นอกเหนือจาก Galaxy Note 5 ที่ทาง Samsung โหมกระหน่ำโปรโมตไปก่อนหน้านี้ เพื่อนๆน่าจะพอรู้อยู่แล้วว่ามันมีฝาไม่แฝดที่เกิดมาพร้อมๆกันในงาน IFA ที่แม้ด้านนอกจะไม่เหมือนกันซะทีเดียว และไม่มีปากกา แต่สเปคภายในแทบจะยกทั้งยวงมาทั้งหมด นั่นก็คือ Galaxy S6 Edge Plus ซึ่งหลังจากที่ลองใช้งานมา 1-2 สัปดาห์ เราเลยขอเอาเจ้าน้องชายที่ตัวใหญ่กว่าพี่ มาบอกเล่าประสบการณ์ใช้งานให้ได้ฟังกัน

Play video

**บอกไว้ก่อน** นี่เป็นการบอกเล่าประสบการณ์ที่ได้ลองเล่นอยู่สักพัก ไม่ใช่รีวิวที่จัดเต็มหรือทดสอบลงลึกในหลายๆประเด็นนะ ถ้าเอาแบบละเอียดๆรอติดตามในตอนต่อๆไปครับผม 🙂

บอกเล่าประสบการณ์ใช้งานจากสเปคของ Samsung Galaxy S6 Edge+

 Galaxy S6 Edge Plusประสบการณ์ที่เจอ
ราคา26,900 บาทแพงไม่แพงไม่รู้ กระเป๋าแต่ละคนหนาไม่เท่ากัน แต่หาโปรส่วนลด และของแถมกันให้ดีๆ เห็นออกมากันให้เพียบ
OSAndroid 5.1 (Lollipop)อยู่ในแผนอัพเกรดขึ้นเป็น Marshmallow เร็วๆนี้
CPUExynos 7420 Octa-core (Quad 2.1Ghz + Quad 1.5 GHz)แรงจริงใช้แล้วไม่ร้อน เจออาการลากไม่ไป 1-2 วิสัก 2-3 วันครั้ง อาจจะมี software update มาแก้เรื่องนี้ในอนาคต
GPUMali T760เล่นเกมกราฟิกหนักๆก็แรงและสวยดีไม่มีกระตุก แต่เอาจริงๆต้องทดสอบเป็นรายเกมไป ปัญหาส่วนมากอยู่ที่ตัวเกมเป็นหลัก
หน่วยความจำRAM 4GB + ROM 32GB UFS2.0 (เพิ่ม microSD ไม่ได้)แรมเยอะ สลับแอปใช้งานได้ 7-10 แอปได้ไม่ยาก เสียดายที่เพิ่มเมมไม่ได้ทำให้ค่าใช้จ่ายบานสำหรับคนที่ต้องการหน่วยความจำสูงๆ รูปที่ถ่ายออกมาแบบเต็มความละเอียดก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่ 32GB ใช้ให้เต็มได้ไม่ยากเลย
หน้าจอSuper AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว Quad HD (2560×1440) (~518 ppi) Gorilla Glass 4จอใหญ่ขึ้นกว่า S6 Edge พอสมควร เล่นแอป ดูยูทูปแล้วเต็มตากว่ามาก ขอบจอโค้งสวยดีแต่ใช้งานจริงแอบกดส่วนที่อยู่ตรงจอโค้งลำบากนิดนึง มีข้องใจคือทำไม refresh rate มันแปลกๆ เข้ากล้องกี่ตัวๆก็ภาพสั่นตลอด (ดูตัวอย่างในคลิปข้างบน) และแสงหน้าจอในที่มืดยังสว่างไปหน่อย
SIMnano SIM 
เครือข่ายที่รองรับ3G ทุกเครือข่าย 850/900/1900/2100MHz 
 รองรับ 4G LTE ทั้ง 850/900/1800/2100MHzรองรับความถี่ที่กำลังจะประมูลในไทยในอนาคตทุกคลื่น แต่หงุดหงิดเครื่อง Samsung เวลาไปบางประเทศแล้ว APN ไม่มีการเซฟเอาไว้ให้ ต้องวุ่นวายหาตั้งค่าเองใหม่
ความเร็วอินเทอร์เนตสูงสุดHSDPA, 42.2 Mbps;
CAT 6 (300/50), CAT 9 (450/50)
 
WiFiWi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, MIMO (2×2) PCle, Wi-Fi Direct, Wi-Fi hotspot 
การเชื่อมต่อBluetooth v4.2 (LE, ANT+) // microUSB v2.0 // NFC // IR LED // MHL 3.0 
กล้องหลัง16 ล้านพิกเซล + f/1.9 + autofocus + LED flash + Smart OISกล้องถ่ายภาพออกมาให้สีสันชัดสดใสดี หลายๆคนโหวตชอบกันไม่น้อยเมื่อตอนถ่ายภาพเปรียบเทียบกับ LG G4 และ iPhone 6s Plus มีเรื่องน่ายินดีเรื่องการวัดแสงที่ปรับให้ตามจุดที่โฟกัสซักที หลังจากที่ดื้อไม่ยอมทำให้มาอยู่นาน
กล้องหน้า5 ล้านพิกเซล + f/1.9 + ซอฟท์แวร์ปรับแก้ภาพบิดเบี้ยวกล้องหน้าแม้ปิดโหมดบิวตี้ไปแล้ว ภาพก็ยังดูมีการเกลี่ยสีผิวให้อยู่พอสมควร ที่ชอบคือมีโหมด shape correction ทำให้ขอบภาพไม่ยืดบิดเบี้ยวผิดรูป และพวกโหมดยกมือ หรือสั่งงานด้วยเสียงเพื่อกดชัตเตอร์ก็เจ๋งจริง ใช้แล้วเพื่อนๆปลื้มปริ่มเวลาเซลฟี่
เสียงลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม., Ultra Hight Quality Audio Support (~192KHz, 24bit) 
SensorsGesture, Accelerometer, Gyro, Proximity, Hall Sensor, Geo-Magnetic, RGB,Barometer, Finger Scanner, UV, Heart Rate Monitoring, SpO2 
GPSA-GPS + GLONASS + Beidouจับสัญญานแม่นยำและรวดเร็วดี แต่มีหลุดเอ๋อๆบ้างบางครั้งตอนอยู่ใต้ทางด่วนวันฟ้าครึ้มๆหรือฝนตก
แบตเตอรีLi-Ion 3,000 mAh + Fast Charge (เปลี่ยนแบตไม่ได้)ใช้งานได้วันนึงสบายๆ แต่ไม่ถึงกับอึดมาก มีโหมดชาร์จเร็วที่เร็วทันใจดี หดลงไปเกิน 50% ชาร์จแค่ 10-20 นาทีก็ได้กลับมาเกือบเต็มละ
ขนาดและน้ำหนัก154.4 x 75.8 x 6.9., 153 กรัมน้ำหนักกำลังพอดีๆ ขอบข้างเล็กไม่ได้มีผลต่อการจับถือมาก มีทั้งคนชอบและไม่ชอบในขนาดของมัน ดีไซน์และวัสดุยังงามเหมือน S6 Edge แต่ยังมีปัญหาเรื่องรอยนิ้วมือที่ติดเครื่องได้ง่าย และต้องระวังอย่าทำตกไม่งั้นจอมีสิทธิ์แตกร้าวได้เหมือนกันแม้ว่าจะเป็น Gorilla Glass 4 ก็ตาม

 

รวมๆต้องบอกว่ามันโอเคนะไม่เจออะไรผิดปกติ ทุกอย่างก็จัดหามาใส่ให้ไม่ได้ต่างอะไรจากมือถือเรือธงรุ่นอื่นๆ และช่วงนี้น่าจะได้เห็นโฆษณาเจ้า Galaxy S6 Edge+ สะพัดอยู่เต็มทีวีและยูทูปเรื่องกล้องที่ปรับสปีดชัตเตอร์ความเร็วสูงได้ ซึ่งทางเราก็ได้ลองทดสอบเล่นกันดูแล้วว่าใช้งานจริงได้ขนาดไหน และได้ผลมาดังภาพด้านล่างนี้ แต่ที่มาที่ไป รวมถึงวิธีการถ่ายรอติดตามเร็วๆนี้ เดี๋ยวให้น้อง Deurimo มาเล่าประสบการณ์ส่วนนี้ให้ฟังแยกไปละกัน

สำหรับภาพเพิ่มเติมจากกล้อง Galaxy S6 Edge+ ลองเข้าไปดูที่แอป DroidShotเอาละกันนะครับ

และเดี๋ยวกำลังจะปล่อยคลิปเปรียบเทียบคลิปที่ถ่ายจากกล้องวิดีโอของ Galaxy S6 Edge+ vs iPhone 6s Plus ให้ได้ชมเร็วๆนี้ครับ รอติดตาม 🙂

 

สรุปข้อดี-เสีย Galaxy S6 Edge Plus

  • ดีไซน์สวย วัสดุพรีเมียมสุดๆ สาวกค่ายอื่นเห็นยังต้องเหลียวมอง
  • กล้องหลังแจ่มสวยชัด โหมดแมนวลปรับแต่งได้ครบถ้วน
  • กล้องหน้าโอเค มีปรับแก้ขอบภาพที่ยืดให้ สั่งงานด้วยท่าทางหรือเสียงได้
  • ชาร์จเร็ว

ปัญหาที่พบ

  • เครื่องมีค้างไม่ตอบสนองต่อการสัมผัส
  • เครื่องมีรอยนิ้วมือง่าย​ (แต่ส่วนมากใส่เคสกันมั้ง)