ปัญหาคาราคาซังเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐ ฯ และ จีนนั้น ดูจะไม่จบลงง่าย ๆ อย่างแน่นอนถึงแม้ก่อนหน้านี้ทั้ง 2 ชาติเริ่มชะลอมาตรการกดดันระหว่างกันลงมาเพื่อเข้าสู่โต๊ะเจรจากันใหม่ แต่ล่าสุดดันเกิดกรณีอื้อฉาวขึ้นมาอีก เมื่ออาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่าง University of California, Los Angeles (UCLA) ดันถูกจับกุมข้อหาลักลอบส่งเทคโนโลยี Chipset ทางการทหารระดับสูงของสหรัฐ ฯ ไปให้กับจีน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Yi-Chi Shih ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้าของ UCLA ถูกจับกุมเมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาหลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีความมั่นคงระหว่างประเทศ เพราะกระทำการลักลอบส่งเทคโนโลยีทางการทหารระดับสูงไปยังจีน โดยล่าสุดคณะลูกขุนได้ตัดสินโทษในกระบวนการศาลชั้นแรกรวมความผิดมากถึง 18 กระทง เต็มไปด้วยข้อหาคดีความมั่นคง ลักลอบฉ้อฉล และส่งออกผิดกฎหมาย ส่งผลให้นาย Shih ต้องพบกับโทษจำคุกสูงสุดถึง 219 ปี ชนิดเรียกได้ว่าตายแล้วเกิดมาใหม่ยังต้องติดคุกได้อีกรอบกันเลยทีเดียว

Yi-Chi Shih และจำเลยร่วม Kiet Ahn Mai ถูกพบว่าทำงานร่วมกันเพื่อหลอกหลวงบริษัทผู้ผลิต Semiconductor ชื่อดังรายหนึ่งของสหรัฐ ฯ (บริษัทดังกล่าวไม่ถูกระบุชื่อในคำแถลงของศาล) ทำทีว่าเป็นลูกค้าขอติดต่อดูตัวอย่าง Chipset และ Design ทางวิศวกรรมของเทคโนโลยีดังกล่าว หลังจากทำการก่อตั้งบริษัทสัญชาติอเมริกันขึ้นมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ

จากคำแถลงของอัยการ Chipset ที่มีเทคโนโลยีทางการทหารชิ้นดังกล่าวถูกส่งไปยังประเทศจีน โดยส่งให้กับบริษัทที่มีชื่อของ Yi-Chi Shih เป็นประธาน ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองใช้บริษัทสัญชาติอเมริกันที่ก่อตั้งขึ้นเป็นตัวกลางดำเนินการที่สนับสนุนทั้งทางการเงินภายในประเทศสหรัฐ ฯ และเพื่อการลักลอบจัดส่งออกไปยังปลายทางที่จีนอีกที

ชิพประมวลผลที่ถูกลักลอบขโมยไปนั้น ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในกิจการทางการทหาร เช่น ระบบสั่งการขีปนาวุธ ระบบนำร่อง เครื่องบินขับไล่ ระบบโจมตีตอบโต้ทางอากาศ รวมถึง การใช้งานประมวลผลระบบนำร่องของเรดาร์… – คำแถลงการณ์ของศาลสหรัฐ ฯ

ดูเหมือนว่าปัญหาความมั่นคงทางการเมืองระหว่าง 2 ชาตินี้ กับความวุ่นวายทางเศรษฐกิจและโลกของเทคโนโลยีจะแยกกันไม่ออกเสียจริง ๆ หลังจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกมากมายต้องตกไปอยู่ในส่วนหนึ่งของข้อพิพาททั้งหลาย ไม่ว่าจะทางตรงหรือรับผลกระทบทางอ้อม เช่น ARM | Google | Apple | ZTE และแน่นอนชื่อที่พวกเราต้องนึกถึงเป็นชื่อแรก ๆ หากพูดถึงสงครามทางการค้าครั้งนี้ “HUAWEI” นั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม: Huawei ยังรอไฟเขียวจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกา ว่าจะสามารถใช้ Android ต่อไปได้หรือไม่

ที่มา: The Verge