ถ้าใครติดตามข่าวสารแอนดรอยด์มาตลอด ก็จะพบว่าในช่วงหลัง ๆ มานี้ ระบบแอนดรอยด์ในแต่ละเวอร์ชันจะให้ความสำคัญกับ User Privacy หรือความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้เป็นอย่างมาก โดยจะดูได้จากฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ ๆ
และล่าสุดนี้ ระบบแอนดรอยด์เปิดทางเลือกให้ผู้ใช้สามารถปิด Personalized Ads บนแอปที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องของคุณได้แล้วนะ
Personalized Ads คืออะไรกันนะ?
แอปในปัจจุบันนั้นมีมากมาย แต่ละแอปก็จะมีจุดประสงค์ในการใช้งานแตกต่างกันออกไป แน่นอนว่าก็จะมีแอปบางส่วนที่มีการแสดงโฆษณา โดยที่โฆษณาที่นำมาแสดงก็อาจจะมาได้ทั้งจากระบบภายในแอปเอง หรือว่ามาจากระบบภายนอก ยกตัวอย่างเช่น เกมที่มีโฆษณาพ่วงมาด้วยจะดึงโฆษณามาจาก Advertising Service Provider หรือ Ads Network (ผู้ให้บริการโฆษณา) เป็นต้น
และโฆษณาจำพวก Personalized Ads หรือ Interest-based Ads ก็เป็นโฆษณารูปแบบหนึ่งที่ใช้แสดงโฆษณาที่มีเนื้อหาเหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน โดยขึ้นอยู่กับพฤติกรรมในการใช้งานแอปในเครื่อง
ซึ่งแอปส่วนใหญ่จะทำ Personalized Content กันเป็นปกติอยู่แล้ว เช่น แอป Medium ที่จะแนะนำบทความที่มีความเกี่ยวข้องบทความที่ผู้ใช้คนนั้นเคยอ่าน แต่สำหรับ Personalized Ads แตกต่างตรงที่ใช้เครื่องมือหรือบริการจากภายนอกอย่าง Advertising / Analytics Service Provider เพื่อดึงดูดผู้ใช้ให้กลับเข้ามาใช้งานแอปอีกครั้ง เช่น ผมกดดูสินค้าที่สนใจใน Shopee แล้วไปเห็นโฆษณาของสินค้าชิ้นนั้น ๆ โผล่บน Facebook เพื่อเชิญชวนให้เรากลับไปซื้อของชิ้นนั้นในแอป Shopee
ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะเป็นเรื่องที่พบเจอได้ปกติในปัจจุบัน แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นวิธีที่สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้ทั่วโลกไม่น้อยเช่นกัน (รู้เยอะเกินไป!)
โฆษณาเหล่านี้มาจากการที่แอปต้นทางพยายามดึงดูดให้ลูกค้ากลับไปใช้บริการหรือซื้อสินค้าของตัวเอง (Retargeting) จึงใช้บริการจาก Advertising Service Provider หรือ Ads Network เพื่อส่งข้อมูลให้ระบบเหล่านี้สามารถเลือกโฆษณาขึ้นมาแสดงในที่ต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้กลับมาใช้งานแอปอีกครั้ง
การปิด Personalized Ads บนแอนดรอยด์
ในตอนนี้ผู้ใช้สามารถเข้าไปปิด Personalized Ads ในเครื่องของตัวเองได้แล้ว (แบบที่ iOS ทำได้นั่นเอง) และที่สำคัญไม่ว่าคุณจะใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์เวอร์ชันอะไร ก็สามารถเข้าไปปิดได้เหมือนกัน ขอแค่เพียงใช้ GMS หรือ HMS ก็พอ (เดี๋ยวอธิบายทีหลังว่าทำไมต้องเป็นเครื่องที่มี GMS หรือ HMS)
สำหรับเครื่องที่ใช้ GMS
- Settings > Google > Ads > Delete advertising ID หรือ Opt-out of Ads Personalisation
สำหรับเครื่องที่ใช้ HMS
- Settings > Privacy > Ads and privacy > Disable personalized ads
- Settings > HMS Core > Ads > Disable personalized ads
- Settings > Privacy > HMS Core > Ads > Disable personalized ads
- Settings > Security & privacy > More settings > Device identifier > Disable personalized ads
สำหรับเมนูในเครื่องที่ใช้ HMS จะขึ้นอยู่กับรุ่นและเวอร์ชันของเครื่อง
ทำไมถึงเป็นต้องเครื่องที่มี GMS หรือ HMS?
ในการทำ Personalized Ads นั้นจะต้องรู้ว่าผู้ใช้สนใจเรื่องอะไรอยู่ และใช้งานอุปกรณ์แอนดรอยด์เครื่องไหน เมื่อระบบแสดงโฆษณาสามารถรู้ได้ว่า ผู้ใช้สนใจอะไรในแอปที่อยู่ในเครื่องนั้นบ้าง ก็สามารถส่งโฆษณาที่เกี่ยวข้องไปในแอปตัวอื่น ๆ ที่อยู่ในเครื่องเดียวกันได้ หรือถ้าใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์หลายเครื่อง แล้วมีบางแอปที่ใช้งานร่วมกัน ก็สามารถตีความได้ว่าผู้ใช้คนนั้นใช้อุปกรณ์แอนดรอยด์หลายเครื่อง ก็จะส่งโฆษณารูปแบบเดียวกันไปที่ทุกเครื่องได้เช่นกัน
ซึ่งแน่นอนว่าหัวข้อหรือเรื่องใด ๆ ที่ผู้ใช้กำลังสนใจอยู่ เจ้าของแอปสามารถวิเคราะห์จากพฤติกรรมการใช้งานได้โดยตรง ดังนั้นส่วนที่เหลือก็คือ Advertising Service Provider จะรู้ได้ยังไงว่าแอปอื่นเชื่อมต่อกับระบบของตัวเองเพื่อดึงโฆษณาไปแสดงนั้นเป็นแอปที่อยู่บนเครื่องเดียวกันกับแอปต้นทาง
และที่สำคัญ ให้ตัดวิธีการเช็คค่าจาก IMEI, Serial Number หรือแม้กระทั่ง MAC Address ของ Wi-Fi หรือ Bluetooth ไปได้เลย เพราะระบบแอนดรอยด์ไม่อนุญาตให้แอปทั่วไปเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้บนแอนดรอยด์เวอร์ชันใหม่ ๆ แล้ว (ข้อมูลเหล่านี้จะเรียกกันว่า Non-resettable Identifier) ดังนั้นถ้าผู้ใช้ลบแอปทิ้งหรือ Factory Reset ก็จะไม่รู้เลยว่าเครื่องนั้นเป็นเครื่องเดิม
สำหรับแอปที่ติดมากับ ROM หรือ Firmware ตั้งแต่แรกถือเป็นข้อยกเว้น (ถ้าจะพูดให้ถูกคือแอปที่ติดตั้งไว้ใน /system/app)
แต่เพื่อให้โลกของ Advertising และ Marketing ยังคงดำเนินต่อไปได้ บนแอนดรอยด์จึงมีสิ่งที่เรียกว่า Ads ID (Advertising ID) เพื่อให้แอปเอาไปใช้งานแทนข้อมูลจำพวก Non-resettable Identifier โดย Ads ID ที่ว่านี้จะถูกสร้างขึ้นมาโดย GMS หรือ HMS แทน ระบบแอนดรอยด์ไม่ได้เป็นคนสร้างให้
จึงเป็นที่มาว่าทำไมการปิด Personalized Ads บนแอนดรอยด์จะทำได้เฉพาะเครื่องที่มี GMS หรือ HMS เท่านั้น และเป็นที่มาว่าทำไมแอนดรอยด์เวอร์ชันเก่า ๆ ก็สามารถปิดได้เช่นกัน เพราะ GMS กับ HMS สามารถอัปเดตตัวเองได้ทันที โดยไม่ต้องรอ OTA เหมือนการอัปเดตระบบแอนดรอยด์ทั่ว ๆ ไป
สำหรับ Ads ID ที่ GMS หรือ HMS สร้างขึ้นมานั้นจะถูกสุ่มและแต่ละเครื่องจะได้ไม่ซ้ำกัน (ถึงแม้ว่าจะมีคนใช้งานทั่วโลกก็ตาม) ซึ่งเป็นค่า UUID ที่เอาไว้ใช้อ้างอิงเพื่อทำ Ads Personalization นั่นเอง เช่น 0df0155a-692b-4da5-9ee3-9ade3619c03d เป็นต้น
เมื่อผู้ใช้กดรีเซ็ตก็จะสุ่มค่า UUID ขึ้นมาใหม่ (ยังคงไม่ซ้ำกับคนอื่น) และถ้ากดปิด Personalized Ads ก็จะมีค่าเป็น 00000000-0000-0000-0000-000000000000 โดยอัตโนมัติ ทำให้แอปในเครื่องจะไม่สามารถแยกแยะแต่ละเครื่องได้ เพราะทุกเครื่องที่ปิด Personalized Ads มีค่า UUID เหมือนกันนั่นเอง
ปิดแล้วทำไมได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง?
การปิด Personalized Ads นั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่เห็นโฆษณาอีกต่อไป ก็ยังคงต้องเห็นโฆษณากันต่อไป (เพราะส่วนหนึ่งของโลกก็ขับเคลื่อนด้วยช่องทางแบบนี้อยู่) และผู้ใช้บางคนอาจจะรู้สึกว่ากดปิด Personalized Ads ไป ก็ยังเห็นโฆษณาที่เจาะจงกับตัวเองอยู่ดี ไม่เห็นจะช่วยอะไรเลย
เพราะการใช้ Advertising ID ที่อุปกรณ์แอนดรอยด์มีให้ใช้งานก็เป็นแค่วิธีหนึ่งในการทำ Ads Personalization เท่านั้น ยังมีวิธีอีกมากมายที่เหล่า Advertising Service Provider ใช้เพื่อให้โฆษณาที่เหมาะสมส่งตรงไปถึงผู้ใช้ที่ตรงเป้าหมายที่สุดเท่าที่ทำได้อยู่ดี
แต่อย่างน้อยก็เป็นเรื่องที่ดีระบบแอนดรอยด์เพิ่มทางเลือกเพื่อช่วยลดความน่ารำคาญการจากเห็นโฆษณาที่มาจากการใช้งานแอปของเรา และในอนาคตก็จะมีโปรเจคใหญ่อย่าง Android Privacy Sandbox เพื่อช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้ให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยนะ
Android Privacy Sandbox โปรเจคที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้มากขึ้น
Comment