ยังได้นำ Omni 5G CPE T2 ที่เป็น 5G Hub รุ่นใหม่ของบริษัทฯ มาเปิดตัว โดยอุปกรณ์ดังกล่าวได้มีการออกแบบใหม่ทั้งหมด ใช้วัสดุแบบรีไซเคิ่ล เพิ่มประสิทธิภาพการื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้นกว่าเดิม รวมถึงภายในงานดังกล่าว ผลิตภัณฑ์มือถือจอพับได้รุ่นแรกของบริษัทฯ อย่าง Find N ก็ไปคว้ารางวัล Disruptive Device Innovation Award จาก 2022 Global Mobile (GLOMO) Awards อีกด้วย หลังจาก OPPO ใช้เวลากว่า 4 ปี ทุ่มเทแรงกายและแรงใจในการวิจัย พัฒนา และทดลองซ้ำกว่า 6 ครั้ง กว่าจะได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ปัญหาการใช้งานน้อยที่สุด

ที่ผ่านมา OPPO ได้มีการจัดตั้งระบบรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ โดยเปิดบริการ Trade-in หรือนำสมาร์ทโฟนเครื่องเก่ามาใช้เป็นส่วนลดแลกซื้อเครื่องใหม่ในจีนและตลาดต่างประเทศ จนถึงปัจจุบัน ได้มีการนำมือถือมาเข้าร่วมโครงการ Trade-in และผ่านการรีไซเคิลมาแล้วกว่า 1.2 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็นกว่า 216 กรัม ที่หากไม่ได้เข้าร่วมโปรแกรมดังกล่าวนี้ ก็จะกลายเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่มปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดสภาวะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) หรือภาวะโลกร้อนที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี

หากไม่นับเรื่องสมาร์ทโฟนและเทคโนโลยีต่างๆ OPPO ก็ได้ไปจับมือเป็นพันธมิตรกับ National Geographic ในแคมเปญ OPPO Endangered Color Campaign เพื่อสนับสนุนการป้องกันสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ และพวกเขาก็เป็นกลุ่มแรกๆ ที่เข้าร่วมโครงการ Eco Rating Labeling Scheme ที่เข้ามาประเมินประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมของมือถือใน 5 ด้านหลัก ได้แก่ ความทนทาน ความง่ายในการซ่อมแซม ความสามารถในการรีไซเคิล และประสิทธิภาพด้านความเป็นมิตรต่อสภาพอากาศ

ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ ifixit

ยิ่งไปกว่านั้น นอกเหนือจากความพยายามในการปกป้องและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแล้ว OPPO ยังได้มีการดำเนินการมาอย่างนาวนานเพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยเน้นไปที่ประเด็นความเท่าเทียมทางดิจิตอล สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และพลังเยาวชน ยกตัวอย่าง OPPO ได้พัฒนาฟีเจอร์ Color Vision Enhancement ที่มีโปรไฟล์การแสดงผลสีถึง 766 แบบ มอบทางออกให้แก่ผู้มีความบกพร่องทางการมองเห็นสี ให้สามารถมีโอกาสมองเห็นสีต่างๆ ได้มากกว่าเดิม