โค้งสุดท้ายก่อนที่ธนาคารแห่งประเทศไทยจะเริ่มใช้มาตรการปรับธนาคารที่แอปล่มเกิน 8 ชั่วโมงต่อปีในวันที่ 1 มกราคม 2567 นี้ โดยค่าปรับคิดเป็นสูงสุด 5 แสนบาท แล้วถ้าหากยังไม่แก้ไข จะคิดค่าปรับเพิ่ม 5,000 บาทต่อวัน ซึ่งมาดูกันว่าในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 ที่ผ่านมานี้จะมีธนาคารใดเข้าข่ายมาตรการบ้าง

สถิติเทคโนโลยีสารสนเทศของธนาคารพาณิชย์ขัดข้อง ปี 2566

สถิติเทคโนโลยีสารสนเทศของธนาคารพาณิชย์ขัดข้อง ไตรมาส 4 ปี 2566

ธนาคารMobile BankingInternet BankingATM / CDMสาขา
ธ.ทหารไทยธนชาติ1 ครั้ง/ 1 ชั่วโมง
ธ.ทิสโก้ จำกัด (มหาชน)1 ครั้ง/ 3 ชั่วโมง
ธ.ไทยพาณิชย์2 ครั้ง/ 2 ชั่วโมง
ธ.ยูโอบี1 ครั้ง / 3 ชั่วโมง2 ครั้ง/ 5 ชั่วโมง
ธ.แห่งประเทศจีน จำกัด1 ครั้ง / < 1 ชั่วโมง

จากที่ดูตามสถิติในไตรมาส 4 ปี 2566 ยังไม่พบธนาคารที่มีระบบขัดข้องเกิน 8 ชั่วโมง ไม่ได้เข้าข่ายถูกปรับแต่อย่างใด แต่ก็ยังพบธนาคารบางแห่งที่เกิดระบบขัดข้อง ซึ่งถ้านับจากระบบ Mobile Banking จะมีทั้งหมด 3 ธนาคาร ได้แก่

  • ธนาคารทหารไทยธนชาติ ระบบขัดข้อง 1 ครั้ง/ 1 ชั่วโมง
  • ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบบขัดข้อง 2 ครั้ง/ 2 ชั่วโมง
  • ธนาคารยูโอบี UOB ระบบขัดข้อง 1 ครั้ง / 3 ชั่วโมง

ซึ่งในระบบ Mobile Banking ธนาคาร UOB ได้เกิดปัญหายาวนานที่สุดเป็น 3 ชั่วโมง รองลงมาคือ SCB และ ทหารไทยธนชาติ ส่วนระบบ Internet Banking จะมีเพียง UOB ที่เดียวที่ขัดข้องเป็นเวลาถึง 5 ชั่วโมง

ระบบ ATM / CDM จะพบธนาคารทิสโก้ ขัดข้องเป็นเวลา 3 ชั่วโมง และที่สาขา จะพบธนาคารแห่งประเทศจีน ขัดข้องเป็นเวลาน้อยกว่า 1 ชั่วโมงค่ะ

หลังจากที่มีมาตรการห้ามแอปธนาคารล่ม เกิน 8 ชั่วโมง / ปี ออกมาพบว่าสถิติของระบบโมบายแบงก์แต่ละแห่งมีอัตราการล่มน้อยลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับ 3 ไตรมาสก่อนหน้า  โดยมาตรการดังกล่าวได้เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2567

ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย