ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปี 2018 ที่ผ่านมานั้นเป็นปีที่ค่อนข้างทุลักทุเลสำหรับตลาดสมาร์ทโฟนทั้งในแง่การชะลอตัวของความต้องการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ของผู้บริโภคเอง รวมไปถึงปัจจัยปัญหาทางเศรษฐกิจรอบโลก ชนิดที่ผู้ผลิตรายใหญ่ทุกรายยกเว้น Huawei กับ Xiaomi ล้วนพบกับยอดขายที่ลดลง โดยภาพรวมของตลาดเองก็มียอดขายที่ลดลง 4.1% เมื่อเทียบกับปี 2017 เรียกได้ว่าแย่สุดๆ ในยุคของสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว
Samsung และ Apple จำนวนยอดขายที่ลดลง กับ ส่วนแบ่งตลาดที่ทรงตัว…
ในภาพรวมนั้น จำนวนยอดขายของสมาร์ทโฟนอยู่ที่ 1,404 ล้านเครื่องสำหรับปี 2018 โดยลดลงมากถึง 4.1% เมื่อเทียบกับปี 2017 ที่มียอดขายอยู่ที่ 1,465 ล้านเครื่อง เรียกว่าสถานการณ์แย่ที่สุดตั้งแต่เราเข้าสู่ยุคของสมาร์ทโฟนมาเลยก็ว่าได้ สำหรับเจ้าตลาดนั้นยังคงเป็น Samsung ที่ครองตำแหน่งเอาไว้ได้ที่ยอดขาย 292.3 ล้านเครื่อง พร้อม Market Share ที่ 20.8% ถึงแม้จะยังคงดูดีเมื่อเทียบกับคู่แข่ง แต่ตัวเลขดังกล่าวลดลงมาจากปี 2017 ถึง 8% ที่เคยทำยอดขายได้ถึง 317.7 ล้านเครื่องเลยทีเดียว โดยจากรายงาน Market Share ลดลงไม่มากนักที่ราวๆ 0.9%
อันดับถัดมาก็ยังคงเป็น Apple ที่ตามหลัง Samsung อยู่ห่างๆที่ยอดขาย 208.8 ล้านเครื่อง ลดลงจากปีก่อนหน้าแค่ 3% ที่เคยทำได้ 215.8 ล้านเครื่องจากปี 2017 มีจุดน่าสนใจอยู่ไม่น้อยก็คือ Market Share ดันเพิ่มขึ้นถึงแม้จะเล็กน้อยแค่ 0.2% แต่ก็นับว่าเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 14.9% ความหมายแบบง่ายๆจุดนี้ก็คือ ยอดขายที่ลดลงนั้นทำได้ดีกว่าภาพรวมของทั้งตลาด (และ Samsung) ทำให้มี Market Share ที่เพิ่มขึ้นมาได้เล็กน้อยนั่นเอง
*ข้อมูลสถิติทั้งหมดจัดทำโดย IDC Corporate USA
ตลาดชะลอตัว แต่ Huawei กับ Xiaomi ยังโตต่อ ไม่รอแล้วนะ…
น่าจะได้ยินกันแว่วๆ มาพักนึงแล้วสำหรับยอดขายอันน่าประทับใจของ Huawei ในปัจจุบันซึ่งตัวเลขทางสถิติก็ออกมาการันตีผลงานทำสถิติยอดขายเกิน 200 ล้านเครื่องเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์เอง มียอดขายปี 2018 อยู่ที่ 206 ล้านเครื่อง โดยเพิ่มขึ้นมาถึง 52 ล้านเครื่องจากปี 2017 จนเรียกได้ว่ากดคันเร่งไล่จี้ก้น Apple iPhone ที่มียอดขายมากกว่ากันแค่ 2.8 ล้านเครื่องเท่านั้น ด้าน Market Share ก็เช่นเดียวกัน Huawei ทำส่วนแบ่งได้ถึง 14.7% เป็นที่เรียบร้อย ถึงแม้สถานการณ์ปัจจุบันไม่สู้ดีนัก รุมเร้าไปด้วยปัญหาทางการเมืองรอบด้าน ต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่าปี 2019 จะไปต่อได้อีกหรือไม่
อีกชื่อหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ “อีกยักษ์ใหญ่จากจีน จอมอัดสเปค ตัดราคาเพื่อนบ้านเก่ง พร้อมนำเสนอ ecosystem ของแบรนด์เองเป็นจุดขาย” อย่าง Xiaomi นั้นมียอดขายที่เพิ่มขึ้นถึง 30 ล้านเครื่อง โดยปี 2018 ทำได้มากถึง 122.6 ล้านเครื่องถือ Market Share 8.7% แซงหน้า Oppo ที่ขายได้ 113.1 ล้านเครื่อง พร้อม Market Share 8.1% ขึ้นเป็นอันดับ 4 แทน และด้วยกลยุทธ์หลักๆที่กล่าวถึงข้างต้นนั้นดูจะใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบกับประเทศกลุ่มกำลังพัฒนาที่ต้องการเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำๆ แต่ยังไม่พร้อมจ่ายหนัก ตัวอย่างที่ดีคืออินเดียที่ทำยอดขายแซง Samsung ไปแล้ว… เรียบร้อย!
ถ้ามองกันเฉพาะไตรมาสที่ผ่านมา (ไตรมาส 4 ปี 2018) เพียวๆ ยิ่งแล้วใหญ่ ถึงแม้ Samsung จะยังคงทำยอดขายเป็นอันดับ 1 ได้ต่อไปอีกหนึ่งเฮือก แต่ตัวเลข 70.4 ล้านเครื่องนั้นไม่ห่างไกลจาก Apple และ Huawei นัก แต่ที่ผิดหวังหนักคือ Apple เพราะเป็นไตรมาสที่ต้องปัง เนื่องจากการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ๆ อย่าง iPhone XR, iPhone XS | XS Max แต่กลับทำยอดขายได้น้อยลงที่ราวๆ 68 ล้านเครื่อง ส่วน Huawei ตามมาไม่ห่างที่ 60.5 ล้านเครื่องแถมเติบโตก้าวกระโดด 44% เทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อนหน้า
ที่มา: phoneArena | IDC Corporate USA
กอดคอกันแพง ก็กอดคอกันร่วงหละครับ กฎธรรมชาติ
คุณอาจอัพราคาเพื่อสร้างโพซิชั่นได้บ้าง
แต่พอถึงจุดที่คนเขารับไม่ไหวเขาก็ไปแบรนด์อื่น มันก็เท่านี้
ถ้า S10 ยังดันทุรังจะใช้ทฤษฎีนี้ต่อ ก็ตามสบาย
เผื่อไม่ได้สังเกตุกัน หัวเว่ย mate20pro ตัวล่าสุด ราคาแพงกว่าราคาเปิดตัว note9 แล้วนะครับ
เมื่อแบรนด์ติดตลาด สิ่งที่พ่อค้าทุกคนจะทำ คือค่อยๆ ปรับราคา และกอบโกยขดเชยสิ่งที่เสียไป
เค้าเป็นบริษัท ไม่ใช่องค์กรการกุศลครับ
รุ่นอื่นของ Huawei ที่ไม่เป็นรุ่นท็อปหรือเป็นแบรนด์ Honor นี่ราคาคุ้มค่ามากอยู่ครับ แต่ซัมซุงทุกระดับราคา แพงนะเมื่อเทียบกับสเป็ค
มันจะค่อยๆปรับขึ้นมาครับ อย่าง mate นี่คือ แพงขึ้นจากปีที่แล้ว 4000 ครับ
ยิ่งดัง ยิ่งติดตลาด จะยิ่งค่อยๆฟัน ค่อยๆเชือด รู้ตัวอีกที ก็กอดคอแอปเปิ้ลแล้วครับ
note 9 ราคาเปิดตัว 33,900
mate 20 pro ราคาเปิดตัว 31,900
ไอ้coolcoolน่าโง่
robert.t 31,990 เองหราาา ทำไมตั้งราคาถูกจังถูกจัง
กรอกตาขึ้นไปดูที่ความเห็นแรกท่านบอก
"กอดคอกันแพง ก็กอดคอกันร่วงหละครับ กฎธรรมชาติ
คุณอาจอัพราคาเพื่อสร้างโพซิชั่นได้บ้าง
แต่พอถึงจุดที่คนเขารับไม่ไหวเขาก็ไปแบรนด์อื่น มันก็เท่านี้"
อ่ะ ถูก ก็ถูก
มีน่าโง่หัวร้อนตัวนึงมันบอก "เผื่อไม่ได้สังเกตุกัน หัวเว่ย mate20pro ตัวล่าสุด ราคาแพงกว่าราคาเปิดตัว note9 แล้วนะครับ"
โง่เหมือนลืมสมองไว้ในท้องแม่
ถ้าแพงแล้วมีนวัตกรรมใหม่ๆ ก็โอเคอยู่ บางแบรนดแพงหูฉี่ได้แค่cpuใหม่
แรงที่สุดในโลก แซงโน้ตบุ๊กทุกตัวที่มี แต่ผู้ใช้ก็เอาแค่เล่นไลน์ เล่นเฟซ ถ่ายรูป เล่นเกม แค่นั้นอะ เก่งหน่อยก็ตัดต่อวิดีโอ แต่งรูป ทำกราฟิกเล็กๆ น้อย เหมือนเอาซุปเปอร์คาร์มาขับจ่ายตลาดห่างบ้าน 300 เมตร
ปัญหาคือ เค้าเคยเป็นของดี ราคาไม่แพง และมีนวัตกรรมใหม่ๆ ไปพร้อมๆกันไงครับ
พูดง่ายๆ คือตอนนี้ เริ่มเข้าสู้ ฤดูเก็บเกี่ยว
ตกใจคำว่าแซงโน้ตบุ๊กทุกตัวที่มี อันนี้นับพวกเกินระดับi7HQด้วยหรือเปล่า ถ้าจริงนี้โหดเกินเลยนะ
Huawei รุ่นใหญ่แพงจริง แต่มี nova กับ honor มาแทนได้ครับใน spec เรือธง แต่ราคา 1x,xxx
ซัพแบรนด์ ทำมาเพื่อ ขายในราคาแทบไม่เอากำไร
เพื่อที่จะได้ยอดตัวเลขเครื่อง เอามาอวดอันดับโลกเฉยๆ ครับ
ยังดีกว่า ค่ายนึงคับ แพงแล้ว แทนที่จะได้สเปค เรือธง
ใส่ชิพระดับเกือบล่างๆที่ บริษัทตัวเองพัฒนาเอง ฟันกำไร เปนกอบเปนกำ สมควรจะเจ๊งกว่า
ดูในรายละเอียด apple ยังไม่ถึงกับถอย แต่ samsung น่าจะลำบากในตลาด ล่าง-กลาง
ในตลาด เครื่อง 5000-10000 ได้ spec ระดับเรือธง
แต่แบรนด์นี้ 8000-15000 ได้ spec ระดับล่าง (แต่อ้างการใช้งาน) เพิ่มนู้น ลดนี่ ตัดนั่น เพื่อไห้ได้กำไรสูงสุด สงสาร ลุงๆป๊าๆ รอบข้างถือกันแต่มือถือแบรนด์นี้ ในราคา 5000-15000
ส่วนตัว ลองหันมาใช้ มือถือนอกตลาด ตอนนี้พุดเลยว่า ไม่ได้ด้อยกว่าแบรนด์นี้เลย ในระดับล่าง – กลาง เผลอๆทำได้ดีกว่าด้วยซ้ำ
Samsung คงตาสว่าง จากใช้แผนรุ่นแพงสร้างความน่าเชื่อถือ และเสียตลาดอินเดียให้ Xiaomi
คงเปลี่ยนแผนปล่อยรุ่นถูกสเป็คดีขึ้น M10 ,M20 ออกมา น่าจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ตั้งแต่ระดับ ล่าง-กลาง-สูง ที่ผลิตต่อๆมาได้ดีขึ้นนะ
เอาที่ทั้งสองสบายใจ