หลังจากที่เราได้เคยรีวิว Sony Android TV ไปแล้วทีนึง ซึ่งเราได้นำเอารุ่นจอ 50 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD มาเล่าให้ฟังว่ามันมีอะไรเด่น น่าซื้อรึเปล่าไปแล้ว มาวันนี้เราขอนำเอารุ่นจอ 4K ขนาด 55 นิ้วมาลองเล่นอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้จะขอมาเน้นเรื่องการใช้งานว่าทำไมต้องซื้อโทรทัศน์ที่มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการณ์แอนดรอยด์ หาเหตุผลเพิ่มเติมให้เหล่าพ่อบ้านที่กำลังเล็งหาทีวีใหม่สักเครื่อง เพื่อไปขออนุมัติงบจากเหล่ากวางน้อย ผบ.สูงสุดในบ้านกัน (กวางน้อยกับผบ.มันฟังดูขัดกันยังไงไม่รู้แฮะ -_-)”

    ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ KD-55X8500C กันก่อน​ โดยเจ้าเครื่องนี้ได้ถูกวางจำหน่ายไปเรียบร้อยแล้วในประเทศไทย สนนราคาหากันได้ไม่แพงกว่า 54,990 บาท จัดอยู่ในรุ่น Entry 4K เหนือจากรุ่นที่เราเคยรีวิวไปก่อนหน้าสเตปนึง เมื่อนำมาเปรียบเทียบแล้วจะพบว่ามีจุดที่ต่างกันหลายส่วนอยู่สรุปคร่าวๆได้ประมาณนี้

รุ่น

KD-55X8500C

KDL-50W800C

ขนาดหน้าจอ

54.6″, 16:9

49.5″, 16:9

ความละเอียด

QFHD (4K)

Full HD (1920×1080)

TV Tuner

DVB-T/T2

DVB-T/T2

ระบบสี

PAL, SECAM, NTSC 3.58, NTSC 4.43

วงจรประมวลผลภาพ

4K X-Reality PRO

X-Reality PRO

Motionflow™

Motionflow XR 800Hz

จอภาพ TRILUMINOS™

ใช่

ลักษณะลำโพง

Bass Reflex

ระบบเสียง

S-Master Digital Amplifier, S-FORCE Front Surround, Dolby Digital, Dolby Digital Plus, Dolby Pulse

คุณสมบัติของลำโพง

2ch, Full Range(30×80มม.)x2, กำลังขับ 10W+10W

การกินไฟ

202 วัตต์

94 วัตต์

การกินไฟขณะปิดเครื่อง

0.5W

0.5W

ขนาด (กว้าง x ยาว x ลึก) ม.ม. ไม่มีขาตั้ง

ประมาณ 1236 x 722 x 60 (20.3) มม.

ประมาณ 1116 x 654 x 59 (12.6) มม.

น้ำหนักโดยไม่มีขาตั้ง

ประมาณ 19.9 กก.

ประมาณ 13.7 กก.

 

    สำหรับ Sony Android TV รุ่น KD-55X8500C ตัวนี้ เราจะไม่ได้ลงลึกไปเรื่องการทดสอบภาพและเสียงมากมายนะ แต่จะเน้นไปที่เรื่องของฟีเจอร์การใช้งานมากกว่า เลยจะขอสรุปแบบคร่าวๆเท่าที่สัมผัสได้มาประมาณนี้

    จอ 4K กับระบบเสียงที่ให้มาจัดว่าคมชัดกระหึ่มกว่าทีวีที่บ้านใช้อยู่เยอะเลย (คืออายุมันก็หลายปีละแหละ ทำเอาอยากเปลี่ยนเลย 555) และแม้ว่าไฟล์ภาพที่นำมาเปิดบนจอ 4K ไม่ละเอียดมาก เจ้า KD-55X8500C ก็ยังสามารถเกลี่ยภาพให้ออกมาดูโอเคได้อยู่ เมื่อเปิดดูหนังจะรู้สึกว่าภาพมีความคมและสีสดขึ้นต่างจากทีวีที่ใช้อยู่แบบสังเกตได้ เข้าใจว่าเป็นเพราะเทคโนโลยี 4K X-Reality Pro และ Triluminos ซึ่งเป็นตัวประมวลผลเฉพาะของทาง Sony นั่นเอง รวมถึงยังมีชิปประมวลผล 4K Processor X1 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของทั้ง 2 เทคโนโลยีขึ้นมาอีก ความคมชัดจึงมีมากกว่ารุ่นปีที่แล้ว ยังไงลองไปดูของจริงได้ตามร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำที่เอาทีวีหลายๆเครื่องมาวางข้างๆประชันกันดูนะ

    ถ้าระบบเสียงในทีวีที่มีมายังไม่สะใจพอ สามารถต่อสายออกไปยังเครื่องเสียงภายนอกได้จากช่องต่างๆที่มีมามากมายด้านหลังทีวี และยังมีช่องสำหรับต่อเสียบสาย HDMI เข้าไปอีกเยอะเลย มาดูสรุปกันหน่อยว่ามีพอร์ทอะไรบ้างละกัน

การเชื่อมต่อ

  • HDMI x4 (HDCP2.2 + รองรับ MHL)

  • Bluetooth

  • ช่องต่อสัญญาณเสียงอนาล็อคสำหรับ HDMI x1

  • USB x3

  • LAN x1

  • Video Composite

  • Video Component

  • ช่องต่อ RF x1

  • ช่องต่อเสียงเข้าอนาล็อค x2

  • ช่องต่อเสียงออกดิจิตอล x1

  • 3.5mm Audio Out

    เรื่องการใช้งานทั่วไป เราเอามาทำการทดสอบหาสเปคและวัด Benchmark ต่างๆ จะพบว่าตัว CPU GPU จะใช้เป็นตัวเดียวกับของรุ่น 50W800C ซึ่งวัดประสิทธิภาพเป็นตัวเลขทำออกมาได้น้อยกว่าด้วยเหตุผลว่าหน้าจอความละเอียดที่มากกว่า ต้องมีการประมวลผลที่กินทรัพยากรมากขึ้น แต่จุดที่น่าสนใจคือเรื่องการเล่นเกมแล้วกระตุกกลับไม่มีปัญหาให้เห็น สามารถเล่นเกมได้ลื่นไหลกว่ารุ่นที่เคยเล่นก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัดแม้จะเล่นเกมที่เล่นหลายคนพร้อมๆกันอย่าง Bombsquad หรือ Beach Buggy Racing ก็วิ่งกันเพลินๆ เล่นกันยาวๆ เวลาผ่านไปแบบไม่รู้ตัว เพื่อนยิ่งเยอะยิ่งผ่านไปอย่างไวเลยทีเดียว


ผลการทดสอบ Benchmark ด้วย AnTuTu

 

ผลการทดสอบ Benchmark ด้วย Ice Storm Extreme ของ 3DMark

 

ผลการทดสอบ Benchmark ด้วย Ice Storm Extreme ของ 3DMark

 

    ส่วนข้อที่อาจทำให้ตะหงิดๆใจเล็กน้อยคือตอนกดๆเล่นส่วนต่างๆกับสลับแอป จะพบกับอาการกระตุกหรือชะงักเบาๆ และเรื่องของแอปบางตัวที่อาจจะยังทำมารองรับหน้าจอ 4K ไม่ดีนัก มีเข้าแล้วแล้วแอปเด้งให้เห็นอยู่เนืองๆนั่นเอง

    เอาล่ะ สำหรับเหล่าพ่อบ้านที่มีใจจะซื้ออยู่แล้ว เชื่อว่าไม่ต้องพูดอะไรมาก เห็นของเล่นใหม่ ทีวีที่บ้านจะดูเก่าลงไปถนัดตา เตรียมกำเงินไปซื้อกันอยู่แล้ว แต่ปัญหากลับอยู่ที่ว่าเงินไม่ได้อยู่ให้เรากำ แต่เป็นผบ.สูงสุดที่กำเอาไว้แน่นนั่นเอง และนี่เป็นเหตุผลที่เราขอแนะนำให้เอาไปเดโม เล่นเป็นตัวอย่างให้ผบ.กวางน้อยได้ใจอ่อนกัน

  1. ดูทีวีดิจิตอลได้ภาพเนียนใสกิ๊ก สามารถดูผังรายการทีวีล่วงหน้าได้


    บิ้วท์อินตัวรับสัญญาณทีวีดิจิตอล เปิดช่อง HD ได้ภาพคมกริ๊บ! อัพสเกลภาพได้ละเอียดเกือบเท่าระดับ 4K เลือกภาษาที่ต้องการเล่นได้ทั้งเสียงและซับ ไม่ต้องมาหยิบเปลี่ยนรีโมทหลายอันไปมา 


    ช่องทีวีดิจิตอลมีให้เลือกดูเยอะอยู่ สามารถดูรายการที่กำลังจะมาต่อไปได้ด้วย

    วิธีใช้ ตัวเครื่องมีที่แปลงสัญญาณทีวีดิจิตอล แต่ว่าเสาต้องซื้อเองนะ ไปเดโมที่ร้านในห้างอาจจะลำบากหน่อย แต่ถ้าดูได้ก็กดเข้าไปที่ Home >> แล้วเลือก Input เป็น Digital

  2. นำภาพตอนไปเที่ยวที่ถ่ายจากมือถือขึ้นทีวีได้อย่างง่ายดายผ่าน Screen Mirroring, Google Cast, หรือสาย MHL

    เราแนะนำให้ใช้สาย MHL ที่สุดเพราะชัวร์และได้ภาพขึ้นจอรวดเร็วและสวยงาม แต่ตรวจสอบก่อนด้วยนะว่าโทรศัพท์ของเรารองรับการเชื่อมต่อด้วยสาย MHL
    แต่ถ้านั่นยังไม่ทำให้ผบ.พอใจ ลองปรับเอาเรื่องงานบังหน้า โดยบอกว่าเอาไว้พรีเซนต์คุยงาน ดึงภาพจาก Notebook ได้สบายๆก็ได้

  3. แชร์ภาพกับเพื่อนๆที่ไปเที่ยวด้วยกันมาได้ง่ายๆ และดึงรูปมาได้อย่างไว



    วิธีใช้ เข้าไปที่แอป Photo Sharing Plus

  4. เปิดดู YouTube รายการทีวีที่ชอบหรือฟัง MV ทั้งไทยและต่างชาติได้อย่างเนียน

    ข้อนี้ถ้าจะเอาเนียนๆ ให้ทำ playlist ของเพลงหรือรายการทีวีที่ท่านผบ.ชอบเอาไว้ก่อน ไปทำผ่าน Desktop ก็จะง่ายดี เพราะมันซิงค์ไปมาผ่าน Google Account อยู่แล้ว จากนั้นตอนเดโม ก็จะดูลื่นไหล เซอร์ไพร์สท่านผบ.ได้ชะงัดนัก

  5. เช่า-ซื้อหนังมาดูบนทีวีได้ทันทีผ่าน Google Play Movie


    บอกลาการเดินไปเช่าหนังจากร้านไปได้เลย ไม่ต้องเมื่อย ไม่ต้องไปเสี่ยงดวงว่าแผ่นจะอยู่รึเปล่า แถมยังมีหนังเข้ามาอัพเดทให้เราเรื่อยๆ จะเลือกดูบนทีวีหรือว่ามือถือแท็บเล็ตระหว่างเดินทางก็ได้ เช่าซื้อแค่ทีเดียวดูได้หลายอุปกรณ์กันไปเลย

  6. เรียกไฟล์หนังหรือเพลงที่ต้องการจะเล่นจาก Desktop, Notebook หรือ NAS ผ่านวงแลน หรือเสียบต่อเล่นด้วย USB Thumbdrive

    สำหรับเหล่าพ่อบ้านผู้มีความสามารถหาไฟล์หนังและเพลงมาลงเครื่องได้แล้วไซร้ หลายๆคนอาจจะพอทราบวิธีนำภาพขึ้นทีวีอยู่บ้างแล้ว แต่ว่าด้วย Sony Android TV เราสามารถทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม ตัวแอปวิดีโอรองรับการใช้งานแบบนี้อยู่แล้ว พร้อมกดเรียกซีรีย์สฮิตของท่านผบ.มาดูได้ทันทีทันใจ

  7. ควบคุมบังคับการทำงานได้ง่ายๆด้วยรีโมทคอนโทรลแบบสัมผัส


    รีโมทที่เพิ่งได้มารีวิวในครั้งนี้ ซึ่งจุดเด่นไม่ได้มีเพียงแค่รีโมทแบบสัมผัสถูๆไถๆ แต่ว่ามันสามารถรับเสียงพูดเราได้ด้วย อยากจะหาหนังหรือเพลงอะไรก็แค่พูดเข้าไปที่รีโมทได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ให้เมื่อย

  8. โหลดรีโมทสำหรับควบคุมการทำงานแสนง่าย


    ถ้ารีโมทเดียวไม่เพียงพอ เราสามารถโหลดแอปที่ใช้เป็นรีโมทเพื่อควบคุม Sony Android TV ได้เลย กดได้ดีเทียบเท่าหรือดีกว่าที่มีมาให้ในกล่องเสียด้วยซ้ำไปนะ สามารถพิมพ์พาสเวิร์ดผ่านแอปนี้ จะได้ไม่มีใครเห็นว่าเราพิมพ์อะไรนะ

    วิธีใช้ เข้าไปโหลดแอปจาก Play Store มาลงมือถือเราได้เลย

  9. เล่นเกมกับครอบครัวและเพื่อนฝูง แบบคุณพ่อคุณแม่เล่นได้ คุณลูกเล่นดี

    เกมเจ๋งๆสำหรับเล่นหลายๆคนบนจอใหญ่ๆมีให้เลือกมากมาย โดยเกมหนึ่งที่นาย Akexorcist ก็เพิ่งรีวิวไป ได้แก่ Bombsquad ที่จะมาช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์กับคนที่มาร่วมเล่นได้เป็นอย่างดี

    หรือถ้าจะเล่นเดี่ยวๆ ก็จะมีเกมสนุกๆให้เล่นมากมาย ทั้งแบบจริงจังหรือฆ่าเวลาทั่วไปก็ได้ ข้อดีคือข้อมูลระหว่างบนทีวีกับมือถือจะสามารถเชื่อมต่อกันได้ เล่นบนทีวีแล้วต้องออกนอกบ้าน เราก็ยังเซฟแล้วเอาไปเล่นบนมือถือต่อก็ยังได้นะ

    ถ้ายังจริงจังไม่พอ เราสามารถไปซื้อจอยมาเชื่อมต่อด้วยก็ได้นะ เคยลองเชื่อมต่อทีนึง 4-5 จอยก็ยังทำได้อยู่ล่ะ

    เข้าเกมไปก็จะทำการปรับแต่งการบังคับก่อนเล่นได้


    ตัวจอยแบบนี้มักจะมีสายต่อพ่วงแถมมาให้ในกล่อง เพื่อให้โยงช่อง USB ที่เสียบตัวรับสัญญาณมาไว้ด้านหน้าทีวีแทน ซึ่งจะทำให้ตัวจอยสามารถตอบรับการกดได้ไวขึ้น

  10. เปลี่ยนเป็นเครื่องเสียง ฟังเพลงสบายๆจากทีวีโดยไม่ต้องเปิดจอ


    เรื่องเบสิคง่ายๆแต่ว่าเป็นคิลลิ่งฟีเจอร์ได้เหมือนกัน เพราะสามารถเปิด YouTube หรือแอปฟังเพลงต่างๆให้มีแต่เสียงออกมา ไม่ต้องเสียสมาธิดูภาพ และประหยัดไฟลงไปได้โขอยู่

    วิธีใช้
    เข้าไปเล่นพวกแอป YouTube ระหว่างเล่นก็ให้แตะ action menu บนรีโมท > เลือก “ปิดภาพ”

ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจ หรือทำไม่เป็นตรงไหนลองดูตามคลิปนี้นะ
Play video

    ทั้งหมดนี้ แนะนำว่าก่อนที่จะพยายามขายแทนพนักงานขาย ควรแอบไปลองเล่นจนคล่องก่อน ตอนโชว์จะได้เห็นว่ามันใช้ง๊ายยยยง่าย กวางน้อยก็สามารถใช้ได้สบายๆนั่นเองครับ 😛

    ขอจบการรีวิวและแนะนำความสามารถของ Android TV สำหรับเอาไปล่อลวงกวางน้อยแต่เพียงเท่านี้ หากใครได้ไปลองเล่น หรือสามารถนำมันกลับมาบ้านได้ฝากเอามาเล่าให้ฟังด้วยนะครับว่าเป็นอย่างไร ต้องผ่านด่านในการเลือกซื้ออย่างไรบ้าง มีคำถามเพิ่มเติม หรืออยากเสริมอะไร มาคุยกันในคอมเม้นท์คร้าบ ^^