เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ ASUS ROG Phone มือถือเกมมิ่งที่แรงที่สุดของตลาดในตอนนี้ แถมยังไม่ได้มาเดี่ยวๆ เพราะเปิดตัวมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมเพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้มากขึ้นไปอีก และทาง droidsans ก็ได้ไปลองจับ ลองเล่น ทั้งตัวมือถือ ROG Phone ในงาน Computex ที่ไต้หวันกันมาวันนี้ รวมถึงอุปกรณ์เสริมทั้งหลายมาเรียบร้อยแล้ว เลยขมาเล่าบอกกล่าวเป็นพรีวิวให้ได้อ่านกัน

Play video

ASUS ROG Phone

มาดูกันที่ตัวเครื่องด้านหน้าก่อนเลย ROG Phone จะใช้หน้าจอแบบ OLED ขนาด 6 นิ้ว ที่ไม่มีรอยเว้ารอยแหว่งให้รำคาญตา ส่วนขอบเครื่องด้านบนและด้านล่างเป็นลำโพงสเตอรีโอที่ให้เสียงกระหึ่มสะใจเลยทีเดียว

ด้านหลังของ ROG Phone จะมีกล้องหลังคู่แนวนอนความละเอียด 12MP + 8MP และแฟลชอยู่ที่มุมซ้ายบน ถัดลงมาหน่อยตรงกลางเครื่องเป็นเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือ ส่วนตะแกรงสีส้มด้านขวาเป็นช่องระบายความร้อน ที่สามารถใช้งานคู่กับอุปกรณ์เสริมที่เป็นพัดลมระบายอากาศได้ ส่วนตรงกลางเครื่องเป็นโลโก้ ROG ที่เป็นไฟ RGB ปรับแต่งสีเองได้ตามต้องการ

และที่ประหลาดกว่ามือถือรุ่นอื่นๆ ก็คือข้างเครื่องทางด้านซ้ายจะมีช่อง USB-C 2 ช่องติดกัน สำหรับเสียบสายชาร์จตามปกติ หรือจะใช้เสียบกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ (ทางด้านล่างเครื่องก็ยังคงมีช่อง USB-C ให้เหมือนเดิม โดยสามารถเลือกเสียบชาร์จได้จากช่องใดช่องนึง)

ส่วนขอบเครื่องด้านขวาตรงมุมเครื่องทั้ง 2 ฝั่ง จะมีเซ็นเซอร์วัดแรงกดให้เราใช้นิ้วชี้แตะเพื่อสั่งงานได้เหมือนกับปุ่ม Shoulder Button (ปุ่ม L ปุ่ม R) ของคอนโทรลเลอร์เกมทั่วไป (ไม่ได้ลองให้ดู เพราะมันต้องตั้งค่าให้แต่ละเกมซะก่อน)

ROG Phone ยังมีเมนู Game Center เพื่อบอกข้อมูลการทำงานของ CPU, GPU, หน่วยความจำ (RAM) ที่กำลังถูกใช้งาน, ความจุ (ROM) ที่ใช้ไปและเหลืออยู่ แถมเรายังสามารถเลือกปรับแสง สี ของไฟ RGB ตรงโลโก้หลังเครื่องได้อีกด้วย ส่วน Fan Speed จะเป็นการจัดการความเร็วของพัดลมระบายอากาศที่เป็นอุปกรณ์เสริมเมื่อตอนเราเอามาเสียบเข้ากับเครื่อง

และเรายังสามารถเข้าสู่โหมดเร่งประสิทธิภาพหรือเปิด Game Mode ได้ ผ่านการบีบตัวเครื่องค้างเอาไว้แป้บนึง (คล้ายๆ กับที่เราบีบ HTC U11 / U12 หรือ Pixel 2) ซึ่งจะเป็นการเร่งการทำงานของ CPU และส่วนต่างๆ ของระบบขึ้นไปให้สูงสุด

กล้องถ่ายภาพของ ROG Phone นั้นดูเหมือนจะไม่มความพิเศษอะไรเท่าไหร่ โหมดการถ่ายภาพก็ยังมีน้อยอยู่ และยังปรับตั้งค่าอะไรมากๆ ไม่ได้ และจากที่ดูก็เหมือนจะไม่ได้เน้จุดขายด้านนี้อยู่แล้ว

 

อุปกรณ์เสริมของ ROG Phone

ทีนี้ลองมาดูเหล่าอุปกรณ์เสริมต่างๆ ของ ROG Phone กันบ้างนะครับว่าจะมีอะไรบ้าง เริ่มกันที่พัดลมระบายอากาศกันก่อนเลย โดยเจ้าพัดลมตัวนี้จะใช้ขั้วเสียบที่เป็น USB-C คู่ เข้ากับช่องทางด้านข้างเครื่องนั่นแหละ

และเมื่อเสียบเข้าไปเราก็สามารถปรับความเร็วพัดลมได้จาก Game Center รวมถึงไฟ RGB ที่อยู่ด้านหลังพัดลมด้วยเช่นกัน

 

Gamevice Controller

อุปกรณ์เสริมอีกชิ้นที่จะทำให้มือถือเกมมิ่งสมบูรณ์แบบขึ้นมาก็คือคอนโทรลเลอร์ที่จะช่วยให้เราเล่นเกมได้ถนัดมากกว่าการใช้หน้าจอสัมผัสนั่นเอง โดยคอนโทรลเลอร์ตัวนี้จะใช้เสียบเข้ากับทางหัวและท้ายของตัวเครื่อง ซึ่งด้านบนจะเสียบเข้าไปเฉยๆ ส่วนด้านล่างจะเสียบเข้ากับช่อง USB-C โดยไม่ต้องเชื่อมกับบลูทูธ ทำให้ไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดอาการ lag แน่นอน

นอกจากนี้ตอนที่เราเสียบคอนโทรลเลอร์ เรายังสามารถชาร์จไปได้ด้วยช่อง USB-C ตรงข้างเครื่องอีกช่องนึงนั่นเอง

 

ASUS WiGig Dock

แต่ถ้าใครเบื่อเล่นเกมจากจอมือถือเล็กๆ อยากจะขยับขยายไปเล่นบน TV ก็ต้องใช้งานร่วมกับเจ้านี่เลย ASUS WiGig Dock ที่จะเชื่อมต่อกับมือถือของเราผ่าน WiFi และสาย HDMI เข้ากับ TV ทำให้เราสามารถเล่นเกมโปรดได้แบบไม่มีอาการ lag แน่นอน เพราะมันสามารถรับส่งสัญญาณได้ความเร็วถึง 4.6Gbps ซึ่งถือว่าเหลือเฟือมากๆ เลยล่ะ

 

Mobile Desktop Dock

แต่ถ้าใครยังไม่พอใจกับคอนโทรลเลอร์ เพราะมันใช้งานไม่ถนัดเวลาเล่นเกม FPS งั้นก็ต้องเจอกับเจ้า Mobile Desktop Dock ที่จะเปลี่ยนร่างของ ROG Phone ให้กลายเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ด้วยการเสียบเครื่องเข้าไปที่ Dock จากนั้นก็ต่อสาย HDMI เข้ากับมอนิเตอร์หรือ TV และเสียบเมาส์+คีย์บอร์ด พร้อมเล่นเกมได้เลย แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่ารองรับเกมอะไรบ้างนะ เพราะมีให้ลองแค่ Free Fire เท่านั้น…หรือใครจะเอามาใช้งานอย่างอื่นก็ทำได้ไม่ว่ากัน

 

TwinView Dock

สุดท้ายกับอุปกรณ์สุดแหวกอย่าง TwinView Dock ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายๆ กับคอนโทรลเลอร์สำหรับมือถือทั่วไป แต่แทนที่จะเป็นปุ่มกดต่างๆ ดันกลายเป็นหน้าจอ Touch Screen ความละเอียด FHD ซะนี่ โดยตัวฝาสามารถเปิดหรือปิดลงมาได้แนว Nintendo DS ซึ่งที่เห็นในภาพนั้นไม่ใช่ว่ามี 2 เครื่องนะ แต่เราจะเอามือถือใส่ลงไปบนฝาบนที่มีช่อง USB Type C เชื่อมต่อกับ Dock

โดยเจ้า Dock ตัวนี้ จะมีแค่ปุ่ม Shoulder Button หรือปุ่ม L และ R เท่านั้น แต่การเคลื่อนไหวหรือปุ่มอื่นๆ จะใช้การสัมผัสหน้าจอด้านล่างเช่นเดิม ส่วนหน้าจอมือถือที่เราเสียบเข้าไปจะสามารถเปิดแอปสำหรับการถ่ายทอดสดอย่างเช่น Twitch และ YouTube เพื่อดูคอมเม้นท์หรือจะใช้งานแอปอื่นๆ ในระหว่างที่เล่นเกมก็ได้

ตัว Dock ยังมีลำโพงในตัวอีก 2 ดอก รวมกับลำโพงของมือถืออีก 2 เป็น 4 ดอก รับรองว่าได้เสียงที่กระหึ่มแน่นอน นอกจากนี้ตัว Dock ยังมีพัดลมระบายความร้อนและระบบสั่นเพิ่มความมันอีกเท่าตัว

ใครที่สนใจเจ้า ASUS ROG Phone ตัวนี้ ก็เริ่มเก็บเงินกันไปพลางๆ ก่อนนะ เพราะตอนนี้ยังไม่รู้ราคาที่แน่นอนของทั้งตัวมือถือและเหล่าอุปกรณ์เสริมต่างๆ เลย ส่วนวันวางจำหน่ายคาดว่าจะเป็นช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ และก็ไม่รู้อีกว่ามันจะเข้ามาขายในบ้านเราด้วยรึเปล่า

สเปค ASUS ROG PHONE

  • หน้าจอ OLED ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2160 x 1080) Refresh rate 90Hz, รองรับการแสดงผลแบบ HDR
  • CPU : Snapdragon 845 ความเร็ว 2.96GHz
  • GPU : Adreno 630
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB / 512GB
  • กล้องหลัง : 12MP + 8MP
  • กล้องหน้า : 8MP
  • NFC
  • สแกนนิ้วด้านหลัง
  • รูหูฟัง 3.5 มม.
  • ระบบเสียง : ลำโพงคู่หน้า, DAC 24 bit/192 kHz, DTS virtual surround 7.1 ผ่านหูฟัง, AptX
  • ไฟ RGB ปรับแต่งสีเองได้
  • แบตเตอรี่ : 4000 mAh
  • ระบบ Android 8.1 Oreo