Realme ได้เริ่มขยายไลน์สินค้าจากเพียงแค่สมาร์ทโฟนที่ขายดีขึ้นมาจนติดอันดับ 1 ใน 5 แบรนด์ขายดีที่สุดในประเทศไทย ออกมารุกตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ IoT โดยจะมีทั้งทีวี นาฬิกา กล้องวงจรปิด เครื่องชั่งน้ำหนัก รวมถึงแปรงสีฟันไฟฟ้าโซนิค ที่พักหลังมาได้รับความนิยมขึ้นเรื่อย เราเลยจะขอเอามาพรีวิวให้ได้ทราบกัน
แปรงสีฟันไฟฟ้าจาก realme ตัวนี้เป็นแบบ sonic ที่กำลังเป็นที่แพร่หลายของแปรงสีฟันไฟฟ้าในยุคนี้ ซึ่งถ้าหากจำแนกแล้ว แปรงสีฟันไฟฟ้าในปัจจุบันน่าจะพอแบ่งออกได้เป็น 3 แบบคือ
- Electric : หัวแปรงขยับในทิศทางบนล่าง หรือเป็นแบบหัวแปรงกลมที่จะหมุนขัดฟันเราไปเรื่อยๆ ทำให้เราไม่ต้องคอยสะบัดข้อมือ หรือขยับกล้ามเนื้อเพื่อแปรงฟัน
- Sonic : มีการใช้มอเตอร์ความเร็วสูงเพื่อขยับให้ตัวแปรงสั่น จนเกิดคลื่นเสียงฮัมขึ้นมา ซึ่งเป็นที่มาของชื่อมัน ซึ่งแรงสั่นนี้จะทำให้คราบสกปรก หรือพลัคที่ติดตามผิวฟันหลุดออก โดยจะขยับอยู่ที่ความถี่ตั้งแต่ 200 – 400 Hz หรือคิดเป็นจำนวนการเคลื่อนไหว จะอยู่ที่ราว 24,000 – 48,000 ครั้งต่อนาที
- Ultrasonic : จะคล้ายกับโซนิคที่มีการสั่นด้วยความเร็วสูงจนทำให้คราบสกปรก แบคทีเรีย รวมถึงพลัคตามฟันหลุดออกได้ แต่ว่าจะเร็วขึ้นไปอีก ทำงานที่ความถี่ 1.6MHz (1600000Hz) ซึ่งเป็นความถี่ที่สูงเกินความสามารถของหูเราจะได้ยิน เมื่อคิดเป็นจำนวนการเคลื่อนไหว ก็จะอยู่ที่หลายล้านครั้งต่อนาที
โดยแบบที่ได้รับความนิยม และหลากหลายแบรนด์เลือกทำมาวางจำหน่ายในปัจจุบันก็จะเป็นตัว Sonic เช่นเดียวกับของ realme M1 Sonic ตัวนี้
สำหรับสเปคที่น่าสนใจของ realme M1 Sonic ตัวนี้นะครับ
- มอเตอร์ไฟฟ้าความถี่สูง 34,000 ครั้งต่อนาที
- ขนแปรง DuPont™️ กำจัดแบคทีเรียได้ 99.99%
- องศาการแกว่งกว้าง 10°
- หัวแปรงปราศจากโลหะ บางเพียบ 3.5 มม.
- แบตเตอรี่ 800 mAh ใช้งานได้ราว 90 วันต่อการชาร์จ
- โหมดการทำงาน 4 โหมด
- กันน้ำ IPX7
อุปกรณ์ภายในกล่อง realme M1 Sonic
เมื่อเปิดปล่อยออกมาจะเจอตัวด้ามจับของแปรง ที่จะประกอบไปด้วยตัวมอเตอร์ แบตเตอรี่ และปุ่มควบคุม โดยเราจะไม่เห็นรูชาร์จไฟแต่อย่างใด เพราะมันมาพร้อมกับแท่นชาร์จไร้สาย เสียบชาร์จครั้งนึงเพียง 4.5 ชม. ก็ใช้งานได้สูงสุดถึง 90 วัน ซึ่งต้องระวังให้ดีว่า ถ้านานๆใช้ทีแบบนี้ กลับมาหาอีกรอบ อาจจะไม่เจอแล้ว 😛
หัวแปรงมีมาให้ 2 แบบ ปกติ และนุ่มพิเศษ โดยตัวแปรงจะมีความพิเศษกว่าหัวแปรงทั่วไปตรงที่มีความหนาแน่นเยอะกว่าราว 40% พร้อมมีการเคลือบสารยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียได้ถึง 99% และเมื่อสังเกตตรงฐานของขนแปรง จะมีความบางกว่าปกติ เพียงแค่ 3.5 มม. เท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากเทคนิคการทำหัวแปรงที่ไม่ใช้ตะขอ แต่ใช้เป็นการหลอมขนแปรงให้เข้าไปเป็นเนื้อเดียวกับหัวไปเลย
ส่วนตัวขนแปรงด้านบนนี้เป็นแบบปลายมน 98% ซึ่งทาง realme บอกว่าจะรักษาเหงือกของเราได้ดีกว่า รวมถึงหัวแปรงแบบปกติ จะมีการใส่สีฟ้าที่ขนแปรงเอาไว้ เพื่อบ่งบอกถึงอายุการใช้งาน หากซีดจางเมื่อไหร่ ก็จะรู้ได้ทันทีว่าถึงเวลาเปลี่ยนแล้ว
วิธีการใช้งานก็ไม่ได้ยากอะไรแค่เอาส่วนหัวแปรง และด้ามจับมาประกอบกันก็พร้อมใช้งานได้ทันที กดปุ่มเพื่อเปิดเครื่อง รวมถึงเลือกโหมดที่ต้องการได้เลย โดยเราสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการใช้งานได้ 4 โหมด ระหว่างใช้งานตัวมอเตอร์จะมีเสียงฮัมออกมาแบบเบาๆ ไม่เกิน 60db เท่านั้น
ปรับโหมดต่างๆได้ด้วยการกดปุ่มบนด้ามแปรงได้เลย
โหมดการทำงานทั้ง 4 โหมด จะประกอบไปด้วย
- Soft : เบาๆ สำหรับคนที่ฟันและเหงือกบอบบาง
- Clean : โหมดปกติ เลือกใช้ตัวนี้เป็นหลัก
- White : ทำความสะอาดล้ำลึก สั่นที่ความถี่สูงขึ้นจนทำให้ฟันขาวขึ้น แต่ไม่ทำร้ายเคลือบฟัน
- Polish : ขัดฟันเพื่อขจัดคราบ เช่น บุหรี่ ชา กาแฟ และทำให้ฟันขาวขึ้น
ทดลองใช้งาน realme M1 Sonic
หลังจากได้ลองทดสอบการใช้งานมาอยู่ 2-3 วัน ขอรวบรวมประสบการณ์ที่เจอและสิ่งที่เพื่อนๆน่าจะสงสัยกัน
วิธีการแปรงที่ไม่เหมือนแปรงปกติ
สิ่งที่สงสัยมากตอนที่แกะกล่องมาครั้งแรกคือเราจะใช้เจ้าแปรงสีฟันไฟฟ้าตัวนี้ยังไง ใช้เหมือนกับแปรงสีฟันปกติเลยรึเปล่า จนต้องไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมว่ามันใช้ยังไงกันแน่ และมีคนบอกว่าหากแปรงผิด หรือแปรงเหมือนแปรงสีฟันธรรมดา อาจจะเหงือกเลือดออกได้เลย และสุดท้ายก็นึกได้ว่าในกล่องมันมีคู่มือแถมมาด้วย
เปิดอ่านในคู่มือเค้าก็มีบอกว่าแค่ให้วางแปรง 45% กับตัวฟัน แล้วก็ค่อยๆเลื่อนไปเรื่อยๆจนครบฟันทั้งปาก ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 2 นาที โดยตัวแปรงสีฟันจะมีการตั้งเวลาเอาไว้ให้อยู่แล้ว ครบเมื่อไหร่ก็จะหยุดให้ทันทีซึ่งมันต่างจากการแปรงปกติที่ทำอยู่พอสมควร แต่ว่าคำแนะนำที่มีการโพสต์เอาไว้ รวมถึงคลิปสอนต่างๆ ก็ให้ทำคล้าย ๆ กันว่าแปรงสีฟันไฟฟ้าแบบโซนิคนี้ แค่เอาเลื่อนไปวางบนผิวฟันทั้ง 3 ด้านใหญ่ (หน้า-บน-หลัง) ก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องปัด หรือบิดข้อมือเพิ่มเติมแต่อย่างใดเลย
รู้สึกสะอาด แต่คนละแบบกับการใช้แปรงปกติ
ผลที่ได้หลังการแปรง คือฟันลื่นสะอาดดี และใช้เวลาน้อยกว่าการแปรงฟันปกติ แต่จะมีความรู้สึกสะอาดที่ต่างกันออกไป ซึ่งน่าจะมาจากการที่แปรงสีฟันไฟฟ้าใช้การสั่นเพื่อขจัดคราบ แต่แปรงปกติใช้การปัดการถู ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ ณ ตอนนี้ก็อาจจะบอกได้ยากว่าอันไหนดีกว่ากัน แต่ที่แน่ๆคือ ไม่ว่าคุณจะใช้แบบไหน การแปรงฟันเพียงอย่างเดียว จะไม่สามารถเอาเศษอาหารออกจากร่องฟันได้ทั้งหมด ยังต้องใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดเพิ่มเติมในจุดที่มักจะมีเศษเข้าไปติดเหมือนเดิม
การจับถือมียังไม่ถนัดมือเท่าไหร่
ส่วนที่น่าจะเป็นปัญหาที่สุดของแปรงสีฟันไฟฟ้า realme M1 Sonic น่าจะอยู่ที่ตัวแปรงจะมีขนาดที่ใหญ่และกลม ทำให้เจอปัญหาลื่นหลุดมือ รวมถึงบิดเปลี่ยนท่าได้ลำบาก แล้วด้วยความที่ตัวแปรงมันสั่น จะกัดเอาไว้ก็จะรู้สึกว่ามันกระทบกับฟันเกินไป ถ้าเอาออกจากปากมามันก็สั่นจนสะบัดยาสีฟันกระจายไปทั่วอีก ซึ่งน่าจะต้องลองใช้ไปอีกสักพักกว่าจะเจอท่าจับและจุดที่ลงตัวขึ้นครับ
ประมาณนี้นะครับ สำหรับการพรีวิวแปรงสีฟันไฟฟ้า realme M1 Sonic ถ้าใครสนใจอยากไปลองหามาใช้ดู จะมีค่าตัวอยู่ที่ 1,499 บาท ราคานี้ถือว่าไม่ได้แพงจนเกินไปนัก และจะมีอีกตัวเลือกนึงที่สเปคลดลง และราคาต่ำลงไปอีก คือรุ่น N1 เหลือเพียง 699 บาท เท่านั้น สนใจก็ไปจับจองกันได้แล้วมีขายตามออนไลน์กันเพียบครับ
Comment