ในที่สุด Huawei ก็เอาซีรี่ส์ nova ตัวใหม่ มาสานต่อสิ่งที่ nova 2i สร้างเอาไว้เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่การมาครั้งนี้ของ nova 3e นั้นมีการอัพเกรดหลายๆ ส่วนเพื่อตอบโจทย์ตลาดในปัจจุบันมากขึ้น ทั้งการเลือกใช้กล้องหน้าความละเอียดสูง และระบบ software ในการถ่ายภาพเซลฟี่ให้ดูสวยงามเป็นธรรมชาติมากขึ้น แถมยังมาในบอดี้ใหม่สวยงามสไตล์ P20 แล้วแบบนี้จะรออยู่ทำไม มารีวิว Huawei nova 3e ไปพร้อมๆ กันเลย

แกะกล่อง Huawei nova 3e

เครื่องทดสอบที่เราได้มารีวิวนั้นมาแบบยกกล่องครับ อุปกรณ์ข้างในกล่องมีมาให้ค่อนข้างครบ คือตัวเครื่อง nova ชุดหูฟังพร้อมไมโครโฟน สาย micro USB และหม้อแปลงที่รองรับ Quick Charge 2.0 จ่ายไฟได้ที่ 5V 2A / 9V 2A อันนี้เป็นข้อดีเลย เพราะแบตเตอรี่ของ nova 3e ก็ไม่ใช่เล็กๆ มีชาร์จเร็วมาก็ช่วยให้ไปต่อได้เร็วขึ้น (แต่ผมไม่แน่ใจว่าชุดขายจริงนั้นอาจจะมีเคสแถมมาให้ด้วยหรือเปล่า อันนี้ขอติดเอาไว้ก่อน)

 

สเปคและดีไซน์

จาก nova 2i มาถึง nova 3e นั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปเยอะพอสมควร หากจะลองเปรียบเทียบกันดูแล้วก็มีตั้งแต่หน้าจอที่เปลี่ยนไป จากที่เคยเป็น FullView ปกติ พอเป็น 2.0 แล้วมีการยักคิ้ว แหวกหน้าจอซ้ายและขวาขึ้นไปจนมีติ่งกล้องอยู่ตรงกลาง ซึ่งงานนี้หลายๆ คนคงชินกันไปแล้ว เพราะแบรนด์จีนหลายค่ายเดินมาเส้นทางนี้กันหมด และเนื่องจาก nova 3e นั้นเป็นรุ่นที่มีต้นแบบคือ P20 เราะฉะนั้นหน้าตามันก็จะคล้ายกันมาก

แน่นอนว่าในเรื่องความสวยงามก็ได้รับสืบทอดมาจากรุ่นพี่ด้วย วัสดุของ Huawei nova 3e นั้นเป็นการใช้เฟรมโลหะผสมกับฝาหลังที่เป็นกระจก โดยมีการเคลือบเงาสะท้อนสวยงาม สีดำในรุ่นนี้ทำออกมาแบบดำสนิท

ส่วนสีน้ำเงินนั้นมีความสะท้อนเงาเหมือนน้ำทะเล ส่วนสีชมพูผมยังไม่เห็นของจริง ยังไม่ขอคอมเม้นท์ แต่ถ้าเป็นชมพูเดียวกับ P20 ก็น่าจะเป็นสีนมชมพู (อย่าคิดลึก) หมายถึงสีนมเย็นอ่อนๆ

ส้วนเฟรมตัวเครื่องเป็นโลหะ ซึ่งออกแบบมาเป็นรูปทรงโค้ง เวลาจับก็จะโค้งเข้ากับมือ ส่วนพอร์ตด้านล่างจากซ้ายไปขวา (ตามภาพ) คือช่องหูฟัง 3.5 มม , USB C, ไมโครโฟน และลำโพง

ปุ่มพาวเวอร์และปุ่มปรับเสียงที่อบยู่ฝั่งขวานั้นจะอยู่สูงขึ้นไปด้านบนหน่อย เวลาจะกดนี่อาจจะต้องจับตรงกลางเครือง เนื่องจากพอเป็นหน้าจอแบบ 18:9 แล้วตัวมือถือมันจะยืดขึ้นไปอีก

ส่วนทางด้านซ้ายค่อนไปทางหัวเครื่องนั้นเป็นช่องถาดซิม ซึ่งหากจิ้มออกมาแล้วก็จะเห็นถาดซิมแบบไฮบริด

จะเลือกใช้งานเป็น SIM + SIM หรือ SIM + micro SD อันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธา แต่ด้วยความที่ nova 3e ใช้ Kirin 659 เหมือนกับ nova 2i

การใช้งานในระบบ 2 ซิมนั้นก็จะยังเป็นการจับคู่แบบ 4G/3G + 2G เรียกว่าซิมหลักเกาะได้สูงสุด 4G ส่วนซิมรองเกาะได้สูงสุดคือ 2G นะครับ

สีสันบนหน้าจอ Full HD+ ของ Huawei nova 3e รวมถึงความคมชัดนั้นใช้ได้ จะปรับขนาดของตัวหนังสือให้เล็กหรือใหญ่ความคสของเส้นและไอคอนก็ยังไม่เสีย ส่วนกล้องหน้าที่เห็นอยู๋ด้านบนนั้นรุ่นนี้จัดเต็ม ความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล แล้วยังมีระบบสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคเครื่องด้วย

ส่วนกล้องหลังคู่นั้นเป็น 16 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล สำหรับการถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ ซึ่งเป็นแบบที่เราสามารถจะเปลี่ยนจุดโฟกัสและระดับความเบลอหลังการถ่ายภาพได้ ตรงกลางนั้นเป็นเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

 

UI และการใช้งาน

ชิป Kirin 659 นั้นก็ผ่านการทดสอบมาหลายรุ่นแล้ว ถือเป็นชิประดับกลางของ Huawei ที่มีประสิทธิภาพน่าพอใจครับ ทำงานร่วมกับ EMUI 8.0 บน Android 8.0 ได้ลื่นไหล ไม่มีปัญหาอะไร ดูเนียนตากว่าตอน nova 2i ซะอีก จะปัดหรือลากตรงไหนก็ลื่นๆ ดูแถบแจ้งเตือน เลื่อนหน้าจอไปมาก็สบายๆ

ส่วนของหน่วยความจำในตัวเครื่องนั้นก็มีมาให้จุใจ 128GB เปิดมาใช้งานแรกๆ เลยจะเหลือประมาณ 113GB หลังจากลองลงแอปลงเกมโหดๆ ไปบ้าง พร้อมกับถ่ายรูปถ่ายคลิปไประหว่างที่รีวิว nova 3e

เปิดมาเช็คอีกที ก็ยังเหลือตั้ง 107GB คือถ้าไม่โหลดหนังโหลดเพลงมาไว้ในเครื่องนี่ ยังไงก็ไม่เต็มง่ายๆ แน่นอน

ส่วนฟีเจอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งหน้าจอ Multi Windows นั้นก็สามารถทำได้ ตอนนี้เป็นความสามารถขั้นพื้นฐานของ Android ไปแล้ว มี Dual Apps แยกร่างแอปแชทและโซเชี่ยลต่างๆ ในเครื่องเป็น 2 แอคเคาท์ได้ จับภาพหน้าจอได้ทั้งแบบปกติ แบบยาว หรือจะจับแล้วเอามาตัดแต่งทีหลังก็สะดวก นอกจากนั้นก็ยังสามารถ Lock App ไม่ให้คนอื่นมาเปิดเล่นได้ แม้จะไม่ได้ใส่รหัสล็อคหน้าจอ

ระบบความปลอดภัยนั้นนอกจากเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังแล้ว ยังมีระบบสแกนใบหน้าด้วย ซึ่ง nova 3e ซึ่งจากที่ทดลองก็ถือว่าแม่นยำใช้ได้

ระยะเวลาในการปลดล็อคอาจจะไม้ได้ปรู้ดปร้าด แบบยกปุ๊บปลดล็อคปั้บ ตีซะว่ายกขึ้นมาเห็นหน้าเรา 1 วิ มันก็จะปลดล็อคให้เลย แต่ชอบตรงที่หากเราไม่ได้ลืมตา มันจะไม่ยอมปลดล็อคให้ เพิ่มความปลอดภัยให้อีกระดับ ไม่ต้องกลัวใครแอบเอามือถือมาส่องหน้าตอนหลับแน่นอน อิอิอิ

 

ประสิทธิภาพและการเล่นเกม

ชิป Kirin 659 บน nova 3e ที่ทดสอบบน EMUI 8.1 นั้นสามารถทำคะแนนไปได้ 87001 คะแนน ส่วนหน่วยความจำภายใน 128GB นั้นใช้เป็น eMMC ครับ ความเร็วในการอ่านคือ 280MB/s และความเร็วในการเขียน 95MB/s

พอลองเอามาเล่น ROV ดูนั้น หากเปิดกราฟิคสูงสุดในโหมดปกติ ก็สามารถเล่นได้ เฟรมเรทไม่หล่นมาก วิ่งนิ่งๆ ที่ 30 เกือบตลอดเกม ยกเว้นตอนทีมไฟต์โหดๆ

พอลองกดสูตรเปิดโหมดเฟรมเรทสูงนั้น เอ้ย! เล่นได้เหมือนกัน แม้จะดันไปไม่สุดที่ FPS 60 แต่โดยรวมภาพก็ลื่นและเนียนตาขึ้น ค่าเฉลี่ยทั้งเกมน่าจะประมาณ 35-40 ครับ ซึ่งเอาจริงๆ ก็ไม่ได้สูงมากนัก เพื่อการใช้งานที่ยาวนานขึ้นก็อย่าเปิดจะดีกว่า เพราะการเปิดโหมดเฟรมเรทสูงมันก็เปลืองแบตมากขึ้นด้วย

ส่วน PUBG เปิดเข้ามาก็โดนกำหนดค่ากราฟิคเอาไว้น้อยที่สุดเลย กราฟิคก็จะหยาบนิดๆ แต่ความลื่นไหลในเกมยังถือว่าดีอยู่ จับทีมดีๆ ระวังหลังกันก็ยังสามารถไปปาตี้กินไก่ได้นะ

ตัวเครื่อง nova 3e นั้นรองรับ Project Treble ด้วย ซึ่งนั่นหมายถึงการอัพเดท Android สามารถทำได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็แล้วแต่ผู้ผลิตว่าจะปล่อยอัพเดทมาเมื่อไหร่  GPS นั้นจับสัญญาณได้รวดเร็วดี มองเห็นดาวเทียมหลายดวงพร้อมเข็มทิศ แต่เซนเซอร์ที่ขาดไปคือ Gyroscope ซึ่งจะส่งผลในการเล่นเกมประเภท AR และ VR

 

กล้อง Huawei Nova 3e

กล้องหลังคู่ของ Huawei nova 3e นั้นนอกจากโหมดถ่ายภาพแบบ Auto ทั่วไปแล้ว ก็ยังมีโหมดและลูกเล่นต่างๆ อีกเพียบ

แค่ปัดนิ้วจากซ้ายไปขวา ก็จะเป็นการเปิดโหมดกล้องทั้งหมดออกมาให่้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ HDR, ถ่ายวิดีโอ, ภาพพาโนรามา หรือฟิลเตอร์สีต่างๆ โหมดเลนส์ AR และโหมดโปร

ขอแวะที่โหมดโปรแป้บนึง ในรุ่นnova 3e เราสามารถปรับตั้งค่า ISO ได้สูงสุดที่ 3200 ครับ ส่วนชัตเตอร์สามารถเปิดค้างได้นานที่สุด 8 วินาที แต่ถ้าหากเราใช้โหมดถ่ายภาพกลางคืน + ขาตั้งกล้องนี่ ระยะเวลาของชัตเตอร์ในโหมดอัตโนมัติจะสามารถยืดได้นานกว่านั้น

กรณที่เราเปิดโหมด All Focus ที่เป็นสัญลักษณรูรับแสงในการถ่ายภาพนั้น เราสามารจะมาปรับเปลี่ยนจุดโฟกัสและระดับของรูรับแสงได้ เพื่อจำลองการเบลอว่าจะให้หนาหรือบางแค่ไหนใน Gallery

และยังสามารถเลือกใช้เอฟเฟคต่างๆ ทำให้วัตถุหลักในภาพดูโดดเด่นขึ้นมาได้อีก

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง nova 3e

 

แต่ไม่ใช่แค่กล้องหลัง เพราะงานนี้ทาง Huawei เองก็เน้นกล้องหน้าของ nova 3e ออกมาเป็นพิเศษ นอกจากความละเอียดที่ขยับขึ้นมาเป็น 24 ล้านพิกเซลแล้ว ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ Light Fusion เพิ่มความสามารถในการเก็บแสงหากแสงไม่พอ

และมีระบบ Nude Makeup ตรวจจับใบหน้าแยกส่วนต่างๆ ออกเป็น 96 จุด เพื่อปรับแต่งให้เนียนสวยดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น

แม้กล้องหน้าจะไม่มาเป็นคู่เหมือน nova 2i แต่ก็ยังสามารถเบลอหลังหรือถ่ายภาพแนว Portrait ได้ด้วยซอฟต์แวร์ในการคำนวนวัตถุ

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า nova 3e

 

ความสนุกของ Huawei nova 3e ยังไม่หมด เพราะโหมด AR Lens นั้นถ้าเทียบกับรุ่นอื่นๆ มันก็คงไม่แตกต่างเท่าไหร่ เพาะมันก็มีสติ๊กเกอร์ AR ทำหน้าหมูแมวหมาได้เหมือนกัน

แต่บน nova 3e นั้นนอกจากจะมีภาพพื้นหลังหลายแบบแล้ว เรายังสามารถเลือกภาพพื้นหลังเองได้ ทำใหเ้ราสามารถจะวาร์ปตัวเองไปอยู่ที่ไหนก็ได้ หรือจะถ่ายรูปกับตัวเองยังได้เลย

ภาพจากการลองเล่น AR Lens

ซึ่งการถ่ายภาพ AR Lens นั้นหากเราอยากจะไปแทรกตัวในภาพอื่นๆ หรือมีการเปลี่ยนพื้นหลังเองแล้วละก็ พยายามหามุมดีๆ มันจะได้ตัดขอบออกมาสวยๆ ครับ จะเห็นว่าภาพที่ถ่ายกับแมวนั่นจะมีพื้นหลังติดเข้ามาด้วย

 

สเปค Huawei nova 3e

  • หน้าจอ IPS 5.84 นิ้ว FullView Display 19:9 ความละเอียด Full HD+ 2280 x 1080
  • ชิปประมวลผล (CPU) Kirin 659 octa-core 4×2.36GHz + 4×1.7GHz
  • ชิปกราฟิค (GPU) Mali T830-MP2
  • หน่วยความจำ RAM 4GB / ROM 128GB
  • กล้องหลังคู่ ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล f/2.2 + 2 ล้านพิกเซล + LED แฟลช
  • กล้องหน้า ความละเอียด 24 ล้านพิกเซล f/2.0
  • แบตเตอรี่ความจุราวๆ 3000 mAh
  • Android 8.0 + EMUI 8.1
  • สีดำ Midnight Black, สีน้ำเงิน Klein Blue, สีชมพู Sakura Pink
  • ราคาเปิดตัว 10,900 บาท

สรุปการใช้งานโดยรวม

Huawei nova 3e ถือเป็นมือถืออีกรุ่นนึ่งที่ให้ฟีเจอร์ในการใช้งานมาครบในช่วงราคาประมาณหมื่นนึง ได้หน้าจอสวย FullView 2.0 (หากไม่ชอบติ่งก็กดปิดถมดำได้) กล้องหลังคู่ All Focus ถ่ายเบลอหลังง่าย เพราะไม่ต้องเล็งอะไรเยอะ กดพลาดก็ยังไปแก้ไขในแกลลอรี่ได้ แต่ความคมชัดก็จะลดลงไปนิดหน่อยจากโหมด Auto

ส่วนกล้องหน้า 24 ล้านก็ถือว่าทำได้ดีในการเป็นกล้องเซลฟี่และกล้องบิวตี้ แต่จะติดก็ตรงที่มันถ่ายภาพหน้าสดออกมาไม่ค่อยจะสมจริง คือลองพยายามปิดหมดทุกอย่างแล้ว ก็ยังออกมาขาว ใส ปากชมพู อันนี้ไม่รู้จะแก้ยังไง แต่บางคนก็อาจจะชอบเนอะ

หน่วยความจำที่ให้มา 128GB นั้นมากเกินพอเรียกว่าไม่ต้องใส่ micro SD ยังได้ น่าเสียดายนิดนึงที่ตัวเครื่องยังไม่รองรับการใช้งาน 3G ในซิมรอง ซึ่งหากใครที่ใช้ซิมรองเป็นเครือข่าย 3G (อย่างเช่น My by CAT) ก็จะต้องคิดหนักหน่อย

แบตเตอรี่ 3000 มิลลิแอมป์จากเช้าจรดเย็นไม่ได้มีปัญหาอะไร จากที่ลองมายังไม่เคยเจอหมดระหว่างวันเลย แถมรุ่นนั้ยังรองรับ Quick Charge 2.0 ชาร์จเร็ว แบตก็จะเต็มเร็ว และหามี power bank รองรับชาร์จเร็ว ก็สามารถใช้กับ nova 3e ได้ สบาย

 

Huawei nova 3e นั้นจะเริ่มวางขายในวันที่ 24 พฤษภาคมนี้ ใครที่ทำการจองไปก่อนหน้านี้ก็จะได้ของแถมคุ้มๆ ไปด้วยทั้งหูฟังบลูทูธและเครื่องชั่งน่้ำหนัก ส่วนใครจองไม่ทันเห็นว่าในงาน Mobile Expo น่าจะมีโปรโมชั่นและของแถมเพียบเหมือนกันครับ