Zenfone Max Pro M2 มาแล้ว เรียกว่าปีนี Asus ปล่อยของมาเจาะตลาดราคาประหยัดได้น่าสนใจ ใกล้เคียงกับสมัยที่ Zenfone 4-5-6 และ Zenfone 2 เคยทำเอาไว้ ได้ความคุ้มค่าในราคาไม่แพง ซึ่ง Max Pro M2 ที่ทาง droidsans ได้มาทดสอบในวันนี้เป็นรุ่น RAM 6GB / ROM 64GB

หน้าตากล่องเปลี่ยนไป ดูมีความเปลี่ยนแปลง สวยงามและทันสมัยขึ้น ใช้โทนสีดำตัดด้วยสีน้ำเงิน ส่วนอุปกรณ์ต่างๆ ภายในกล่องจะมีอะไรบ้างลองมาดูกัน

ตัวเครื่องมาพร้อมซองที่ห่อป้องกันริ้วรอยเป็นอย่างดี พร้อมบอกจุดขายครบทั้งชิป Snapdragon 660 AIE , แบตเตอรี่ 5000 มิลลิแอมป์ , และ Gorilla Glass 6

ส่วนของในกล่องที่เปิดมานั้นมีแค่หม้อแปลง 5V 2A กับสาย Micro USB เท่านั้น ซึ่งชุดขายจริงอาจจะมีของแตกต่างจากนี้ก็เป็นได้ เพราะหลายๆ ครั้งที่ทาง Asus ส่งเครื่องมาให้ลองนั้นมักจะของน้อยกว่าชุดขายจริงประจำ

หน้าจอมีขนาด 6.26 นิ้ว รุ่นนี้ความละเอียด Full HD+ เรียกว่าตอนนี้เป็นเหมือนไซส์มาตรฐานของวงการไปหมดแล้ว หน้าจอจะประมาณ 6.2-6.4 นิ้ว ต่างกันไปนิดๆ หน่อยๆ

ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาจริงๆ อย่างที่โฆษณาเอาไว้ ส่วนนึงก็เพราะเลือกใช้วัสดุเป็นโพลีคาร์บอเนตเป็นหลัก แม้แบตเตอรี่จะอัดแน่นมา 5000 มิลลิแอมป์ก็ยังรู้สึกเบา ส่วนฝาฟลังที่ดูมันเงานั้นกลับไม่เก็บรอยนิ้วมือง่ายเหมือนที่คิดเอาไว้

ส่วนที่มีการปรับปรุงและทำได้ดีขึ้นคือทาง Asus ทำการลดขนาดของ notch หรือรอยบากบนหน้าจอให้เล็กลง แต่เซ็นเซอร์ต่างๆ ยังอัดมาให้แน่นและครบมาก ทั้งไฟแจ้งเดือน แฟลชกล้องหน้า เซนเซอร์วัดแสงและวัดระยะ พร้อมกับกล้องหน้า 13 ล้านพิกเซลด้วย

ส่วนกล้องหลังคู่นั้นใช้เซนเซอร์ Sony IMX486 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลเป็นกล้องหลัก มีกล้อง 5 ล้านพิกเซลอีกตัวคอยวัดระยะความลึกตื้น เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็อยู่ที่ด้านหลังนี่แหละ

แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่ก็ใส่ไมโครโฟนตัวที่ 2 พร้อมระบบตัดเสียงของทาง Asus มาให้ด้วย

พอร์ตด้านล่างนั้นยังใช้เป็นช่อง micro USB มีช่องหูฟัง 3.5 ไมโครโฟนสนทนา และลำโพง ส่วนปุ่มต่างๆ นั้นอยู่ทางด้านขวา

หน้าตาของ UI มันจะไม่ดูมีความเป็น Zenfone เลย เพราะทาง Asus นั้นได้เลือกใช้ Stock Android ในตระกูล Max มาตั้งแต่รุ่นก่อนหน้านี้ เพื่อเน้นความลื่นไหลและเบาของตัว ROM ส่วนนึงก็เพื่อจับตลาดคนที่ชอบ Pure Android

แม้แต่ UI หน้า App drawer ก็ยังเหมือน แต่ทั้งนี้ทาง Asus ก็บอกเองว่าไม่ใช่มือถือในโครงการ Android One แต่อย่างใด

ส่วนใครที่ชอบฟังวิทยุ Zenfone Max Pro M2 ก็มีมาให้ด้วยนะครับ เสียบหูฟังใช้งานได้สบายๆ

ถาดซิมนั้นเป็นแบบ Triple Slot ใส่ได้ครบทั้ง 2 นาโนซิม และ 1 micro SD เพิ่มเติมเมม

สามารถเกาะคลื่น 4G ได้ทั้ง 2 ซิมไม่มีปัญหา ส่วนเรื่องของ WiFi นั้นจากที่ทดสอบก็รองรับแค่ 2.5GHz ไม่รองรับ 5GHz ตามสเปคที่ระบุนั่นแหละ (น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน) ส่วนระบบปฏิบัติการณ์ในตอนนี้ยังมาเป็น Android 8.1 Oreo อยู่ เห็นว่าจะมี Android 9 Pie อัพเดทตามมาในภายหลัง

โหมดกล้องถ่ายภาพนั้นดูเหมือนฟีเจอร์จะยังไม่ครบ 100% สักเท่าไหร่ เพราะในงานเปิดตัวก็มีการพูดถึง AI Scene แต่ก็จะมาหลังจากได้รับการอัพเดท แต่ในตอนนี้ก็สามารถเลือกปรับซีนต่างๆ เองได้ถ้าต้องการ

ระบบโฟกัสทำได้รวดเร็ว ชัดเตอร์เองก็เช่นกัน การเบลอฉากหลังก็ตัดวัตถุด้านหน้าแยกกันได้ค่อนข้างดี

ตัวอย่างภาพถ่ายบางส่วน จาก Zenfone Max Pro M2

มีโอกาสได้ลองเล่นเกมไปบ้างนิดหน่อย RoV เปิดเฟรมเรทสูงได้ แต่เฉลี่ยในเกมน่าจะอยู่ประมาณ 55fps ไม่ได้นิ่งที่ 60 ส่วนระบบสัมผัสมัลติทัชเจอสะดุดบ้างในบางครั้ง แต่ยังไม่ได้เช็คแบบละเอียดว่าอาการมาจากไหน

PUBG นั้นเริ่มต้นด้วยกราฟิค สมดุล + เฟรมเรทระกับกลาง แต่สามารถปรับภาพขึ้นไปเป็น HD และเฟรมเรทสูงได้ ไมมีปัญหาในการเล่น หน้าจอก็ไม่โดนกินเข้ามา แถม RAM ที่เยอะถึง 6GB ก็สามารถเปิดหลายๆ เกมทิ้งไว้ได้ ไม่โดนปิดคืน RAM ก็ไม่ต้องโหลดใหม่

จบเกมก็ได้กินไก่ไปสบายๆ ไม่เจอปัญหาในการเล่น แม้จะปรับกราฟิคขึ้นมาสุดแล้วก็ตาม โดยรวมถือว่าสอบผ่าน

อันนี้เป็นการพรีวิว Zenfone Max Pro M2 เบื้องต้น ทดสอบการใช้งานอย่างละนิดอย่างละหน่อยกันไปก่อน และทาง droidsans ก็คิดว่าน่าจะต้องรอให้มีการอัพเดท software อีกรอบนึงทั้งในเรื่องของฟีเจอร์กล้องที่น่าจะครบครันกว่านี้ครับ