ใครที่กำลังมองหามือถือระดับเรือธงเครื่องแรง ๆ สเปคจัดเต็ม แต่มีราคาที่จับต้องได้ไม่ยาก ตอนนี้ motorola edge 30 Pro ดูจะเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยล่ะ เพราะมันเป็นมือถือที่จัดสเปคมาให้แบบเต็มที่ทั้งหน้าจอ AMOLED สวยสดรีเฟรชเรทสูง 144Hz, ชิป Snapdragon 8 Gen 1, กล้องหลังถ่ายวิดีโอ 8K แถมยังมีโหมด Ready For สำหรับต่อกับหน้าจอเพื่อใช้งานเป็น PC ได้อีกต่างหาก…ทั้งหมดนี้ถูกอัดอยู่ในมือถือราคา 22,999 บาทเท่านั้น ซึ่งหากใครอยากรู้ว่ามันจะมีดีแค่ไหน มาดูรีวิวการใช้งานจริงกันได้เลยครับ

แกะกล่อง ของแถมครบ

ในกล่องของ motorola edge 30 Pro ให้อุปกรณ์มาแบบเกือบครบอยู่แล้ว ทั้งเคสใส, สายชาร์จ USB-C > USB-C, หัวชาร์จ 68W และยังมีหูฟัง USB-C มาด้วย แต่ขาดอย่างเดียวคือไม่มีฟิล์มกันรอยให้มา (แหม่…เกือบครบอยู่แล้วเชียว)

ดีไซน์เครื่องเรียบหรูดูดี หน้าจอสวยรีเฟรชเรทไหลลื่น

moto edge 30 Pro มีหน้าจอขนาด 6.7 นิ้ว และตัวเครื่องขนาด 163.1 x 76 x 8.8 มม. ซึ่งไม่ใหญ่และไม่หนักเกินไป ยังพอเอาใส่กระเป๋ากางเกงได้แบบไม่แกว่งตีขามากนัก โดยน้ำหนักตามข้อมูลอยู่ที่ 196 กรัม เหตุผลที่น้ำหนักไม่ขึ้นไปแตะ 200 กรัม ส่วนนึงน่าจะมาจากเฟรมที่เป็นโพลีคาร์บอเนต

ตัวเครื่องด้านหลังมีขอบโค้งเข้าอุ้งมือ ฝาหลังใช้กระจก Gorilla Glass 5 ผิวสัมผัสด้านลูบแล้วรู้สึกเหมือนทรายละเอียด แต่ไม่สากมือ และยังซ่อนเอาสีน้ำเงินเข้มที่ไล่เฉดสะท้อนแสงออกมาได้แบบน่าแปลกใจ

หน้าจอใช้พาเนลชนิด AMOLED ความละเอียดระดับ FHD+ (1080 x 2400) อัตราส่วน 20:9 รองรับการแสดงผลแบบ HDR10+ และรองรับรีเฟรชเรทสูงสุดถึง 144Hz แต่แอบแปลกใจที่เลือกใช้ Gorilla Glass 3 ทั้งๆ ที่ฝาหลังเป็น Glass 5 และ Moto ยังตัดสินใจใช้เซนเซอร์สแกนนิ้วมือที่ปุ่มพาวเวอร์ ไม่ได้ฝังไว้ใต้จอ AMOLED

รีเฟรชเรทของ moto edge 30 Pro สามารถเลือกได้ระหว่าง 60Hz / 144Hz และ Auto ที่จะใช้ระบบ AI ในการปรับรีเฟรชเรทที่เหมาะสมกับการใช้งานในขณะนั้น

สเปคแรงจัดจ้าน เล่นเกมลื่น

ด้วยชิป Snapdragon 8 Gen 1 พร้อม RAM ขนาด 8GB แทบไม่ต้องบอกเลยว่าสามารถใช้งานได้ทุกอย่างแบบลื่น ๆ ในปัจจุบันแล้ว ส่วนการเล่นเกมฮิต ๆ ในปัจจุบันก็ไม่มีปัญหาลื่นปรื๊ด ๆ ทุกเกมแม้จะปรับค่ากราฟิกไปที่สูงสุดก็ตาม นอกจากนี้ยังมีโหมด High Performance ให้ปรับเพื่อเร่งพลังตอนเล่นเกมอีกด้วย ทดสอบด้วย Genshin Impact ปรับภาพระดับ Highest ก็เล่นได้สบายแฮ (แต่เล่นไปได้ซัก 10 นาที เครื่องก็เริ่มอุ่น ๆ ทะลุเคสมาหน่อย)

แน่นอนว่าถ้า Genshin Impact เล่นได้สบาย ๆ แล้ว เกมกราฟิกงามอื่น ๆ ทั้ง PUBG New State หรือ Dead by Daylight ก็สามารถเล่นที่กราฟิกสูงสุดได้แบบลื่นปรื๊ดหายห่วงไปเลยจ้า

ROV ก็ปรับสุดได้ทุกโหมด เนียนๆ ลื่นก ทัชดีเลย พร้อมกับ Game Mode ที่เลือกปรับตั้งค่าได้อีกเยอะ

ลำโพงคู่ระบบ Dolby Atmos 

motorola edge 30 Pro มีลำโพงสเตอรีโอมาให้พร้อมกับระบบเสียง Dolby Atmos มาให้ด้วย ซึ่งจากการทดสอบเปิดเพลง / วิดีโอเร่งเสียงจนสุดก็ไม่มีอาการแตกพร่าหรือเสียงเพี้ยนให้ได้ยินครับ ส่วนระดับความดังก็ระเบิดระเบ้อตามสไตล์ลำโพงของ Moto แต่ด้วยความที่มันเปิดเป็นระบบ Dolby Atmos ตลอดเวลา ไม่สามารถปิดได้ ในบางครั้งเราอาจจะรู้สึกว่าเสียงมันไม่ได้ยิงตรงๆ เข้าหู เพราะมันเน้นมิติมากกว่า

กล้องหลังความละเอียดสูง 50 MP

ชุดกล้องหลังทั้ง 3 ตัว ประกอบไปด้วยเซนเซอร์หลัก 50MP ที่มีระบบกันสั่น OIS + กล้อง Ultrawide ความละเอียด 50MP เช่นเดียวกัน และสุดท้ายคือกล้องจับความลึก 2MP

จากทดลองถ่ายมาพบว่าภาพนั้นมีความคม และเก็บรายละเอียดได้ดีในสภาพแสงปกติทั่วไป ไวท์บาลานซ์ดี ภาพคมตามสไตล์ Moto แต่ดูเหมือนว่าจะติด Tint แดงมาพอสมควร โดยเฉพาะ Food Mode นี่จะเห็นชัดว่าสีค่อนข้างเข้ม เช่นเดียวกับกล้อง Ultrawide โดยเฉพาะภาพมาโครที่สลับมาใช้กล้อง Ultrawide ถ่ายแบบ close up ก็ใช้ได้

 

จุดที่ยังด้อยอยู่น่าจะเป็นฝั่งของ Software ในการประมวลผลภาพถ่ายโดยเฉพาะเวลาแสงน้อยหรือโหมดกลางคืน ที่ยังคงเห็น grain ในภาพ เรียกว่ายังดึงความสว่างและจัดการ noise ได้ไม่เท่ากับบรรดาสมาร์ทโฟนในกลุ่มเรือธง

ปรับบิวตี้แล้วหน้าจะออกแดง ๆ นิดหน่อย (ไม่ได้เขินนะ…)

สำหรับกล้องเซลฟี่จัดมาให้แบบเต็ม ๆ ด้วยความละเอียดที่สูงถึง 60MP แต่ก็ไม่ได้มีฟีเจอร์ให้เล่นมากนัก มีแค่ Portrait Selfie และโหมดบิวตี้ที่เลือกปรับระดับความเนียนของหน้าได้เท่านั้น

 

โหมดถ่ายวิดีโอ

Moto Edge 30 Pro รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ 8K 30fps และ 4K 30fps หากต้องการถ่ายแบบเฟรมเรทสูง 60fps นั้นจะได่แค่ระดับ FHD เท่านั้น หากต้องการเปิด HDR10+ จะจำกัดอยู่ที่ 4K 30fps ครับ (มีฟีเจอร์ Audio Zoom สำหรับการซูมเพื่อบันทึกเสียงของวัตถุให้ชัดเจนกว่าเสียงรอบข้างด้วยนะ)

Play video

Play video

Play video

Play video

ถ่ายวิดีโอความละเอียด 8K เปิดโหมดกันสั่นไม่ได้นะครับ

โหมด Ready For ต่อจอใช้เป็น PC / ส่งไฟล์ไปมาระหว่างมือถือ – PC

จุดเด่นอีกอย่างที่ทำให้มือถือรุ่นนี้น่าใช้ก็คือโหมด Ready For ที่จะเปลี่ยนให้ motorola edge 30 Pro กลายเป็น PC ได้ แค่หาสาย USB-C > HDMI ไปเสียบกับทีวีหรือมอนิเตอร์ โหมด Ready For ก็จะเด้งขึ้นมาให้เราเลือกว่าจะใช้ Mirror หน้าจอมือถือ, ใช้โหมด Desktop หรืออื่น ๆ

ใช้ Desktop Mode ที่จะเปลี่ยน UI ให้เหมือนกับหน้า Desktop ของคอมพิวเตอร์ ซึ่งเราสามารถต่อคีย์บอร์ด + เม้าส์ไร้สายเข้ากับมือถือใช้งานได้เลย (ถ้ามี USB-C Hub ก็ใช้แบบมีสายได้เหมือนกัน) หรือว่าจะใช้หน้าจอมือถือเป็น Track Pad / คีย์บอร์ดเอาก็ได้เหมือนกัน

โหมด Desktop

เรายังสามารถเชื่อมต่อ motorola edge 30 Pro เข้ากับ PC เพื่อใช้งาน Desktop Mode บนหน้าจอคอมได้อีกด้วย ซึ่งฟีเจอร์นี้นอกจากจะทำให้เราใช้งาน Desktop Mode ได้แล้ว มันยังช่วยให้การรับส่งไฟล์ระหว่างมือถือกับ PC เป็นอะไรที่ง่ายกว่าเดิม แค่ลากไปมาเหมือนย้ายไฟล์ระหว่าง Folder เลย

Desktop Mode บนหน้าจอ PC

โดยโหมดนี้จะรองรับทั้งการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่าน WiFi หรือจะใช้สาย USB-C เอาก็ได้ แต่ถ้าจะใช้จริง ๆ ก็แนะนำว่าต่อสายเอาจะดีกว่า เพราะแบบไร้สายหากเจอสัญญาณกวนก็อาจจะดีเลย์ได้

 

แบตเตอรี่สุดอึด พร้อมชาร์จไว เต็ม 100% ในเวลาไม่ถึง ชม.

แบตเตอรี่ของมือถือรุ่นนี้ใส่มาให้ที่ 4800 mAh ซึ่งดูเหมือนจะเป็นขนาดที่ธรรมดา ๆ สำหรับมือถือเรือธงยุคนี้ไปแล้ว แต่จากการทดสอบความอึด พบว่า motorola edge 30 Pro อยู่ในขั้นดีมากเลยล่ะ ถ้าหากใช้งานทั่วไปต่อ WiFi เวลาอยู่บ้าน / ออฟฟิศ ใช้ 5G เวลาออกข้างนอก ท่องเว็บ ไถโซเชียล แชท ดูคลิป เล่นเกมนิด ถ่ายรูปหน่อย กลับบ้านแบตยังเหลือเฟือใช้ต่อได้อีกวัน

และลองเอามาทดสอบเปิดวิดีโอความละเอียด 1080p จาก YouTube เชื่อมกับ WiFi ความสว่างหน้าจอ 60% และเสียงจากลำโพง 60% พบว่าเล่นวิดีโอต่อเนื่องไปแบบยาว ๆ ถึง 11 ชม. แต่แบตเตอรี่ยังเหลืออยู่ถึง 26% เลยทีเดียว ส่วนระบบชาร์จไว 68W ก็บอกเลยว่าเร็วแบบเหลือ ๆ เพราะลองชาร์จแบตเตอรี่จาก 5% – 100% ได้ในเวลาราว ๆ ครึ่งชม. นิด ๆ เท่านั้น

สรุป

ข้อดี

  • หน้าจอสวย รีเฟรชเรทสูง ไหลลื่นติดนิ้ว
  • สเปคแรงจัด ไม่เสียชื่อมือถือเรือธง
  • แบตเตอรี่อึดจริงจัง
  • ชาร์จไว 68W เร็วเหลือเฟือ
  • โหมด Ready For ใช้ง่าย มีหลายรูปแบบให้ใช้งาน
  • เครื่องไม่ใหญ่เทอะทะ และไม่หนักมาก
  • ลำโพง Dolby Atmos ให้มิติดี

ข้อสังเกต

  • กล้องคมดี ติดแดงไปหน่อย น่าจะถ่ายแสงน้อยได้ดีกว่านี้
  • โหมด Ready For ต่อกับ PC แบบไร้สายหากโดนสัญญาณกวนก็อาจจะหลุดได้

motorola edge 30 Pro เป็นมือถือระดับเรือธงที่พอเล่นไปเล่นมาแล้ว มันเล่นเกมได้ดีมาก ๆ ตัวนึง เรียกว่าเป็นเกมมิ่งโฟนสเปคเทพในราคา 22,999 บาท เลยก็ได้ สเปคจัดเต็มจอสวยจอลื่น แบตเตอรี่สุดอึดพร้อมชาร์จไวไม่ถึง ชม. เรื่องกล้องอาจจะยังแค่พอเทียบรุ่นได้ แต่ไม่ได้โดดเด่นจนเป็นจุดขายเหมือนค่ายอื่น ๆ โดยเฉพาะการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ส่วนโหมด Ready For นั้นออกแบบมาได้ดี ครบ และยังสามารถใช้งานไร้สายได้กับพวกทีวีทุกค่าย นับว่าเป็นมือถือ Snapdragon 8 Gen 1 ที่คุ้มค่าตัวรุ่นนึง และเชื่อว่าแฟน ๆ Moto ก็จะไม่ผิดหวังครับ