Bill of Materials หรือ BoM เป็นข้อมูลของราคาต้นทุนในการผลิตสินค้าต่าง ๆ ซึ่งจะบอกว่าสินค้าแต่ละชิ้นมีต้นทุนในส่วนต่าง ๆ อยู่ที่เท่าไหร่กันบ้าง ล่าสุดก็ได้มีข้อมูล BoM ของมือถือเรือธงสุดฮิตอย่าง Galaxy S23 Ultra ออกมาให้ได้ดูกันแล้ว ผลปรากฎว่าส่วนที่ต้องใช้ต้นทุนในการผลิตมากที่สุดก็คือฝั่งของการประมวลผลหรือชิปนั่นเอง

บริษัทวิจัยการตลาด Counterpoint Research ออกมาเผยข้อมูลราคาต้นทุนในการผลิตมือถือ Galaxy S23 Ultra ว่าแต่ละเครื่องมีค่าใช้จ่ายในการผลิตออกมาจนเสร็จอยู่ที่เท่าไหร่ โดยมือถือเรือธงดังกล่าวคำนวณออกมาแล้วมีราคาในการผลิตอยู่ที่ 469 ดอลลาร์ หรือราว ๆ 16,275 บาท ต่อเครื่อง (ราคาไม่รวมค่าแรง, ค่าการตลาด และอื่น ๆ อีกนะครับ)

พอมาแยกให้ดูว่าส่วนไหนของมือถือที่ใช้ต้นทุนในการผลิตสูงที่สุดก็จะได้ออกมาตามนี้ (ตัวเลขเกิน 100% นิดนึงเพราะตัดหน่วยทศนิยมออกนะครับ)

  • Processing + Cellular (ด้านชิปประมวลผลและสัญญาณมือถือ) ใช้ต้นทุน 35% 
  • Display (จอแสดงผล) ใช้ต้นทุน 18%
  • Others (อื่น ๆ พวกมอเตอร์สั่น, พอร์ตเชื่อมต่อ, การกันน้ำ, แผ่นวงจร ฯลฯ) ใช้ต้นทุน 15%
  • Camera (กล้อง) ใช้ต้นทุน 14%
  • Memory (หน่วยความจำ) ใช้ต้นทุน 11%
  • Casing (ตัวเครื่อง) ใช้ต้นทุน 8%

พอมาแยกให้ดูแบบละเอียดลงไปอีกว่าแต่ละส่วน Samsung ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนที่ผลิตจากบริษัทไหนบ้าง จะพบว่าต้องจ่ายให้ Qualcomm มากที่สุดถึง 34% เพราะมือถือรุ่นนี้ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 นั่นเอง และที่รองลงมาก็คือชิ้นส่วนที่ Samsung สามารถผลิตได้เองถึง 33% ทั้งพวกเซนเซอร์กล้อง (ส่วนนี้จะแชร์กับ Sony ด้วย), หน่วยความจำ และหน้าจอ

ซึ่งตรงส่วนชิปประมวลผลนี่แหละที่น่าจะเป็นเหตุให้ Samsung ใช้ชิป Exynos บนมือถือเรือธงของตัวเองมาอย่างยาวนาน และจะกลับมาใช้อีกทีในรุ่นหน้า เพราะมันเป็นส่วนที่มีราคาแพงที่สุดในการประกอบเครื่อง แน่นอนว่าถ้าใช้ของตัวเองผลิตก็จะลดต้นทุนส่วนนี้ลงไปได้อีกเยอะเลย

 

ที่มา : Counterpoint