ถึงแม้ว่าช่วงนี้ Android Tablet จะไม่บูมมากเหมือนเมื่อก่อน อาจจะเพราะความนิยมของโทรศัพท์ที่มีหน้าจอขนาดใหญ่พากันเข้ามาแทนที่ แต่ถึงกระนั้น Tablet ก็ยังคงตอบโจทย์การใช้งานบางอย่างได้ดีกว่าอยู่ดี

      และเมื่อหลายวันก่อนผมก็ได้มีโอกาสสัมผัสกับเจ้า Android Tablet จาก ASUS ที่เปิดตัวไปซักพักแล้ว แต่ก็ยังคงมีความว่าน่าสนอยู่ไม่น้อย นั่นก็คือ ASUS MeMo Pad 7 รหัส ME572CL ที่อัพเกรดจาก ASUS MeMo Pad 7 รุ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็นสเปคหรือดีไซน์ ด้วยราคา 9,990 บาท (และล่าสุดมีโปรโมชันบางที่ลดราคาเหลือ 7,290 แล้ว)

 

เปิดกล่องมามีอะไรบ้างนะ

      ตัวกล่องจะเป็นสีขาวที่มี Packaging Style ตามแบบฉบับของ Asus และตัวเครื่องที่ผมได้มารีวิวจะเป็นสี Rose Champagne

 

 

      ที่ให้มาพร้อมกับตัวเครื่องก็จะมีสาย Micro USB, อะแดปเตอร์ชาร์จไฟ 5V 1.35A, ที่จิ้มถาดซิม และคู่มือ

 

 

ตัวเครื่องแบบใหม่ดีไซน์หรูหรายิ่งขึ้น

      ตัวเครื่องมีการออกแบบใหม่ทำให้แตกต่างไปจาก MeMO Pad รุ่นก่อนๆไปอย่างมาก โดยที่รุ่นก่อนๆตัวเครื่องด้านหน้าที่ให้ความรู้สึกคล้าย Nexus 7 2012 แต่ตัวใหม่นี้เปลี่ยนไปแล้ว เพราะให้ความรู้สึกคล้าย Nexus 7 2013 ตรงระยะขอบเครื่องกับขอบจอใกล้เคียงกันอยู่ (ก็ช่างสังเกต)

 

      แต่ก็ใช่ว่าจะเหมือนเป๊ะซะทีเดียว เพราะตัวนี้ออกแบบขึ้นมาใหม่ โดยออกแบบให้บริเวณมุมกระจกนั้นโค้งมนเล็กน้อยส่วนมุมตัวเครื่องจริงๆจะเป็นมุมเหลียมแทน ซึ่งตรงนี้จะให้ความรู้สึกเหมือน Nokia Lumia 920 แทน โดยช่วงที่เป็นผิวสีดำด้านๆจะเป็นวัสดุคล้ายยาง

 

      ส่วนด้านหลังหลายๆคนบอกว่ามันคล้ายกับ Sony Tablet S ในอดีต แต่ทว่าก็ไม่ได้เหมือนซักเท่าไร เพราะ ASUS MeMO Pad 7 ตัวนี้จะให้ความรู้สึกหรูหราและลงตัวกว่ากันมาก และมีโลโก้ ASUS ผิวสะท้อนแสงอยู่ตรงกลาง

 

 

      สำหรับตำแหน่งต่างๆรอบๆตัวเครื่อง ดูตามภาพข้างล่างนี้ได้เลย

 

      ตัวเครื่องรองรับ Micro SD Card ได้สูงสุดถึง 64GB แนะนำให้หามาใส่ เพราะตัวเครื่องไม่มีฝาปิดช่อง Micro SD Card ถ้าไม่ใส่ Micro SD Card ไว้ อาจจะรู้สึกโหวงๆก็เป็นได้ ฮ่าๆ

 

      ปุ่ม Power อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะมือพอดี เวลาถือเครื่องแล้วนิ้วชี้จะไปวางอยู่บนปุ่มนั้นพอดีเป๊ะ 

 

 

       ช่องหูฟัง 3.5 mm แบบรองรับไมค์ในตัว และช่องลำโพงจะอยู่ด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่องเมื่อถือแนวตั้ง ต้องถือในแนวนอนลำโพงถึงจะอยู่ด้านซ้ายและด้านขวา

 

      ช่อง Micro USB อยู่ข้างล่างตัวเครื่อง ใกล้ๆกับช่องลำโพง

 

      ตัวนี้รองรับ 3G และ 4G LTE แต่จะโทรไม่ได้ (รุ่นที่โทรได้จะเป็นซีรีย์ FonePad แทน) โดยรองรับทุกเครือข่ายในบ้านเราเลยล่ะ!! 

 

      กล้องหน้าความละเอียด 2MP และมีเซ็นเซอร์วัดแสงอยู่ข้างบน

 

      กล้องหลังความละเอียด 5MP อยู่บริเวณมุมซ้ายบนของตัวเครื่อง เมื่อมองจากด้านหลังตัวเครื่อง

 

      ตัวเครื่องมีขนาดพอดีมือ (มือผู้ชาย) เหมาะอย่างยิ่งกับการอ่าน PDF หรือมังงะซักเล่ม แต่ถ้าจะให้ดี น่าจะทำขอบด้านข้างของตัวเครื่องให้แคบกว่านี้อีกซักหน่อย

 

      ตัวเครื่องค่อนข้างเนื้อแน่นดี เอาไปตีปิงปองเล่นก็เวิร์กดีเหมือนกัน ติดแค่ว่าเล่นลูกสปินไม่ได้เลย

 

หน้าจอ IPS LED คมชัดระดับ Full HD

      ASUS MeMO Pad 7 ตัวนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 7 นิ้ว มีความละเอียด 1920 x 1200 px (WUXGA) เป็นแบบ IPS LED 

 

      รองรับ Multitouch ได้สูงสุดถึง 10 จุดด้วยกัน

 

      โดยผมเจอปัญหาในเรื่องของมัลติทัชคือเรื่องความเสถียร สำหรับการใช้งานปกติอย่าง 1 นิ้วหรือ 2 นิ้วจะสามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่เมื่อเริ่มมัลติทัชตั้งแต่ 3 นิ้วขึ้นไป จะพบว่าตำแหน่งทัชบนหน้าจอมีการเพี้ยนอย่างเห็นได้ชัด

Play video

 

      และแอบสังเกตเห็นว่ากระจกหน้าจอไม่ได้เรียบเป๊ะๆซักเท่าไรนัก ดูได้จากแสงสะท้อนจากหลอดไฟในห้องที่ดูบิดเบี้ยวเล็กน้อย (หลอดไฟในห้องผมไม่ได้เบี้ยวนะ XD)

 

      การสู้แสงทำได้ค่อนข้างดี อาจจะไม่ได้สู้แสงได้ดีเวอร์ แต่ก็สามารถใช้งานในที่ที่มีแดดจ้ายามเที่ยงได้

 

      มี Light Sensor ติดมาด้วยจึงรองรับ Auto Brightness ได้ แต่รู้สึกว่าเหมือนมันจะ Sensitivity สูงไปหน่อย รับรู้ค่อนข้างไวทำให้ปรับแสงไปมาค่อนข้างบ่อย (เมื่อมีเงาผ่านหน้าจอเป็นต้น)

 

รองรับครบทุกเครือข่าย

      ถึงแม้ว่าจะโทรไม่ได้ แต่การใช้งานอินเตอร์เน็ตก็รองรับทั้ง EDGE/GPRS (2G), WCDMA (3G) และ LTE (4G) ได้ครอบคลุมทุกเครือข่ายในบ้านเรา

 

เร็วแรงสะใจ ใช้งานลื่นไหล พริ้วไหวเหนือสายน้ำ

      ตัวเครื่องใช้ชิปประมวลผลเป็น Intel Atom Z3560 ที่เป็น Quad-core ความเร็ว 1.8GHz และเป็น CPU แบบ 64-bit ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผลกราฟฟิค PowerVR G6430 จึงทำให้ ASUS MeMO Pad 7 ตัวนี้ แรงและแรงมาก

 

      ให้ RAM มา 2GB ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานในปัจจุบันพอสมควรแล้ว โดยตอนเริ่มเปิดเครื่องขึ้นมาจะเหลือให้ใช้งาน 1.2GB แต่เมื่อใช้งานปกติไปซักพัก ลงแอพนู่นนั่นนี่ ลงแอพกงแอพเกมก็จะเหลือราวๆ 800MB และถ้าใช้งานหนักๆจริงๆก็อาจจะเหลือประมาณ 400MB เลยก็ได้

 

      ROM ตัวนี้ ผมได้รุ่น 16GB มา จึงมีพื้นที่ให้ใช้งานอยู่ราวๆ 10GB (โดนตัวระบบใช้งานไป 5GB) ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งานส่วนใหญ่แล้ว ไม่มีการแบ่ง Partition ย่อย และรองรับ Micro SD Card ได้สูงสุดถึง 64GB นอกจากนี้ยังได้ ASUS Webstorage Space เพื่อเก็บข้อมูลบน Cloud 5GB ตลอดชีพ และได้เพิ่มอีก 11GB นานหนึ่งปี

 

      ลอง Benchmark ด้วย AnTuTu ดูก็พบว่าคะแนนพุ่งไปถึง 43,974 คะแนนกันเลยทีเดียว 

 

      ลองกับ 3DMark จะได้คะแนนใน Ice Storm กับ Ice Storm Extreme เป็น Maxed Out ส่วน Ice Storm Unlimited จะได้คะแนน 17,863 คะแนน

 

      ทดสอบ Work Performance ใน PCMark ได้ 3,545 คะแนน

 

      ทดสอบ Velamo สำหรับ Browser ได้ 2,420 คะแนน ส่วน Multicore ได้ 1,566 คะแนน และ Metal ได้ 1,169 คะแนน

 

เล่นเกมมึนเมา เอ้ย เมามัน ลำโพงดังชัดเจน

      ด้วยลำโพงคู่ Stereo ที่อยู่ด้านข้าง และพลังของ Sonic Master ทำให้เสียงที่ได้นั้นออกมาดังชัดเจนมาก หมดปัญหาเล่นเกมบน Tablet แล้วเสียงเบาไปได้เลย อีกทั้งยังเล่นเกมได้ลื่นไหลไร้กลิ่นติดจาน ไร้สารตกค้าง 

      ไม่ได้ถ่ายวีดีโอให้ดูนะครับ แต่ขอคอนเฟิร์มว่าลื่นไหลจริงๆ 😀

 

มาพร้อมกับ Android 4.4 KitKat ครอบด้วย ZenUI (ล่าสุดอัพเป็น 5.0)

      ถ้าเป็น Android Tablet ตัวอื่นๆผมก็คงชมเรื่องที่มาพร้อมกับ Android 4.4 KitKat แต่ทว่า ASUS MeMO Pad 7 ตัวนี้ใช้ชิป Intel ที่เป็น 64-bit ซึ่งเจ้า 64-bit จะรองรับเมื่ออัพเดทเป็น Android 5.0 Lollipop แล้วเท่านั้น จึงทำให้ในตอนนี้ตัวเครื่องทำงานเป็น 32-bit ทำให้รู้สึกว่ามันไม่เต็มประสิทธิภาพยังไงก็ไม่รู้ ต้องรอทาง ASUS ปล่อยอัพเดท Android 5.0 Lollipop มาให้ทีหลัง

      อัพเดท – ล่าสุดได้อัพ Android 5.0 เรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าตัว OS ยังคงทำงานแบบ 32-bit อยู่

 

      ตอนบูตเครื่องก็จะมีโลโก้ Powered by Android แสดงให้เห็น

 

      แอพที่มากับเครื่องและ UI โดยรวมเกือบทั้งหมดจะเหมือนๆกับรุ่นอื่นๆของ ASUS ผมจึงไม่ขออธิบายอะไรมาก (เน้นภาพประกอบ)

 

      รองรับการใช้งานแบบ Multi Screen ได้ แต่เป็นแอพที่ ASUS ทำรองรับไว้เท่านั้น

 

      นานๆทีจะเจอบั๊กเป็นบางครั้ง (จากที่ลองเล่นสามสัปดาห์ เจอแค่ 2 ครั้ง)

 

กล้องถ่ายภาพแค่พอถูไถ  

      เนื่องจากเป็น Android Tablet ที่เน้นใช้งานทั่วไปนอกเหนือจากการใช้ถ่ายภาพ ดังนั้นก็ขอบอกเลยว่ากล้องหน้าและกล้องหลังไม่ได้ดีเด่นอะไรมาก เอาไว้ใช้ถ่ายธรรมดาๆเท่านั้น คุณภาพอาจจะไม่สู้มือถือหลายๆรุ่น แต่เนื่องจากเป็น Android Tablet ที่โทรไม่ได้ ดังนั้นส่วนมากจะพกมือถือและใช้กล้องจากมือถือถ่ายภาพแทนซะมากกว่า

 

      แต่ถึงกล้องจะคุณภาพไม่ได้โดดเด่น แต่ลูกเล่นในแอพที่มากับเครื่องก็ค่อนข้างหลากหลายเหมือนกันนะ เหมือนกับบนตระกูล ZenFone เลย

 

      ลองถ่ายภาพต่อเนื่องดู พบว่าถ่ายได้เร็วมาก แต่พอดูไฟล์ภาพก็พบว่าตัวแอพใช้วิธีลดความละเอียดภาพลงเหลือแค่ 1280×720 px เท่านั้น เพื่อให้ถ่ายภาพได้ไว ดังนั้นภาพที่ได้ก็จะมีคุณภาพค่อนข้างต่ำ

 

      ตัวกล้องหลังถ่ายได้ดีในที่ที่มีแสง และทางที่ดีก็ควรเลี่ยงการถ่ายภาพในที่แสงน้อยด้วย

 

      ภาพตัวอย่างจากกล้องหลัง

 

      ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้า

 

      ภาพถ่าย Panorama (กดที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ได้)

 

แบตเตอรีอยู่ได้นาน และนานมาก

      ถึงแม้ว่าแบตเตอรีภายในเครื่องจะมีให้แค่ 3,950mA แต่ทว่าก็สามารถใช้งานได้ค่อนข้างนาน ถ้าสแตนบายและใช้งานน้อยก็สามารถอยู่ได้ถึงสองวันเลยล่ะ!!

 

      ลองเปิดความสว่างหน้าจอไว้สูงสุด แล้วเปิดหน้าจอทิ้งไว้ทั้งวัน สามารถอยู่ได้นานถึง 7 ชั่วโมงครึ่ง โดยที่แบตยังคงเหลืออยู่อีก 10%

 

      ถ้าอิงการใช้งานปกติอย่างการเล่น Facebook, Line เข้าเว็ป และเล่นเกมเป็นบางช่วงเวลา ก็สามารถอยู่ได้ถึงวันอย่างไม่ยากเย็นนัก

 

      ลองทดสอบ Work Battery Life ของ PCMard ที่จะทำการเปิดภาพ แก้ไข Doc เปิดเว็ป ดูหนัง สลับไปมาเรื่อยๆเพื่อทดสอบการความอืดของแบตเตอรีเครื่อง ซึ่งปกติแล้วตัวแอพจะบอกให้ปรับความสว่างที่ระดับหนึ่งไว้ (ใช้ปริมาณแสงเป็นตัวกำหนด) ซึ่งผมก็ไม่มีเครื่องมือวัดแสง จะให้ปรับตามที่แอพบอกก็ไม่ได้ เพราะงั้นก็เลยเปิดที่ความสว่างสุดสุดทิ้งไว้เลยดีกว่า ผลที่ได้ก็คือ 5 ชั่วโมงครึ่ง

 

      จากการลองเล่นที่ผ่านมาทั้งหมดสามสัปดาห์ ลองคิดการใช้งานคร่าวๆในขณะที่ใช้งานก็จะตกประมาณชั่วโมงละ 10%-20% (หมายความว่าถ้าเล่นเกมหนักๆตลอดเวลาก็อาจจะอยู่ได้ประมาณ 4-5 ชั่วโมง) เรียกได้ว่าใช้งานได้นานเอาเรื่องเหมือนกัน

  

อื่นๆและอื่นๆ

      WiFi รองรับ b/g/n และมองเห็นแค่ย่านความถี่แค่ 2.4GHz เท่านั้น ไม่รองรับ 5GHz (ที่ออฟฟิศแบ่ง WiFi เป็น 2.4GHz และ 5GHz เพื่อใช้งานแยกกัน)

 

      มี GPS + GLONASS ที่ทำงานได้ค่อนข้างดี จับตำแหน่งได้ดีพอสมควร แต่เมื่อเทียบกับ Moto X 2013 ก็อาจจะช้าและแม่นยำน้อยกว่านิดหน่อย (ไม่ได้แย่ แต่ Moto X มันจับตำแหน่งได้ดีโคตรๆ)

 

      Bluetooth เป็น 4.0 รองรับ Low Energy Profile ได้ แต่จะได้ใช้งานน้อยกว่ามือถือ เพราะว่าอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่เชื่อมต่อผ่าน Low Energy Profile มักจะต่อกับมือถือเป็นหลัก 

 

สรุปสเปคกันอีกครั้ง

  • OS Android 4.4 KitKat
  • CPU Intel Atom Z3560 Quad-core 1.8GHz 64-bit
  • GPU PowerVR G6430 
  • RAM 2GB
  • ROM 16/32GB รองรับ Micro SD Card ได้สูงสุด 64GB
  • Display หน้าจอ IPS LED ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด WUXGA 1920×1200 px รองรับ Multitouch 10 จุด และหน้าจอเคลือบสารลดรอยนิ้วมือ
  • Network 
    • SIM Type Micro SIM
    • 2G EDGE/GPRS : 850/900/1800/1900
    • 3G WCDMA : 800/850/900/1700/1900/2100
    • 4G LTE Cat4 : 800/850/1700/1800/1900/2100/2600
  • Connectivity
    • WiFi WLAN 802.11 b/g/n รองรับแค่ย่านความถี่ 2.4GHz เท่านั้น
    • Bluetooth 4.0 รองรับ Low Energy Profile
    • OTG รองรับ USB OTG
  • Camera
    • Back ความละเอียด 5MP (2560×1920 px) Autofocus และรองรับการถ่ายวีดีโอ 1080P 
    • Front ความละเอียด 2MP (1280×720 px) Fixed Focus และรองรับการถ่ายวีดีโอ 720P
  • Hardware
    • GPS+GLONASS
    • รองรับการสั่น
    • Dual Speaker ที่มาพร้อมกับ Sonic Master
    • Built-in Microphone
  • Sensor
    • Accelerometer
    • Gyroscope
    • Light Sensor
    • Magnetometer
  • Battery Li-Po 3950mA
  • Dimension 114.4 x 200 x 8.3 mm
  • Weight 279g

 

ข้อดี

  • สเปคแรงมากถึงมากที่สุด เหมาะสำหรับคอเกม
  • หน้าจอความละเอียดสูง สีโอเค และสู้แสงได้พอสมควร
  • ลำโพงคู่เสียงดังสะใจ
  • รองรับ 3G และ 4G ทุกเครือข่าย
  • แบตเตอรีใช้งานได้นาน
  • เหมาะแก่การพกพาสำหรับคนที่ชอบอ่าน E-Book บนนี้
  • ราคาอยู่ในช่วงที่ไม่สูงเกินไป และเมื่อเทียบกับเจ้าอื่นๆแล้วถือว่าเป็นตัวเลือกที่ดีมาก
  • อัพเดทเป็น Android 5.0 ได้แล้ว

 

ข้อเสีย

  • กล้องหน้าและกล้องหลังแค่พอถ่ายได้ ไม่เหมาะกับถ่ายในที่แสงน้อย
  • มัลติทัช 10 จุดก็จริง แต่ดันมีปัญหาเมื่อทัชเกิน 2 จุดขึ้นไป
  • ใช้ CPU Intel 64-bit แต่ตัวเฟิร์มแวร์กลับทำงานบน 32-bit เท่านั้น
  • ขอบด้านข้างของตัวเครื่องหนาไปนิดหน่อย

 

 

      โดยรวมถือว่าผมค่อนข้างรู้สึกโอเคกับตัวนี้เลยทีเดียว แล้วยิ่งราคาตอนนี้มีโปรโมชันลดราคาแล้วด้วยก็ยิ่งน่าสนใจไปใหญ่ เหมาะกับคนที่มีมือถือประจำตัวอยู่แล้ว แต่อยากได้ Android Tablet ซักตัวไว้พกพาเพื่อใช้งานบางอย่างที่ต้องใช้พื้นที่หน้าจอเยอะ แต่ก็ไม่อยากพกเครื่องหนักๆ ดังนั้น ASUS MeMO Pad 7 ตัวนี้จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียว (ติดอย่างเดียวคือมี Tablet 7 นิ้วตัวอื่นอยู่แล้ว)