Samsung Galaxy Watch 6 Series ได้เปิดตัวมาด้วยกันทั้งหมด 2 รุ่น คือ Watch 6 และ Watch 6 Classic ใครที่ชอบหน้าปัดแบบหมุนเลื่อนคือต้องจัดเลยค่ะ เพราะว่ารุ่น Classic นี้ได้กลับมาพร้อมฟีเจอร์ดังกล่าว อีกทั้งยังได้อัปเกรดจอมาให้ใหญ่ขึ้น ใช้งานได้อย่างจุใจ ทั้งถ่ายรูป โทรเข้าออก ใส่เพื่อเช็คสุขภาพ เป็นต้น ซึ่งมาดูกันใกล้ ๆ เลยดีกว่าว่าจะสวย น่าใช้ ขนาดไหน

FIRST IMPRESSIONS สำรวจตัวเครื่อง

ในที่สุด Droidsans ก็ได้ Galaxy Watch 6 และ Watch 6 Classic มาลองสัมผัสแบบเบา ๆ บอกเลยว่าตื่นเต้นไม่ไหวตอนที่ได้เห็นเป็นครั้งแรก หลังจากเขียนข่าวหลุดใด ๆ และเห็นรูปผ่านจออยู่นาน ในที่สุดก็ได้สัมผัสของจริงซักที ตัวสายมีให้เลือกหลายสี ตั้งแต่เข้มดุดันยันหวานแหวว แค่คำว่าสวยแล้วก็คงยังไม่พอ ต้องขอบอกว่าดูพรีเมี่ยม น่ามาประทับบนข้อมือมาก ๆ

ดีไซน์ตัวเครื่อง

หน้าจอแสดงผล AMOLED มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 1.31 ความละเอียดแบบ 432 x 432 พิกเซล และ 1.47 นิ้ว ความละเอียดแบบ 480 x 480 พิกเซล รูปลักษณ์วงกลมเด่น ใครเห็นเป็นต้องทักว่า “อุ๊ย! นี่ Galaxy Watch 6 ปะคะ”  ในรุ่นนี้ขอบจอมีความเล็ก บางลงยิ่งกว่าเดิม ทำให้จอมีพื้นที่ใหญ่ ดูได้แบบเต็มตามากขึ้น

ดีไซน์มาตามสไตล์ Galaxy Watch Series เลยและสายรัดที่ดูมินิมอล เรียบหรู สำหรับตัวเรือน รุ่น Watch 6 วัสดุทำมาจากอะลูมิเนียม และ รุ่น Classic วัสดุทำมาจาก สแตนเลสสตีล ส่วนหน้าจอจะใช้วัสดุกระจก Sapphire Glass เช่นกัน ซึ่งให้ความแข็งแกร่ง คงทนต่อรอยขีดข่วน และดูลักซ์ชัวรี่ส์ไปพร้อมกัน

ด้านข้างตัวเครื่องมีขนาดบางกว่าเดิมมาให้ ทำให้สวมใส่สบายไม่รู้สึกเกะกะ จะใส่นอนหรือออกกำลังกายก็ไม่ได้มีปัญหา หรือจะใส่ตลอดเวลาเพื่อใช้ฟีเจอร์ด้านสุขภาพตรวจจับก็ไม่ติด

สายนาฬิกาสามารถถอดเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายแบบ One Click ตอนใส่ไม่ต้องเล็งให้ยุ่งยาก เมื่อใส่เข้าไปและปล่อยมือ สายก็จะล็อกให้ทันที

การใช้งาน

ทางด้านการใช้งานทั่วไปก็จะมีทั้ง เชื่อมต่อซิงก์ข้อมูลกับอุปกรณ์ Samsung, การแจ้งเตือนแอปต่าง ๆ, การใช้งานเป็นรีโมทถ่ายรูป สำหรับฟังก์ชันด้านสุขภาพก็อัดมาให้แบบจัดหนักจัดเต็ม ทั้งการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดออกซิเจนในเลือด, วัดความดันโลหิต พร้อมทั้งโหมดออกกำลังกายอีกเพียบ

ที่น่าสนใจคือการใช้ Galaxy Watch Series เพื่อถ่ายรูประยะไกลนี่แหละ ใครที่เป็นสายเซลฟี่ ไปเที่ยวคาเฟ่คนเดียวก็เอาอยู่ แค่วาง Z Flip 5 /Z Fold5 ไว้บนโต๊ะหรือมุมที่ต้องการ จากนั้นก็หมุนหน้าปัดหรือใช้นิ้วกดซูมเข้าออก และกดถ่ายได้เลย

อีกทั้งยังอัปเดตฟังก์ชันการนอนมาเพิ่มให้ด้วย รอบนี้ได้ลงรายละเอียดแบบชัดเจนเลย ว่านอนอะไรยังไงได้คะแนนเท่าไหร่ แล้วต้องแก้ที่ตรงไหนบ้าง

นอกจากนี้ยังได้อัปเกรดชิปใหม่เป็น Exynos W930 พร้อมแบตเตอรี่ที่ใหญ่และใช้งานได้นานมากขึ้น สูงสุด 425mAh ทนทานด้วยมาตรฐาน IP68 5ATM ทนแรงดันน้ำได้ประมาณ 50 เมตรรอบนี้รุ่นมาตรฐานจะเป็นเวอร์ชัน Bluetooth เท่านั้น แต่ตัว Classic จะมีทั้งเวอร์ชัน Bluetooth และ LTE เลย

สเปค Galaxy Watch 6

  • จอแสดงผล : รุ่น 40 มม. AMOLED 1.31″ 432 x 432 พิกเซล รุ่น 44 มม. 1.47″ 480 x 480 พิกเซล
  • วัสดุ : ตัวเรือน : อะลูมิเนียม, กระจกจอ: Sapphire Glass
  • มาตรฐานความคงทน : IP68 / ATM5 / MIL-STD-810
  • ชิปประมวลผล : Exynos W930
  • การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.3, Wi-Fi, GPS, NFC (มีรุ่น 4G ให้เลือก)
  • แบตเตอรี่ : รุ่น 40 มม. 300 mAh และ รุ่น 44 มม. 425 mAh

สเปค Galaxy Watch 6 Classic

  • จอแสดงผล : รุ่น 43 มม. AMOLED 1.31″ 432 x 432 พิกเซล รุ่น 47 มม. 1.47″ 480 x 480 พิกเซล
  • วัสดุ : ตัวเรือน : สแตนเลสสตีล, กระจกจอ: Sapphire Glass
  • มาตรฐานความคงทน : IP68 / ATM5 / MIL-STD-810
  • ชิปประมวลผล : Exynos W930
  • การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.3, Wi-Fi, GPS, NFC (มีรุ่น 4G ให้เลือก)
  • แบตเตอรี่ : รุ่น 43 มม. 300 mAh และ รุ่น 47 มม. 425 mAh

ราคาจำหน่าย

Samsung Galaxy Watch 6 Series มีรุ่นและราคาจำหน่าย ดังนี้

Galaxy Watch 6 มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ ดำ Graphite, เงิน Silver, ทอง Gold

  • รุ่นหน้าปัด 40 มม. Bluetooth ราคา 9,900 บาท
  • รุ่นหน้าปัด 44 มม. Bluetooth ราคา 11,900 บาท

Galaxy Watch 6 Classic มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 2 สี ได้แก่ ดำ Graphite, เงิน Silver

  • รุ่นหน้าปัด 43 มม. Bluetooth ราคา 13,900 บาท
  • รุ่นหน้าปัด 43 มม. LTE ราคา 15,900 บาท
  • รุ่นหน้าปัด 47 มม. Bluetooth ราคา 14,900 บาท
  • รุ่นหน้าปัด 47 มม. LTE ราคา 16,900 บาท