Canon PowerShot V10 กล้องที่ออกแบบมาเพื่อสาย Vlog โดยเฉพาะ มีความเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก น้ำหนักเบา แต่เห็นจิ๋ว ๆ แบบนี้บอกเลยว่าฟีเจอร์ที่มากับกล้องนั้นแจ๋วไม่ใช่น้อย ทั้ง รองรับวิดีโอสูงสุด 4K, หน้าจอ Flip พลิกกลับไปมาได้, หยิบจับสะดวกมีขาพับในตัว, ไมโครโฟนรอบทิศทาง บันทึกเสียงได้รอบด้านแบบ 360 องศา วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท  

ดีไซน์น่ารัก กะทัดรัด พกพาง่าย

สำหรับสาย Vlog (แบบสายฉายเดี่ยว) ที่ต้องถือกล้องเพื่อทำคอนเทนต์ด้วยตัวเองคนเดียวอยู่บ่อยครั้งก็คงคำนึงถึงเรื่องนี้กันดี ซึ่ง Canon PowerShot V10 นี้มีน้ำขนาดบอดี้เพียง 63.4 x 90.0 x 34.3 มม. น้ำหนักเบาเพียง 211 กรัมเท่านั้น เรียกได้ว่าถือถ่ายวิดีโอทั้งวันก็ไหว (ถ้าแบตไม่หมดก่อนนะ) แถมขนาดกะทัดรัดเก็บใส่เป๋าง่ายมาก ๆ

หน้าจอ Flip ใช้งานเป็นจอนอก

ตัวเครื่องใช้เป็นจอสัมผัส LCD ขนาด 2 นิ้ว พลิกออกมาได้ 180 องศา จะถ่ายรูปหรือวิดีโอก็ไม่มีหลุด เพราะได้เห็นหน้าตัวเองในทุกช็อตที่ต้องการ

อีกทั้งยังมีขาตั้งที่ Build – In มากับตัวกล้องมาให้ ไม่จำเป็นต้องง้อขาตั้งแยก หรือพกขาตั้งเพิ่มให้วุ่นวาย จะใช้ตั้งบนพื้นหรือ จะนำมาใช้แขวนตามที่ต่าง ๆ แล้วถ่ายภาพด้วยมือเปล่าก็ได้ ส่วนปุ่มที่อยู่ใต้โมดูลที่เป็นวงกลสีแดง ๆ นี้จะเป็นปุ่มชัตเตอร์ค่ะ

ทางด้านข้างของเครื่องทางซ้ายมาพร้อมพอร์ต USB-C 2.0 ทางขวามีช่องเชื่อมต่อจอเสริมแบบ Micro HDMI และมีช่องต่อไมโครโฟนแยกขนาด 3.5 มมมาให้ และช่องใส่เมมโมรี่การ์ด (ใช้เป็น microSD Card แบบเดียวกับมือถือเลยล่ะ) มาพร้อมไมโครโฟนในตัวและแบตเตอรี่ที่ไม่สามารถถอดได้

Canon PowerShot V10 ถือแบบไหนได้บ้าง

จุดเด่นของเครื่องที่นอกจากจะเล็กกะทัดรัดแล้วนั้น ยังมาพร้อมขาตั้งแบบ Build – In มาให้ สามารถถือได้หลากหลายแบบเลยทีเดียว เผื่อใครอยากได้มุมกล้องเก๋ ๆ ตามสไตล์สาว Y2K จะได้ลองไปใช้กัน

วิดีโอ 4K เอาใจสาย Vlog

ในการทดสอบนี้จะทดสอบแบบการใช้งานหลักทั่วไป โดยตัวกล้องมีเลนส์มุมกว้างระยะทางยาวโฟกัส 19 มม. เก็บภาพได้กว้างโดยที่ไม่ต้องยืดแขนสุด ค่ารูรับแสงกว้างถึง f/2.8 เบลอฉากหลังได้เนียน และสามารถถ่ายภาพวิดีโอความละเอียดสูงสุด ระดับ 4K ได้ มาพร้อมฟังก์ชัน Aspect Markers ซึ่งจะแสดงกรอบภาพตามอัตราส่วนที่แตกต่างกัน สามารถปรับเฟรมให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มที่เราจะลงคลิป

โหมด Smooth Skin Movie ปรับผิวเรียบเนียน

เสริมความมั่นใจ หน้าเนียนใสแบบไม่โป๊ะด้วย โหมด Smooth Skin Movie มีให้เลือกปรับ 5 ระดับ ซึ่งจะช่วยให้ผิวเรียบเนียน ปกปิดร่องรอยอารยธรรมบนใบหน้า ผลที่ได้ออกมาคือดูสวยใสอย่างเป็นธรรมชาติ แบบเป็นสาวหน้าฉ่ำ แต่ก็จะเห็นสิวอยู่บ้าง ไม่ดูเนียนกริบเหมือนใช้แอปแต่งภาพจนเกินไป (แนะนำว่าปรับระดับ 3 คือกำลังดี เพราะถ้า 5 ภาพจะดูฟุ้งเกิน)

ปรับแต่งภาพ 14 โทนสี

ถ่ายสนุกด้วยโหมดปรับแต่งโทนสีของภาพที่มีให้เลือกมากถึง 14 โทนสี สามารถปรับแต่งให้เป็นไปตามอารมณ์ของตัววิดีโอในช่วงนั้น ซึ่งแต่ละตัวเลือกสีที่มีให้จิ้มนั้นจะละมุนแตกต่างกันออกไป มาพร้อมฟิลเตอร์ตัดแสงแบบอัตโนมัติ (ND) มาช่วยปรับความสว่างของฟุตเทจวิดิโอด้วย เวลาไปถ่ายตอนที่มีแสงจ้า ๆ ภาพก็จะไม่ออกมาสว่างเกินไป

ปรับแต่งภาพ 14 โทนสี
ทดสอบเปิด – ปิด ND Filter
ตัวอย่างการใช้ Filter

ไมโครโฟน บันทึกเสียงรอบด้าน 360 องศา 

รุ่นนี้นอกจากจะถ่ายภาพออกมาได้ดีเยี่ยมแล้วนั้น ยังมาพร้อมกับไมค์โครโฟนที่บันทึกเสียงรอบด้านแบบ 360 องศา เก็บเสียงได้แบบครบ ๆ ชัดเจน แบบที่ไม่ต้องใช้ไมค์เสริมให้ยุ่งยาก และถึงแม้ว่ารอบด้านจะมีเสียงรถผ่าน คนเดิน หรืออะไรก็ตาม ก็ยังสามารถเก็บรายละเอียดเสียงที่เราพูดได้ชัด จากการทดสอบก็จะดังชัดประมาณนี้เลย 

ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบดิจิทัล Movie Digital IS 

ในการทดสอบกันสั่น ซึ่งจะแบ่งเป็น 3 ระดับ เพื่อให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ทั้ง แบบไม่เปิดใช้งาน, เปิดใช้งานระดับกลาง และ ใช้งานในระดับ Enhanced ที่จะ Crop ภาพเข้าไปเล็กน้อยและได้คลิปที่นิ่งมากขึ้น โดยคลิปที่ได้ก็จะนิ่งและสั้่นไหวแตกต่างกันดังนี้ 

ปล.ความสั่นของภาพแตกต่างกัน เนื่องจากการเดินในแต่ละพื้นที่มีความขรุขระไม่เหมือนกัน

ปิด Movie Digital IS 
เปิด Movie Digital IS 
เปิด Movie Digital IS Enhanced

ฟีเจอร์ Face Tracking

ทดสอบถ่ายวิดีโอ ซึ่งตัวกล้องจะมีฟีเจอร์เด็ดอย่าง Face Tracking คือจะคอยจับใบหน้าขณะที่เราถ่ายไปมา อันนี้จะจับได้อย่างรวดเร็ว แต่เมื่อลองทดสอบถ่ายวัตถุจากระยะไกลไปในระยะใกล้ จะเห็นได้ว่าตัวโฟกัสอัตโนมัติจะแอบช้านิดนึง แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหากับการใช้งานทั่วไปมากนัก แนะนำว่าหากต้องการถ่ายวัตถุให้ปิด Face Tracking ก่อน ตัวกล้องจะจับภาพได้เร็วกว่า

Face Tracking
การโฟกัสวัตถุ

ส่งไฟล์ผ่านมือถือได้ง่าย 

เมื่อถ่ายวิดีโอเสร็จก็สามารถถ่ายโอนไฟล์มายังมือถือหรือแท็บเล็ตได้เลยซึ่งก็จะมีให้เลือกเป็น เชื่อมต่อกับมือถือ (แท็บเล็ต), เชื่อมต่อไร้สายระยะไกล และ อัปโหลดภาพลง image.com ซึ่งวิธีที่เราเลือกใช้ก็คือ เชื่อมต่อกับมือถือ (แท็บเล็ต) โดยมีขั้นตอน ดังนี้

  • เลือก Connect to Smartphone (Tablet)
  • สแกน QR Code ที่กล้องขึ้นภาพมาให้
  • กดดาวน์โหลดแอป Cannon Camera Connect
  • เลือกการเชื่อมต่อกับกล้องแบบ Bluetooth หรือ Wifi
  • กด Next เพื่อสแกนหามือถือเพื่อเชื่อมต่อ
  • กดจับคู่อุปกรณ์ตามเลขหมายที่ขึ้นบนมือถือ
  • จากนั้นก็จะมีให้เลือกตั้งค่า Wifi ให้เราแค่กดเลือกอินเทอร์เน็ตสำหรับใช้งาน (Wifi บ้านเรานี่แหละ) จากนั้นก็ใส่รหัส
  • เมื่อเชื่อมต่อเสร็จแล้วก็เลือก Import Movies เพื่อดาวน์โหลดวิดีโอได้เลย

แบตเตอรี่ ใช้งานนาน 

จากการทดสอบใช้งานแบตเตอรี่หลังจากชาร์จเต็ม 100% ทดสอบจากห้องแอร์ อุณหภูมิ 26 องศา และได้ถ่ายวิดีโอ 4K ยิงยาวจนล้องขึ้นแจ้งเตือนแบตใกล้หมดรวมแล้วเป็นเวลา 55 นาที และถ่ายวิดีโอแบบ FHD ได้ยาว ๆ เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 20 นาที เมื่อถ่ายไปได้สักพักเครื่องจะเริ่มอุ่นขึ้นและคงอุณหภูมิอยู่แบบนั้น (อาจจะเป็นเพราะตอนถ่ายอยู่ในห้องแอร์)

สรุปการใช้งาน

Canon PowerShot V10 เป็นกล้องจิ๋วที่ให้การใช้งานมาได้แบบครบครันเลยทีเดียว ใครที่เป็นสาย Vlog หรือเดินทางไปเที่ยวบ่อยแล้วต้องการเก็บภาพ บรรยากาศปัง ๆ แบบความละเอียด 4K เก็บเสียงได้ชัด ๆ ก็หยิบมาใช้งานได้ทันที อีกทั้งยังมีน้ำหนักที่เบาและขนาดที่เล็กแบบมือเดียวถือสบาย ๆ พร้อมใช้งานถ่ายได้ยาวนาน แต่เสียดายที่ไม่กันน้ำกันฝุ่น จะนำไปใช้งานแบบสมบุกสมบันไม่ได้ แต่โดยรวมแล้วถือว่าโอเคเลยสำหรับฟีเจอร์ที่ให้มากับราคาที่ตั้งไว้

ข้อดี

  • รองรับวิดีโอ 4K
  • มีกันสั่นมาให้ 3 ระดับ
  • น้ำหนักเบา ขนาดเล็ก ถือหรือเก็บง่าย
  • จอ LCD สัมผัส พับได้ 180 องศา ทำให้เราเห็นหน้าตัวเองตอนถ่ายวิดีโอได้สะดวก
  • เชื่อมต่อไวไฟ หรือ Bluetooth เพื่อส่งรูปไปยังมือถือได้ง่าย
  • ไมค์เก็บเสียงได้ดี ไม่ต้องใช้ไมค์เพิ่ม
  • มีขาตั้งในตัว ใช้งานง่ายขึ้น ไม่ต้องซื้อขาตั้งเพิ่ม

ข้อสังเกต

  • ไม่กันน้ำ กันฝุ่น
  • ไม่มีโหมดโฟกัสวัตถุ จึงทำให้โฟกัสช้า
  • แบตเตอรี่ไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้

ราคาจำหน่าย

Canon PowerShot V10 มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ สีดำและสีเงิน วางจำหน่ายในราคา 15,990 บาท สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ที่ร้านค้าจำหน่ายอย่างเป็นทางการ