OnePlus 7 Pro ถือเป็นก้าวใหม่ของ OnePlus ที่ลองขยับเอารุ่นที่ใส่เอาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปแบบสุดๆ จัดเป็นรุ่นพรีเมี่ยมของค่ายเป็นครั้งแรก ทั้งการเลือกใช้หน้าจอโค้ง QHD+ ละเอียดยิบ มีกล้องหน้าเซลฟี่ป๊อบอัพ และการใส่กล้องหลัง 3 ตัวเป็นรุ่นแรกของค่าย พร้อมอัด RAM 12GB มาให้สำหรับใครที่ชอบสเปคดุเดือด

หน้าจอของ OnePlus 7 Pro นี่นับว่าเป็นจุดเด่นแรกที่เห็นได้ชัด ทั้งเรื่องความสวยงาม สีสัน และไร้ซึ่งสิ่งกวนสายตา ไม่มีติ่ง ไม่มีรู แถมความละเอียดยังเป็น QHD+ และใส่รีเฟรชเรทมาให้ที่ 90Hz ขอบจอโค้งลงทั้ง 2 ข้างเรียกว่าเป็นจอแบบ Edge to Edge แถมจอยังใหญ่ขึ้นเป็น 6.67 นิ้วกันเลย

ขอบจอรอบข้างนั้นบางเฉียบ จะมีขอบล่างที่หนากว่านิดๆ แต่ก็บอกเลยว่าน้อยมากถ้าไม่สังเกตุดีๆ ขนาดตอนถือในมือนี่ก็ถือว่าใหญ่พอตัวเลย ส่วนการแสดงผลของหน้าจอที่ได้

คะแนนระดับ A+ จาก Display Mate นั้นตอนที่ลองในงานยังไม่ได้เทสต์แบบจริงจัง เอาไว้ถ้าได้มีโอกาสจับเครื่องอีกทีแล้วจะมาบอกนะครับ แต่เท่าที่ดูก็เหมือนจะสีสันดี และเร่งความสว่างได้จ้ามากๆ

ขอบด้านข้างหรือตัวเฟรมของ OnePlus 7 Pro นั้นจะหนานิดหน่อยหากเทียบกับเรือธงรุ่นอื่นๆ ส่วนนึงก็เพราะต้องวางเอาสวิชที่ใช้สลับโหมดสั่นและโหมดปิดเสียงนั่นเอง

ส่วนด้านล่างนั้นยังตรงกลางเป็น USB C ที่รองรับ WARP Charge 30 แรงเร็วสะใจ มีช่องไมโครโฟน และลำโพงตัวแรก

ที่เห็นอยู่ทางท้ายสุดคือตำแหน่งของถาดซิม รุ่นนี้รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมเหมือนเดิม


ตัวถาดนั้นออกแบบมาให้วางซิมได้จากทั้ง 2 ด้าน คือด้านหนึ่งและด้านหลังอีกหนึ่ง

OnePlus 7 Pro นั้นมาพร้อมกล้องป๊อบอัพรุุ่นแรกของค่ายตำแหน่งที่วางเอาไว้จะเฉียงไปทางซ้ายเล็กน้อย ไม่ได้อยู่ตรงกลางหรือริมๆ ไปเลย

ความละเอียดกล้องหน้านั้นอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.0 ซึ่งแม่จะมีกล้องเดี่ยว แต่ก็มีฟังก์ชั่นให้ใช้งานครบ ทั้งในเรื่องของการถ่ายภาพแบบ Portrait และก็ใช้ในการปลดล็อคใบหน้าได้ กล้องมันก็จะเด้งขึ้นมาไวๆ แล้วหดกลับลงไปทันทีหากเจอหน้าเรา

ส่วนเรื่องความทนทานนั้นไว้ใจได้ เพราะ OnePlus 7 Pro มีระบบตรวจสอบหากเกิดการตกหล่น หรือมีแรงกระแทกตัวกล้องพร้อมจะหุบลงไปทันที

คราวนี้มาลองดูกล้องหลัง 3 ตัวกันบ้าง ซึ่งหากมองจากมุมนี้กล้องมันจะนูนขึ้นมาแค่นิดเดียวเท่านั้น พอใส่เคสเข้าไปก็น่าจะเท่ากันพอดี ช่วยลบอาการนูนไปได้

รอบนี้มีครบทุกระยะ เริ่มจากกล้องหลักที่มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ Sony IMX586 ยอดนิยม ที่มี Pixel Bining ถ่ายภาพแสงน้อยได้ดีผ่านการรวม 4 พิกเซลเป็น 1 และทาง OnePlus ยังพัฒนาตัวเลนส์เป็น 7 ชิ้นที่ค่ารูรับแสงกว้าง f1.6

ส่วนกล้องเลนส์ Tele ตัวนี้มีระยะซูม Optical 3x ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล และกล้องเลนส์ Ultra Wide มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล โดยมีมุมมองกว้าง 117 องศา

ลองดูภาพจากหน้าจอหรือ viewfinder ได้ครับ ว่าระยะของแต่ละกล้องเป็นอย่างไรบ้าง

ส่วนของโหมดกล้องจากที่ลองเล่นๆ ดูนิดหน่อยนั้นเหมือนจะยังไม่มีอะไรเพิ่มเข้ามาจากรุ่นเดิม แต่ก็มีการอัพเกรดซอฟต์แวร์ให้ดีขึ้น ทั้งเรื่องของการถ่ายภาพบุคคล โหมดบิวตี้ และที่สำคัญคือโหมดถ่ายกลางคืนอย่าง Nightscape 2.0 (อยากเอาออกไปลองถ่ายจัง) โดยคะแนนของ OnePlus 7 Pro นี่ทาง DXOMark เอาไปทดสอบแล้วเทคะแนนให้ถึง 111 โดยมีคะแนนภาพนิ่งสูงถึง 118 เลยทีเดียว

หนึ่งฟีเจอร์ที่รอคอยกันมานาน นั่นก็คือลำโพงคู่สเตอริโอและงานนี้ก็จัดเต็ม เพาะรองรับเสียง Dolby Atmos มาด้วย

จากที่ลองฟังจากคลิปของทาง Dolby เองความเซอรราวด์มันน่าสนใจเลยทีเดียว แต่คงต้องลองเอามาฟังละเอียดๆ อีกที

การสแกนนิ้งที่บอกว่าเร็วขึ้นไปอีกนั้น คือแต่เดิมมันก็เร็วมากๆ อยู่แล้ว การเร็วขึ้นระดับเสี้ยวินาทีมันเลยเห็นภาพยากไปหน่อย เอาเป็นว่ามันปลดล็อคได้แบบทันที อนิเมชั่นก็ฉับไวแบบแตะปุ๊บติดปั๊บ

ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ นั้นอาจจะยังทดสอบไม่ได้ครบ และระยะเวลาในการไปลองในงานเปิดตัวนั้นก็ไม่นานพอ อย่าง Game Mode กับโหมดพิเศษ FNATICS ที่ไปจับเอาทีม eSport ระดับโลกมาร่วมพัฒนา เห็นว่าปรับตั้งค่าได้ละเอียดมาก และ ZEN Mode ที่เอาไว้ลดละเลิก หรือพักการใช้งานมือถือก็น่าสนใจ

สรุปรวมแล้ว OnePlus 7 Pro นั้นอัดแน่นไปด้วยสเปคระดับท็อปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Snapdragon 855 + หน่วยความจำที่เร็วปรี๊ด UFS 3.0 ไหนจะกล้องหลัง 3 ตัวครบทุกระยะ และกล้องหน้าแบบ Pop-up บนหน้าจอ Fluid AMOLED 2K ที่แสดงผลระดับ 90Hz เนียนๆ ตาขึ้นไปอีก เรียกว่ามาเต็มสมชื่อ Pro จริงๆ

แต่ที่น่าจะเป็นปัญหาหลักๆ เลยก็คือ จะเลือกเอาสีไหนดีมากกว่า ที่ไปลองนี่มันสวยทั้ง 3 สีเลยอ่า

อ่านเพิ่มเติม
เปิดตัว OnePlus 7 และ OnePlus 7 Pro