ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นาง Angela Merkel นายกรัฐมนตรีของเยอรมนี ได้มีการให้ความเห็นที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมแห่งอนาคตไว้อย่างน่าสนใจ โดยประกาศชัดเจนถึงความเห็นของรัฐบาลเยอรมันในฐานะมหาอำนาจของสหภาพยุโรปว่า ชาติยุโรปต้องช่วยกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อยกระดับศักยภาพด้านเทคโนโลยีให้เป็นของตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะวัตถุดิบหลักอย่าง Chipset และ Battery เพื่อสนับสนุนให้ยุโรปมี Tech Giants เกิดขึ้นมาแข่งขันกับสหรัฐและจีนได้บ้าง

Merkel เชื่อ การผลิต Chipset – Battery ได้เอง จะช่วยยกระดับยุโรปสู่ผู้ผลิตระดับเดียวกับ Tech Giants อย่าง สหรัฐ ฯ และ เอเชียตะวันออก

Angela Merkel ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว The Financial Times เอาไว้ก่อนที่งานประชุม World Economic Forum ที่จัดขึ้นในเมือง Davos ประเทศ Switzerland ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ซึ่ง Merkel จะเป็นหนึ่งในผู้นำทางความคิด มีประเด็นหลักที่นายกรัฐมนตรีหญิง 4 สมัยซ้อนของเยอรมันคนนี้จะได้กล่าวปาฐกถา คือกรณีการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของยุโรปที่อาจถึงเวลาต้องเปลี่ยนให้ทันยุคสมัยมากขึ้นเสียที

พวกเรามีความเชื่อมั่นว่ายุโรปมีศักยภาพมากพอที่จะผลิต Chipset ได้เองในสเกลขนาดใหญ่สำหรับอุตสาหกรรมอิเล็คทรอนิกส์แห่งอนาคต ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจ Cloud Computing และ เช่นเดียวกับการพัฒนานวัตกรรมของ Battery Cells เพื่อรองรับเทคโนโลยียานยนต์ที่พวกเราก็เป็นผู้นำที่แข็งแกร่งมาตลอด – Angela Merkel | นายกรัฐมนตรีหญิงแห่งเยอรมนี

อันที่จริงสำหรับประเทศเยอรมันเองนั้น เป็นที่รู้กันดีสำหรับนานาชาติว่าพวกเขาคือผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมสำคัญของโลกมาอย่างโชกโชนในยุคที่เศรษฐกิจโลกนั้นขับเคลื่อนไปด้วยอุตสาหกรรมหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งชื่อเสียงด้านวิศวกรรมศาสตร์ ด้านเครื่องจักรกลและยานยนต์ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมของยุคที่ผ่านมา ก่อนที่ปัจจุบันดูเหมือนโฟกัสของโลกทั้งใบจะย้ายไปอยู่ที่การเคลื่อนไหวของชาติที่มีศักยภาพด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์อย่าง สหรัฐอเมริกา จีน หรือเอเชียตะวันออก ถึงขนาดที่นาง Merkel ออกปากทำนองว่า “หากยุโรปไม่รีบเปลี่ยนแปลง ศูนย์กลางของเศรษฐกิจโลกอาจไม่หมุนกลับมาที่ยุโรปอีกเลย”

ยุโรปที่เคยยิ่งใหญ่ ปัจจุบันกลับไม่มีผู้นำด้านนวัตกรรมในภูมิภาค และอาจไม่ได้เป็นแม้แต่ผู้ผลิตหากไม่รีบปรับตัว

ประเทศอย่างสหรัฐ ฯ และเอเชียตะวันออกเป็นเจ้าของนวัตกรรมคอมพิวเตอร์ หรือไม่ก็ถือครองกำลังและศักยภาพการผลิตที่ล้นเหลือสำหรับ Chipset ที่เปรียบเสมือนแกนสมองของเศรษฐกิจโลกใหม่ ชนิดที่เกิดการบัญญัติศัพท์ให้เป็นการเฉพาะเรียกธุรกิจกลุ่มนี้ว่า “Tech Giants” ส่วนศักยภาพด้านยานยนต์ที่เยอรมันและอีกหลายชาติในยุโรปเคยเป็นผู้นำ ก็กำลังถูก Disrupt อย่างรุนแรงจากเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าล้วนอย่าง Tesla และแบรนด์เล็กใหญ่จากจีน (บ้านเราก็เริ่มมีให้เห็นกันบ้างแล้วเช่น MG ZS EV จาก SAIC ผู้ผลิตยานยนต์ชั้นนำของจีน) ซึ่งเทคโนโลยี Battery ก็เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดอีก

โดยปัจจุบันมีผู้ถือครองสิทธิบัตรด้านนวัตกรรมชิพประมวลผลและแบตเตอรี่ศักยภาพสูงอยู่ไม่กี่ชาติ ได้แก่ สหรัฐ ฯ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี และไต้หวัน แถมประเทศกลุ่มนี้ก็ยังทำหน้าที่เป็นผู้ผลิตหลักของโลกเสียเองด้วย (อันที่จริงต้องรวมแรงงานและศักยภาพการผลิตของภูมิภาคอาเซียนของเราเข้าไปด้วยเช่นกันนะ 8-)) ซึ่งเศรษฐกิจโลกใหม่ที่ว่า ก็คือการขับเคลื่อนไปด้วย Cloud Computing ทั้งในลักษณะโครงสร้างพื้นฐานและบริการที่แทรกซึมอยู่ในทุกภาคส่วน เรากำลังพูดถึง Facebook – Google – Apple – Amazon – Microsoft – และ Online Platform ใด ๆ ที่เข้ามาทำลายวิธีการเดิม ๆ ในการดำเนินชีวิตนั่นแหละ ทุกอย่างนั้นใช่หมดเลย แต่ทุกวันนี้มาจากอเมริกา หรือไม่ก็จีนเป็นผู้คิดค้นหลักเสียมาก

แม้แต่อุตสาหกรรมเดิมที่เยอรมันว่าแน่อย่างยานยนต์ก็กำลังถูกรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาแทนที่ชนิดตั้งตัวไม่ทัน ถึงแม้หลาย ๆ เจ้าเริ่มขยับกันแล้ว อย่างเช่น BMW – Mercedes Benz และแบรนด์ในเครือ Volkswagen เองก็ได้ทยอยกันเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าออกมาสู่ตลาดโลก แต่ก็ยังติดอยู่กับข้อจำกัดที่ว่าต้นทุนที่สูงที่สุดคือ Battery นั้นยังต้องพึ่งพาชนิดเกือบ 100% ยังคงมาจากจีนหรือไม่ก็เกาหลีใต้อยู่เลย โปรเจคที่ใกล้เคียงที่สุดคือการประกาศตั้งโรงงาน Battery ศักยภาพสูงในเยอรมันของ Volkswagen แต่สายการผลิตก็ยังคงต้องรอกันถึงปี 2023 เป็นอย่างน้อยถึงจะเริ่มผลิต Battery ใช้เองได้จริง ๆ

Huawei มียิ้ม ! ผู้นำยุโรปเลือกชัด แม้ต้องเปลี่ยนแปลง แต่ไม่ขอเลือกวิธีการแบบ Trump เพราะไม่อยากตกยุค

นอกจากนาง Merkel ได้ให้ความเห็นเรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างน่าสนใจแล้ว อีกชาติที่พูดเรื่องนี้เอาไว้ค่อนข้างชัดในทางเดียวกันก็คือ ประธานาธิบดี Emmanuel Macron ของฝรั่งเศส ที่เคยกล่าวเอาไว้ว่า “อาจถึงเวลาที่เรา (ฝรั่งเศสและยุโรป) จะต้องสรรค์สร้างสิ่งใหม่ ๆ เพื่อคุ้มครองความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของยุโรปเอาไว้ให้ได้ ในระดับที่ทัดเทียมกับภูมิภาคอื่น ๆ เช่นเดียวกับที่ Airbus (ฝรั่งเศส) แข่งขันได้กับ Boeing (สหรัฐ ฯ) เป็นตัวอย่างหนึ่งที่สะท้อนถึงขีดความสามารถของพวกเรา” แต่ถึงแม้จะต้องเสริมความแข็งแกร่งภายในมากเพียงใด เหล่าผู้นำยุโรปหลายชาติไม่ว่าจะเยอรมัน ฝรั่งเศส หรืออังกฤษ ก็ยังคงแสดงทีท่าที่ชัดเจนว่าจะไม่ใช้วิธีการเดียวกันกับ Donald Trump ที่ใช้วิธีการฟาดฟันทางการเมืองเช่นที่ทำอยู่กับ จีน และ Huawei อย่างแน่นอน

คำถามที่ว่า เยอรมันและยุโรปต้องการที่จะถอนรากถอนโคนระบบ Supply Chain ที่เชื่อมต่อกันอยู่ในเศรษฐกิจโลกออกให้หมด เพื่อดึงทุกอย่างกลับสู่เศรษฐกิจยุโรปเลยหรือไม่นั้น เราเชื่อมั่นมากเช่นกันว่า การตัดขาดและกีดกันผู้ผลิตรายใหญ่อย่างจีนออกไปนั้น ไม่ใช่คำตอบอย่างแน่นอน… – Angela Merkel

นอกจากคำสัมภาษณ์ของผู้นำเยอรมันครั้งนี้แล้ว บรรดาชาติยุโรปทั้งหลายรวมถึงเยอรมันเองก็ได้แสดงออกชัดเจนว่า วิธีการอันดุดันของประธาธิบดี Donald Trump นั้นไม่ใช่คำตอบสำหรับการพยุงเศรษฐกิจอย่างแน่นอน โดยหากมองกรณีของ Huawei 5G นั้นบรรดาชาติเหล่านี้ โดยเฉพาะเยอรมันก็เรียกได้ว่าแทบจะพร้อมอ้าแขนรับ Huawei เข้ามาแข่งขันอย่างเสรีในประเทศของพวกเขาอยู่ดี เพราะวัตถุประสงค์สำคัญคือ 5G ที่ดีที่สุดบนต้นทุนที่ดีที่สุดนั้น Huawei อาจเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบที่สุดในเวลานี้อยู่ดี หากพวกเขาไม่ต้องการหลงยุคตกเทรนด์ไม่มี 5G ดี ๆ ใช้ในประเทศกันเสียทีน่ะนะ 😯

 

อ้างอิง: CNN Business | The Financial Times (Subscription)