ในที่สุด Nokia X ก็พร้อมที่จะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว วันศุกร์ที 14 มีนาคมนี้แหละ เปิดตัวที่ราคา 3,990 บาท มีให้เลือก 5 สี นั่นก็คือ เขียว ส้ม ฟ้า ดำ และขาว (ได้ข่าวว่าสีเหลืองยังไม่เข้ามา) โดยรุ่นที่ขายในบ้านเรานั้นรองรับการใช้งานแบบ 2 ซิม ก็คือเครื่อง Nokia X Dual SIM ที่เราจะมาพรีวิวกันในวันนี้

 

สวัสดีครับ Nokia X จะเป็นหรือไม่เป็น Android ไม่รู้หละ แต่วันนี้น้องดรอยด์ขอทำหน้าที่พรีวิวแกะกล่องกัน ใครจะทำไม ชิชิ ว่าแล้วก็ตามมา ความรู้สึกแรกที่เจอคือกล่องมันหน้าตา Asha มากอะ บอกเลย

 

รูดเอาฝาออกไปแล้ว ก็พบ Nokia X นอนแอ้งแม้งอยู่ในกล่อง ขอลองเปิดเครื่องก่อนเลย “ติ๊ง ตะ ดิ่ง ดิง ดิ๊ง” เสียงริงโทนที่คลาสสิคชวนขนลุกมันกลับมาอีกแล้ว 

 

รูปทรงเครื่องนี่มันเป็นบล็อกๆ เหลี่ยมๆ แบบเดียวกับ Asha เลยนะ แต่ด้วยสีสัน วัสดุและงานประกอบแล้ว บอกตามตรงดีกว่าแทบทุกยี่ห้อในราคา 3-4 พันบาท ปุ่มพาวเวอร์ ปุ้่มปรับเสียงอยู่ด้านข้างฝั่งเดียวกัน 

 

ช่องเสียบหูฟังอยู่ด้านบน มองตอนแรกรู้สึกรูมันเล็กๆ แปลก แต่ลองเอาหูฟัง 3.5 มาเสียบก็ใช้งานได้ปกติดี

 

ลำโพงด้านหลังขอบอกว่าดังระเบิด 3 บ้าน 8 บ้านกันเลย กล้องความละเอียด 3 ล้านเป็นแบบ fixed focus นะครับ

 

ส่วนวิธีการถอดฝาหลัง Nokia X นั้น จะง่ายที่สุดก็คือถอดจากด้านบนของตัวเครื่องครับ แงะออกไปได้เลย

 

ฝาหลังมันเป็นแบบครอบทั้งเครื่อง เพราะฉะนั้นเวลาถอดออกมามันก็จะเป็นแบบนี้แล เหลือแต่ใส้ใน

 

แบตเตอรี่ความจุ 1,500 มิลลิแอมป์ (ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าใช้ทั้งวันไหวป่าว แต่ดูแล้วก็น่าจะพอ ขอลองทดสอบอีกแป๊บ) ส่วนช่องใส่ซิมนั้นเป็นแบบ ไมโครซิม ทั้ง 2 ช่องนะครับ มีช่อง MicroSD คั่นกลาง ความจุสูงสุดที่รองรับก็ 32 GB  

 

ตอนประกอบฝาหลังกลับนี่ง่ายมาก ประกบแล้วกดได้เลย ส่วนตัวอยากให้ Nokia เอาฝาหลังมาขายเพิ่ม ทำอีกหลายๆ สีเลยน่าจะโดน แบบซื้อเปลี่ยนได้ทุกวัน ฮ่าๆ

 

อุปกรณ์ในกล่องไม่มีอะไรมากมาย คู่มือ ใบรับประกัน สายชาร์จ และหูฟังที่ไม่ว่าคุณจะซื้อเครื่องสีอะไร หูฟังก็จะเป็นสีแดงๆ ส้มๆ อันนี้แหละ ไม่ต้องตกใจนะ

 

เปิดเครื่องลองเล่นกันจริงจัง ก็พบว่าหน้าจอดีกว่าที่คิดไว้ซะอีก คือก่อนหน้านี้ไปเห็น Asha รุ่นเล็กจอมันแบบขาวๆ เหลือบๆ มองอะไรไม่ค่อยชัด ตอนแรกที่เห็นราคาของ Nokia X ก็กลัวใจว่า Nokia จะเอาจอราคาถูกมาใช้หรือเปล่า ผลปรากฏว่าไม่ครับ หน้าจอสีสันดูดีเลย แต่ส่วนของพิเซลอาจจะไม่ได้คมมากนัก

 

พอเลื่อนหน้าจอ Lock screen ออกไป ก็จะเจอกับ Live Tile ที่มันมาจาก Windows Phone ชัดๆ ฮ่าๆ ใครเคยใช้คงไม่มีปัญหา แต่ถ้าใครไม่เคยก็ขอบอกไว้นิดนึงว่ามันเลื่อนขึ้นลงยาวๆ และมีหน้าเดียวเท่านั้น ถ้าเราปัดด้านข้างจะกลายเป็นหน้าจอ Fast Lane

 

เนื่องจาก Nokia X Platform มันไม่มี Google Play แต่มี Nokia Store มาให้แทน ซึ่งก็ใช้งานแทนกันได้ สามารถโหลดแอพได้ทันทั ไม่ต้อง sign-in อะไรเลย แถมยังสามารถจ่ายเงินซื้อแอพผ่าน Operator Billing หรือหักผ่านเครือข่ายได้ด้วย ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

แต่ปัญหาที่เจอคือแอพยังมีไม่เยอะมากเท่าไหร่ ซึ่ง Nokia ก็มีทางแก้โดยการให้ลง App Store รายอื่นๆ เพิ่มได้ ซึ่งบางเจ้าก็มีแอพ Android เยอะเป็นหลักแสนใกล้เคียง Play Store เหมือนกัน

 

ส่วนหน่วยความจำในตัวเครื่องนั้นก็ทั้งหมด 4 GB แต่เหลือเอาไว้ให้ลงแอพลงเกมประมาณ 1 GB ส่วนที่เหลือก็ต้องย้ายไปลง Micro SD อะไรแบบนี้ ส่วนตัวผมยังไม่ได้ลองเกมใหญ่ๆ อยากรู้เหมือนกันว่าระบบมันจะบริหารเนื้อที่โอเคมั้ย

 

ส่วนเมนูกล้องนั้นไม่มีลูกเล่นอะไรมาก แต่มีการตั้งค่าต่างๆ ได้เยอะเหมือนกันครับ เดี๋ยวขอยกยอดเอาไปไว้ในคลิปรีวิว Nokia X เลยแล้วกันนะครับ จะได้เห็นการทำงานของมันทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหน้า Lock Screen, Live Tile, Fast Lane และการตั้งค่าต่างๆ ด้วย

 

ขอจบการ พรีวิว Nokia X Dual SIM คร่าวๆ แต่เพียงเท่านี้ 

สวัสดี~

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : รายละเอียด สเปค และราคา Nokia X Dual SIM