Home

Google I/O เป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในรอบปีของ Google ที่ผู้คนในแวดวงต่างให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก ตั๋วเข้างานนั้นหายากยิ่งกว่าทอง และหลายๆคนต้องใช้กำลังภายในกันพอสมควรกว่าจะได้มันมา แต่นั่นก็ไม่สามารถหยุด ผู้ประท้วงสองคน ที่สามารถหาตั๋วเข้ามาในงานได้ และรอจังหวะเหมาะสมระหว่าง Keynote มาราธอน 2 ชั่วโมงครึ่ง ทำการเดินไปหน้่าเวทีพลางชูป้ายและตะโกนข้อเรียกร้องตัวเองต่อหน้าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Google ก่อนที่จะถูก รปภ.ลากตัวออกไปจากงาน สองคนนี้ประท้วงกันคนละเวลาและคนละข้อเรียกร้อง แต่ทั้งสองคนมาจากกลุ่มเรียกร้องสิทธิ์ให้กับผู้เช่าบ้านที่ถูกไล่ที่ใน San Francisco ชื่อกลุ่มว่า "Eviction Free San Francisco" และ "Anti Eviction Mapping Project"

ยังมีฟีเจอร์นึงที่ Google ไม่ได้กล่าวถึงใน Keynote ของงาน Google I/O นั้นก็คือ Google Now รอรับฟังคำสั่งเราผ่านคีย์เวิร์ดคำว่า "OK Google" ได้ในทุกหน้าจอซึ่งรวมไปถึงในขณะที่หน้าจออยู่ในโหมดล็อคสกรีนด้วย โดยฟีเจอร์นี้ถ้านับกันจริงๆ ถือว่ามีมาตั้งนานแล้วใน Moto X เพียงแต่ว่าในตอนนี้ Google ได้เปิดฟีเจอร์นี้ให้มือถือตัวอื่นใช้

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจและเปิดเผยในงานกราฟฟิกเวลาเล่นเกมจะสวยไม่แพ้พีซีประสบการกราฟิกที่สวยงามไม่แพ้เกมคอนโซล ด้วย Android Extension Pack ที่จะมาทำให้การวาดแสงเงา พื้นผิว ความละเอียดเม็ดพิกเซล ออกมาเนียนตาไม่ต่างจากเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่ๆหรือบน PC เลยปลดล็อคหน้าจอด้วยอุปกรณ์เสริม

Android L เป็นแอนดรอยด์เวอร์ชันแรกที่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีชื่อเล่นเป็นขนมเหมือนเวอร์ชันที่ผ่านมา และเป็นแอนดรอยด์ตัวแรกที่เปิดตัวมาด้วยเวอร์ชันสำหรับนักพัฒนา (Developer Preview) ซึ่งปกติเวลาแอนดรอยด์เปิดตัวมักจะเปิดตัวเวอร์ชันพร้อมใช้เลย (ตัวเต็ม) ทำให้นักพัฒนาและผู้ผลิตอัพเดตแอพและเฟิร์มแวร์กันไม่ทันเพราะกระทันหันเกินไป

จนถึงตอนนี้ยังเป็นอะไรที่งงกันว่าทำไมใน Keynote บนเวทีถึงได้ทำการเรียกชื่อ Android L ตลอดเวลา? แล้วสรุปว่ามันเป็น Android เวอร์ชั่นเบอร์อะไร? 4.5 หรือ 5.0? ชื่อเวอร์ชั่นที่เป็นขนมหายไปไหน?ลองย้อนกลับไปดูชื่อเต็มๆของมัน นั่นคือ Android L Developer Preview ซึ่งเป็นแค่ตัวสำหรับให้ Developer ทดสอบก่อนเท่านั้นเอง มันอาจจะยังไม่ใช่การประกาศอัพเดทรุ่นอย่างเป็นทางการจาก Google ฉะนั้นเราอาจจะได้เห็นการประกาศเลขเวอร์ชั่นและชื่อขนมในอนาคตอีกทีเมื่อทุกอย่างพร้อม และวิธีแบบนี้ก็เป็นคล้ายๆกับที่ทาง Apple ได้ทำกับเมื่อเปิดตัว iOS เวอร์ชั่นใหม่นั่นเอง

ในงาน Google I/O 2014 ที่ผ่านมา มีการพูดถึงสถิติต่างๆ เกี่ยวกับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อปหรือคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ้คเอาไว้มากมายทีเดียวครับ เพราะฉะนั้น blog นี้ก็จะสรุปเอาตัวเลขทั้งหมดมาให้ได้อ่านกัน 

ก่อนอ่าน ถ้าเกิดว่าคุณไม่รู้เลยว่า ART Runtime คืออะไร แนะนำให้ย้อนกลับไปอ่าน ART runtime อาวุธลับใน Android 4.4 ซึ่งเขียนอธิบายเบื้องต้นแบบเข้าใจง่ายๆเอาไว้ให้ เพราะ Blog นี้จะมีความซับซ้อนจนถึงกับอ่านไม่รู้เรื่องสำหรับคนที่ไม่มีพื้นฐานเลย ซึ่งถ้าคิดว่าพร้อมแล้วเลื่อนลงไปอ่านต่อกันเลย (บทความนี้ขอนาย @nuuneoi มาแปะให้อ่านกันนะครับ เขียนมาครบและเข้าใจง่ายดีแล้ว ไปอ่านลิงก์ต้นทางได้ที่ http://nuuneoi.com/blog/blog.php?read_id=690)

ความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดใน Android L คงไม่พ้นเรื่องของหน้าตา UX/UI ที่จะเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ว่าอย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดไปว่ามันจะมีผลแค่เพียงกับโทรศัพท์รุ่น Nexus เท่านั้นนะ เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการสร้าง Design Guideline ขึ้นมาใหม่ภายใต้ชื่อ "Material Design" เช่นเดียวกับตอนที่เปลี่ยน UI จาก Android 2.3 เป็น Halo UI บน Android 4.0 ซึ่งมีเรื่องน่าสนใจที่ผู้ใช้อย่างเราๆน่าอ่าน รู้เอาไว้สนุกๆ และ App Designer + Developer ทั่วไปต้องรู้

ยังมีเรื่องให้พูดถึงอีกเยอะสำหรับ Android เวอร์ชัน L ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อคืนนี้ในงาน Google I/O 2014 แนวคิดอย่างหนึ่งที่ถูกชูประเด็นใน Keynote ของ Sundar Pichai ผู้กุมบังเหียนของ Android คนปัจจุบัน คือ Android L จะสามารถแสดงผลได้ในทุกขนาดหน้าจอและ form factor ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, นาฬิกาข้อมือ, รถยนต์ และทีวี ซึ่งเราก็ได้เห็นตัวอย่างของ Android L, Android Wear, Android Auto และ Android TV ไปแล้ว และวันนี้ Google ได้ปล่อยโฆษณาชิ้นแรกที่แสดงให้เห็นภาพอย่างชัดเจนว่า Android สามารถเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของเราได้อย่างไรบ้าง 

หลังจากการเปิดตัว Android “L” ไปในงาน Google I/O เมื่อคืนนี้ทางค่าย HTC ก็ไม่รอช้ารีบออกมาบอกว่าเตรียมจะปล่อยอัพเดตให้กับผู้ใช้ HTC One (M8) และ HTC One (M7) ทั่วโลกภายใน 90 วันหลังจากที่ได้ final software จากทาง Google (ซึ่งยังไม่มีกำหนดอย่างเป็นทางการ)