เมื่อปลายปีที่ผ่านมาทาง realme ได้เริ่มวางบุกตลาด AIoT และก็มีการวางจำหน่ายสมาร์ทวอทช์อย่าง realme Watch S ไป ล่าสุดในปีนี้ ก็ได้มีรุ่นอัพเกรดอย่าง realme Watch S Pro ที่เตรียมวางจำหน่ายในบ้านเรา ในเร็ว ๆ นี้แล้วครับ ส่วนจะมีความแตกต่างจากรุ่นก่อนอย่างไร ทาง Droidsans ก็มีพรีวิวของรุ่นนี้มาฝากกันครับ
ดีไซน์ realme Watch S Pro
เริ่มกันที่ดีไซน์ของตัวนาฬิกาที่ถูกออกแบบมาให้เป็นหน้าปัดทรงกลม สไตล์เรียบหรู พร้อมปุ่มกดที่ด้านข้างสองปุ่ม มีหน้าจอสัมผัสขนาด 1.39 นิ้ว ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass แบบ 2.5D สามารถแสดงผลกลางแดดได้ดี ที่สำคัญตัวเรือนใช้วัสดุเป็นสแตนเลสสตีล ระดับพรีเมี่ยม คงทนหายห่วง
ส่วนสายนาฬิกานั้นจะใช้เป็นยางซิลิโคนแบบ Sport สีดำที่ความกว้าง 22 mm แบบถอดเปลี่ยนได้ ตัวเรือนเมื่อรวมกับสายแล้วจะมีน้ำหนักอยู่ที่ 63 กรัมโดยประมาณ ถ้าเทียบกับพวกสมาร์ทแบนด์หรือวอชทั่วไปก็จะหนักกว่า แต่ถ้าจากวัสดุที่เป็นโลหะแล้วถือว่าเบาเลยทีเดียว
ใช้งานกับ Android และ iOS ผ่านแอป realme Link
เมื่อแกะตัวสมาร์ทวอทช์ออกจากกล่องแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำเลยคือการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชั่น realme Link ที่สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งใน App Store และ Play Store โดยตัวแอปจะทำหน้าที่เชื่อมต่อตัวนาฬิกาเข้ากับสมาร์ทโฟน รวมถึงเป็นตัวช่วยให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นอย่างเช่น การเปลี่ยนหน้าปัดที่ในแอปมีให้เลือกมากกว่า 100 แบบ หรือจะสามารถอัปโหลดรูปในสมาร์ทโฟนขึ้นไปตั้งเป็นหน้าปัดบนสมาร์ทวอทช์ของเราก็ทำได้เช่นกันครับ
นอกจากหน้าปัดที่มีให้เลือกมากกว่า 100 แบบแล้ว เรายังสามารถตั้งหน้าจอให้ติดตลอดเวลาแบบ AOD หรือ Always on Display ได้อีกด้วย
การแสดงผลหน้าจอแบบ Always On Display
ซึ่งตรงนี้จะสามารถตั้งเวลาเปิดปิดได้ ทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากกว่าตอนเปิดทั้งไว้ตลอดเวลาครับ
และเมื่อเชื่อมต่อเข้ากับแอปนี้ ก็ยังสามารถจัดการแจ้งเตือนต่าง ๆ ได้อีก ทั้งตั้งให้เป็นนาฬิกาปลุกได้, ตั้งเตือนให้ดื่มน้ำหรือลุกขึ้นมาทำกิจกรรมยืดเส้นยืดสายได้ รวมถึงยังสามารถค้นหาสมาร์ทโฟน และใช้ตัวนาฬิกานี้เป็น Camera Controller สำหรับการถ่ายภาพได้อีก
ฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลัง
realme Watch S Pro มาพร้อมกับฟีเจอร์สุขภาพที่ครบครัน ด้วยเซ็นเซอร์ PPG ที่อยู่ด้านหลังตัวเรือนทำให้สมาร์ทวอทช์ตัวนี้สามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้อย่างแม่นยำ
โดยสามารถเลือกตั้งค่าให้วัดได้อย่างต่อเนื่องทุก ๆ 5 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงยังมีความสามารถในการใช้วัดค่าระดับออกซิเจนในเลือดหรือ SpO2 ได้อีกด้วย
เมื่อทำการวัดค่าเสร็จแล้ว ก็สามารถเข้าไปดูค่าเฉลี่ยหรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในแอป realme Link ที่มีการสรุปให้แบบชัด ๆ โดยสามารถเลือกกดสรุปดูได้ทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี ได้เพิ่มเติมจากอ่านบนตัวสมาร์ทวอทช์ครับ
นอกจากนี้ก็ยังมีโหมดกีฬา (Sport Mode) ให้เลือกประเภทของการออกกำลังกายได้สูงสุดถึง 15 ชนิด อาทิ วิ่ง, เดิน, ขี่จักรยาน, ว่ายน้ำ, บาสเกตบอล, โยคะ เป็นต้น ซึ่งในโหมดนี้จะมีการทำงานร่วมกับระบบ Dual-Satellite GPS ที่มีความแม่นยำสูง พร้อมวัดระยะทางไปในตัว เมื่อออกกำลังกายเสร็จ ก็สามารถซิงกับสมาร์ทโฟนเพื่อดูข้อมูลในได้แอปเลย
และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่สำคัญไม่แพ้กันคือการวัดการนอน ที่สามารถบอกค่า Deep Sleep, Light Sleep, Awake (ตื่นไปกี่นาที) รวมถึง REM ได้ โดยสามารถใส่ตัวนาฬิกานอนไปพร้อม ๆ กัน ไม่ต้องกลัวแบตจะหมด เพราะมันสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุดราว 2 สัปดาห์เลย
สเปค realme Watch S Pro
- หน้าจอ : 1.39 นิ้ว แบบ AMOLED ความละเอียด 454×454 พิกเซล (326 ppi)
- วัสดุ : กระจกหน้าจอ 2.5D จาก Gorilla Glass และตัวเรือนสแตลเลสสตีล
- ขนาดสายนาฬิกา : กว้าง 22 mm
- น้ำหนัก : 63.5 กรัม (ตัวเรือนรวมกับสายนาฬิกา)
- สี : ดำ
- ชิปเซ็ต : Dual-Core + Dual-Satellite GPS
- เซ็นเซอร์ :
- เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการเคลื่อนไหว
- เซ็นเซอร์ตรวจจับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
- เซ็นเซอร์ตรวจจับลักษณะการหมุน
- เซ็นเซอร์ตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจ
- เซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่
- มาตรฐานการกันน้ำ : 5 ATM ป้องกันแรงดันน้ำที่ 50 เมตร
- แบตเตอรี่ : 420 mAh สามารถใช้งานได้สูงสุด 14 วัน
- ระบบชาร์จ : เป็นแบบแม่เหล็กสามารถชาร์จ 0 – 100% เต็มได้ภายใน 2 ชั่วโมง
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0
- รองรับระบบปฏิบัติการ Android 5.0 ขึ้นไป และ iOS 9.0 ขึ้นไป ผ่านแอปพลิเคชั่น realme Link
- ราคา 4,999 บาท
สรุป
หลังจากที่ได้ลองใช้งานเบื้องต้นมาราว ๆ หนึ่งสัปดาห์ ก็พบว่า realme Watch S Pro นั้นเป็นสมาร์ทวอทช์ที่ครบเครื่องพอสมควร จะใส่ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์แฟชั่นก็ได้หรือใส่ไปออกกำลังกายก็ทำได้ดี่เยี่ยม และที่สำคัญแบตเตอรี่อึดมาก กลายเป็นว่าอาจจะใส่เพลินจนลืมถอดมาชาร์จแบตได้
และล่าสุดทาง realme ก็ได้ออกมาประกาศราคาของ realme Watch S Pro กันเป็นเรียบร้อย โดยเริ่มวางจำหน่ายแล้ววันนี้ ในราคาเพียง 4,999 บาท เท่านั้นครับ
ตามรอดูอยู่ค่ะ